พบผลลัพธ์ทั้งหมด 82 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลและค่าจัดการศพของผู้ที่จ่ายแทนผู้อื่นที่ถูกละเมิด
เงินค่ารักษาพยาบาลและค่าจัดการศพให้แก่ผู้โดยสารที่โดยสารมาในรถคันเกิดเหตุของโจทก์ แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่โจทก์ได้จ่ายไปในการรักษาพยาบาลแก่ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ และค่าจัดการศพผู้ตายที่โดยสารมาในรถยนต์โดยสารของโจทก์ก็ตาม โจทก์ก็หามีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 นายจ้างของผู้ทำละเมิดชดใช้ไม่ เนื่องจากไม่มีกฎหมายให้สิทธิแก่ผู้ที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าจัดการศพแก่ผู้อื่นที่ถูกทำละเมิดเรียกร้องเอาค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากผู้ทำละเมิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาพยาบาลและจัดการศพจากละเมิด: ไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ทำละเมิดหากไม่ใช่การรับช่วงสิทธิ
เงินค่ารักษาพยาบาลผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและค่าจัดการศพผู้ตายที่โดยสารมาในรถยนต์โดยสารของโจทก์ที่ถูกรถยนต์ของจำเลยชนที่โจทก์จ่ายไปตามระเบียบของบริษัทข.ที่โจทก์นำรถยนต์โดยสารเข้าร่วมบริการไม่มีกฎหมายให้สิทธิแก่ผู้ที่จ่ายที่จะเรียกร้องจากผู้ทำละเมิดได้ทั้งกรณีไม่ใช่การรับช่วงสิทธิตามกฎหมายจำเลยจึงไม่ต้องชดใช้เงินดังกล่าวให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3753/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาพยาบาลอนาคตเป็นค่าเสียหายโดยตรง แต่การคิดค่าเสียหายต้องพิจารณาความเป็นไปได้และจำกัดจำนวน
ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต นับว่าเป็นค่าเสียหายโดยตรง ศาลคิดค่า-เสียหายดังกล่าวให้ได้ แต่กรณีของโจทก์ที่ 2 เป็นการพ้นวิสัยที่จะหยั่งรู้ได้แน่ว่าจะมีอาการแทรกซ้อน ทำให้โจทก์ที่ 2 ต้องผ่าตัดหรือไม่ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพียงใดศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดให้โจทก์ที่ 2 เรียกได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 6,000 บาทตามคำขอของโจทก์ที่ 2 โดยสงวนสิทธิที่จะแก้ไขคำพิพากษาภายในกำหนดเวลาสองปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 444 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3753/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การคิดค่ารักษาพยาบาลในอนาคตที่ยังไม่แน่นอน
ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต นับว่าเป็นค่าเสียหายโดยตรง ศาลคิดค่าเสียหายดังกล่าวให้ได้ แต่กรณีของโจทก์ที่ 2 เป็นการพ้นวิสัยที่จะหยั่งรู้ได้แน่ว่าจะมีอาการแทรกซ้อน ทำให้โจทก์ที่ 2ต้องผ่าตัดหรือไม่ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพียงใด ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดให้โจทก์ที่ 2 เรียกได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 6,000 บาทตามคำขอของโจทก์ที่ 2 โดยสงวนสิทธิที่จะแก้ไขคำพิพากษาภายในกำหนดเวลาสองปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สถานะทางครอบครัวเพื่อสิทธิรับค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล/ค่าทำศัลยกรรม
เด็กชาย ฤ เป็นบุตรผู้ตายซึ่งเกิดจากโจทก์ที่ 1 ในขณะที่ผู้ตายและโจทก์ที่ 1 ยังไม่ได้สมรสกัน ต่อมาผู้ตายและโจทก์ที่ 1ได้สมรสกันแล้ว จึงต้องถือว่าเด็กชาย ฤ เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1547 กรณีเรียกค่าสินไหมทดแทนเพราะทำให้เขาถึงตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 ซึ่งได้แก่ค่าปลงศพ และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ กับค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 444 ในกรณีทำให้ผู้อื่นเสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยนั้นแม้หน่วยราชการต้นสังกัดที่ผู้ตายทำงานอยู่ได้ทดรองจ่ายค่าปลงศพและค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้มีสิทธิรับไปแล้ว ก็หาทำให้ผู้กระทำละเมิดต่อผู้ตายพ้นความรับผิดไปไม่ โจทก์ที่ 1 ได้รับบาดแผลฉีกขาดที่แก้มขวา เมื่อรักษาแผลหายแล้วจะมีรอยแผลเป็นที่แก้มขวาทำให้เสียโฉม จะทำให้หายได้ก็โดยทำศัลยกรรมตกแต่ง โจทก์ที่ 1 ย่อมมีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากจำเลยได้ แม้จะยังไม่ได้ให้แพทย์ทำศัลยกรรมตกแต่งก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากละเมิด: ค่ารักษาพยาบาล, ค่าขาดประโยชน์, ค่าเสียบุคคลิกภาพ, และขอบเขตความรับผิดของผู้กระทำละเมิด
โจทก์ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากจำเลยกระทำละเมิดจนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้มีทุกข์ซึ่งโจทก์ไม่มีส่วนผิด โจทก์ย่อมจะหาความสะดวกเพื่อให้ได้รับทุกข์น้อยที่สุดโดยการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้ จำเลยจะกะเกณฑ์ให้โจทก์ไปรับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐหาได้ไม่ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลที่โจทก์ได้จ่ายไปจริง โจทก์ไม่ได้รับเงินเดือนในระหว่างรักษาตัวเนื่องจากเจ็บป่วยเพราะจำเลยกระทำละเมิด จำเลยต้องรับผิดเต็มจำนวนของเงินเดือนที่โจทก์ไม่ได้รับนั้น จำเลยจะเกี่ยง ให้โจทก์นำค่าน้ำมันรถค่าอาหารการกินมาหักจากเงินเดือนก่อนหาได้ไม่ ค่าทนทุกข์ทรมานระหว่างเจ็บป่วยกับค่าสูญเสียบุคลลิกภาพ ต่างก็เป็นค่าเสียหายซึ่งไม่อาจคำนวณเป็นเงินได้ ศาลย่อมกำหนดให้ตามที่เห็นสมควรได้โดยไม่ต้องแบ่งแยกว่าค่าทนทุกข์ทรมานเท่าใดค่าสูญเสียบุคคลิกภาพเท่าใด ค่าเสียหายที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลิกภาพกับค่าเสียหายที่เกิดจากการที่ไม่สามารถประกอบการงานในอนาคตเป็นค่าเสียหายที่ไม่ซ้ำกัน เพราะการเสียบุคคลิกภาพนั้นเป็นการเสียความมีลักษณะสง่าผ่าเผยในสังคม ซึ่งต่างหากจากการเสียความสามารถในการประกอบการงาน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินค่าเสียหายจากละเมิด: ค่ารักษาพยาบาลลดหย่อน-ค่าปลงศพ-ค่าใช้จ่ายจำเป็น
ผู้ตายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อนถึงแก่ความตาย ทางโรงพยาบาลคิดค่าใช้จ่ายแล้วลดค่ารักษาพยาบาลให้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน การที่ผู้ตายได้รับการลดค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิของผู้ตาย ไม่เป็นผลให้ความรับผิดของจำเลยต้องลดลงไปด้วย จำเลยต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนี้เต็มจำนวน
โจทก์ซึ่งเป็นภริยาและบุตรของผู้ตายมีสิทธิเรียกค่าเหมารถพาญาติไปเยี่ยมผู้ตายก่อนถึงแก่ความตายได้
ค่าฉีดยาศพ ค่าจ้างรถบรรทุกศพ ค่าโลงศพ ค่าจัดงานศพ 5 วันค่าทำบุญครบ 7 วัน หรือ 100 วัน ค่าเลี้ยงพระ ค่าผ้าบังสกุลค่าติดกัณฑ์เทศน์ เป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่โจทก์มีสิทธิเรียกจากจำเลยผู้กระทำละเมิดได้.
โจทก์ซึ่งเป็นภริยาและบุตรของผู้ตายมีสิทธิเรียกค่าเหมารถพาญาติไปเยี่ยมผู้ตายก่อนถึงแก่ความตายได้
ค่าฉีดยาศพ ค่าจ้างรถบรรทุกศพ ค่าโลงศพ ค่าจัดงานศพ 5 วันค่าทำบุญครบ 7 วัน หรือ 100 วัน ค่าเลี้ยงพระ ค่าผ้าบังสกุลค่าติดกัณฑ์เทศน์ เป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่โจทก์มีสิทธิเรียกจากจำเลยผู้กระทำละเมิดได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ: การลดหย่อนค่ารักษาพยาบาลไม่กระทบความรับผิดของจำเลย และค่าใช้จ่ายอันจำเป็นในการปลงศพ
ผู้ตายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อนถึงแก่ความตาย ทางโรงพยาบาลคิดค่าใช้จ่ายแล้วลดค่ารักษาพยาบาลให้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน การที่ผู้ตายได้รับการลดค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิของผู้ตาย ไม่เป็นผลให้ความรับผิดของจำเลยต้องลดลงไปด้วย จำเลยต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนี้เต็มจำนวน โจทก์ซึ่งเป็นภริยาและบุตรของผู้ตายมีสิทธิเรียกค่าเหมารถพาญาติไปเยี่ยมผู้ตายก่อนถึงแก่ความตายได้ ค่าฉีดยาศพ ค่าจ้างรถบรรทุกศพ ค่าโลงศพ ค่าจัดงานศพ 5 วันค่าทำบุญครบ 7 วัน หรือ 100 วัน ค่าเลี้ยงพระ ค่าผ้าบังสกุลค่าติดกัณฑ์เทศน์ เป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่โจทก์มีสิทธิเรียกจากจำเลยผู้กระทำละเมิดได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6094/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และสิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลของผู้ถูกละเมิด
แม้โจทก์ที่ 2 จะขับรถจักรยานยนต์ให้โจทก์ที่ 1 และที่ 3 นั่งซ้อนท้ายมาด้วย เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แต่เหตุดังกล่าวมิใช่เหตุโดยตรงที่ทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกันเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถแซงรถผู้อื่นบนสะพานล้ำเส้นทึบแบ่งกึ่งกลางถนนออกไปเฉี่ยวชนรถโจทก์ที่ 2 ซึ่งขับมาด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหตุที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 แต่เพียงฝ่ายเดียว
โจทก์ที่ 2 เป็นข้าราชการ แม้จะมีสิทธิได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งในส่วนของตนตลอดจนโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาและโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรก็ตาม สิทธิดังกล่าวก็เป็นสิทธิที่รัฐกำหนดให้แก่ข้าราชการไม่เกี่ยวกับความรับผิดของจำเลย โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิที่จะเรียกร้องเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยผู้ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดได้อีก
โจทก์ทั้งสามฟ้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดมาในฟ้องเดียวกันโดยแยกทุนทรัพย์ที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมา ชัดเจน เป็นส่วนของแต่ละคน เมื่อทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 3 เรียกร้องไม่เกิน 50,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 3จะฎีกาเกี่ยวกับจำนวนค่าเสียหายของโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248
โจทก์ที่ 2 เป็นข้าราชการ แม้จะมีสิทธิได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งในส่วนของตนตลอดจนโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาและโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรก็ตาม สิทธิดังกล่าวก็เป็นสิทธิที่รัฐกำหนดให้แก่ข้าราชการไม่เกี่ยวกับความรับผิดของจำเลย โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิที่จะเรียกร้องเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยผู้ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดได้อีก
โจทก์ทั้งสามฟ้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดมาในฟ้องเดียวกันโดยแยกทุนทรัพย์ที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมา ชัดเจน เป็นส่วนของแต่ละคน เมื่อทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 3 เรียกร้องไม่เกิน 50,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 3จะฎีกาเกี่ยวกับจำนวนค่าเสียหายของโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6094/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางถนน และสิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลของผู้ถูกละเมิด แม้ได้รับสิทธิจากรัฐ
แม้โจทก์ที่ 2 จะขับรถจักรยานยนต์ให้โจทก์ที่ 1 และที่ 3นั่งซ้อนท้ายมาด้วย เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แต่เหตุดังกล่าวมิใช่เหตุโดยตรงที่ทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกันเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถแซงรถผู้อื่นบนสะพานล้ำเส้นทึบแบ่งกึ่งกลางถนนออกไปเฉี่ยวชนรถโจทก์ที่ 2 ซึ่งขับมาด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหตุที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 แต่เพียงฝ่ายเดียว โจทก์ที่ 2 เป็นข้าราชการ แม้จะมีสิทธิได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งในส่วนของตนตลอดจนโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาและโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรก็ตาม สิทธิดังกล่าวก็เป็นสิทธิที่รัฐกำหนดให้แก่ข้าราชการไม่เกี่ยวกับความรับผิดของจำเลย โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิที่จะเรียกร้องเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยผู้ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดได้อีก โจทก์ทั้งสามฟ้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดมาในฟ้องเดียวกันโดยแยกทุนทรัพย์ที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมาชัดเจน เป็นส่วนของแต่ละคน เมื่อทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 3 เรียกร้องไม่เกิน 50,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 3จะฎีกาเกี่ยวกับจำนวนค่าเสียหายของโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248