คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค้างชำระ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อค้างชำระ: ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกเงินค้างชำระได้
ข้อตกลงว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลง ผู้เช่าซื้อต้องชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ทั้งหมดนั้น ไม่ขัดต่อกฎหมาย ผู้ให้เช่าซื้อเรียกเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเช่า: มาตรา 166 เป็นบททั่วไปใช้บังคับกับคดีค่าเช่าค้างชำระ แม้มีบทบัญญัติเฉพาะในลักษณะเช่าทรัพย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 อยู่ในลักษณะ 6เรื่องอายุความในบรรพ 1 อันว่าด้วยหลักทั่วไป ซึ่งระบุไว้ชัดถึงการฟ้องเรียกค่าเช่าทรัพย์สินค้างส่ง ส่วนมาตรา 563 เป็นบทบัญญัติอยู่ในหมวด 3 เรื่องหน้าที่และความรับผิดของผู้เช่าในลักษณะเช่าทรัพย์แห่งบรรพ 3 อันว่าด้วยเอกเทศสัญญา ข้อความที่ว่าผู้ให้เช่าจะฟ้องผู้เช่าเกี่ยวแก่สัญญาเช่านั้น ย่อมหมายถึงการปฏิบัติผิดหน้าที่ผู้เช่าโดยทั่วไป เมื่อมาตรา 166 ซึ่งเป็นบททั่วไปได้บัญญัติถึงเรื่องค่าเช่าค้างส่งไว้ชัดแจ้งโดยเฉพาะ จึงต้องยกมาใช้ปรับแก่คดี แม้มาตรา 563 จะอยู่ในลักษณะเช่าทรัพย์ ก็หาได้ลบล้างมาตรา 166 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าในสัญญาสร้างตึก: การบอกเลิกสัญญาเช่าเนื่องจากค้างชำระค่าเช่า
สัญญาก่อสร้างที่ผู้สร้างยอมยกกรรมสิทธิ์ในเคหะที่สร้างให้แก่เจ้าของที่ดิน.และเจ้าของที่ดินต้องยอมให้ผู้ก่อสร้างเช่าเคหะนั้น. เป็นสัญญาเช่าและสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนือไปจากสัญญาเช่าธรรมดาด้วย. แม้จะระบุให้เช่าได้มีกำหนด 11 ปี ก็ไม่อยู่ในข่ายที่จะต้องไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538.แต่ในเรื่องเช่านั้นทั้ง 2 ฝ่ายต้องปฏิบัติต่อกันตามกฎหมายว่าด้วยการเช่าทรัพย์ตามธรรมดาคือผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่า. เมื่อผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าก็เป็นการผิดสัญญาเช่า. ผู้ให้เช่าก็ย่อมบอกเลิกการเช่าได้. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการยึดหุ้นค้างชำระ: สิทธิของเจ้าหนี้และบริษัทจำกัดในการริบหุ้น
การที่บริษัทจำกัดจะริบหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ยังค้างชำระเงินค่าหุ้นเอาออกขายทอดตลาดนั้นจะต้องปฏิบัติการตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้บริบูรณ์เสียก่อนมิฉะนั้นต้องถือว่าหุ้นนั้นยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นอยู่ซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ถือหุ้นมีอำนาจขอให้ศาลสั่งยึดหรืออายัดหุ้นนั้นได้
ชั้นบังคับคดี เมื่อยังมีข้อเท็จจริงที่ยังโต้เถียงกันอยู่ศาลอาจไม่สั่งให้ดำเนินการไต่สวน แต่สั่งให้ไปฟ้องกันเป็นคดีใหม่ก็ได้ในเมื่อเห็นว่าอาจมีเหตุอย่างอื่นที่เป็นข้อยุ่งยากและไม่สะดวกแก่ศาลและคู่ความทุกฝ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเช่าค้างชำระ, การริบเงินประกัน, และค่าต่อเติมอาคารเช่า
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเท่ากับอัตราค่าเช่านับแต่วันที่จำเลยได้รับหนังสือบอกเลิกการเช่า แม้ทางพิจารณาจะปรากฏว่าระยะเวลานั้น จำเลยจะอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่า ไม่ใช่การละเมิดศาลก็พิพากษาบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าเช่าซึ่งมีอัตราเท่ากันให้โจทก์ได้
ผู้เช่าวางเงินไว้เป็นประกันการเช่า โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าผู้เช่าผิดสัญญาเช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิริบเงินประกันนี้ได้ เงินประกันนี้จึงเป็นเบี้ยปรับเมื่อปรากฏว่า ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าโดยไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดเวลาผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าที่ค้าง ทั้งมีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับอันพึงริบนั้นด้วยก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 คดีนี้แม้ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นโจทก์จะมิได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเสียหายยิ่งไปกว่าค่าดอกเบี้ยตามกฎหมายแต่เมื่อศาลคำนวณค่าดอกเบี้ยของเงินค่าเช่านับแต่วันค้างชำระจนบัดนี้ไล่เลี่ยกับเงินประกันผู้ให้เช่าย่อมริบเงินประกันได้ทั้งหมด
ผู้เช่าต่อเติมและซ่อมแซมห้องเช่าเพื่อประโยชน์ในกิจการของผู้เช่าเองไม่ใช่เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเพื่อรักษาทรัพย์สินที่เช่าผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิดต่อผู้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบุริมสิทธิภาษีอากร: ระยะเวลาค้างชำระและปีที่ยื่นคำร้องมีผลต่อสิทธิเรียกร้องของรัฐ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 256 บัญญัติว่าบุริมสิทธิในมูลค่าภาษีอากรนั้น ใช้สำหรับเอาบรรดาค่าภาษีอากร ในที่ดินทรัพย์สินหรือค่าภาษีอากรอย่างอื่นที่ลูกหนี้ยังค้างชำระอยู่ในปัจจุบันและก่อนนั้นขึ้นไปอีกปีหนึ่งนั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นปีที่ยื่นคำร้องและปีนั้นมีการค้างชำระค่าภาษีอากรอยู่ด้วย ถ้าปีถัดขึ้นไปอีกปีหนึ่งยังมีการค้างชำระอยู่อีก รัฐบาลก็มีบุริมสิทธิเพียง 2 ปี ดังกล่าวเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบุริมสิทธิ์ภาษีอากร: ระยะเวลาค้างชำระและปีที่ยื่นคำร้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 256. บัญญัติว่าบุริมสิทธิ์ในมูลค่าภาษีอากรนั้น ใช้สำหรับเอาบรรดาค่าภาษีอากรในที่ดินทรัพย์สินหรือค่าภาษีอากรอย่างอื่นที่ลูกหนี้ยังค้างชำระอยู่ในปีปัจจุบัน และก่อนนั้นขึ้นไปอีกปีหนึ่งนั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นปีที่ยื่นคำร้องและปีนั้นมีการค้างชำระค่าภาษีอากรอยู่ด้วยถ้าปีถัดขึ้นไปอีกปีหนึ่งยังมีการค้างชำระอยู่อีกรัฐบาลก็มีบุริมสิทธิเพียง 2 ปีดังกล่าวเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าค้างชำระ & การบอกเลิกสัญญาทางไปรษณีย์ลงทะเบียน การแจ้งผลถึงผู้รับสำคัญกว่าการได้รับ
สัญญาเช่าบ้านที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าทำต่อกันระบุไว้ชัดแจ้งว่า ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าในวันสิ้นเดือนตามปฏิทินทุกๆ เดือนนั้น เมื่อผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าเมื่อถึงวันสิ้นเดือนตามปฏิทิน ผู้เช่าก็ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชำระค่าเช่าแล้ว
การบอกกล่าวเลิกการเช่าซึ่งผู้ให้เช่าส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เจ้าหน้าที่ผู้ส่งบันทึกว่า "ผู้รับไม่ยอมรับ ขอคืน" นั้น ถือได้ว่าการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาเช่ามีผลแล้วนับแต่เวลาที่ไปถึงผู้เช่าเป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636-640/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับการค้างชำระค่าเช่า จำเลยต้องพิสูจน์ข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเรื่องชำระค่าเช่า จำเลยนำค่าเช่าไปชำระให้โจทก์ โจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าจากจำเลยเอง ดังนี้ เท่ากับจำเลยยอมรับว่าได้ค้างค่าเช่าโจทก์อยู่จริง จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบให้สมข้อต่อสู้ เมื่อจำเลยไม่สืบพยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อยังใช้บังคับ แม้คืนรถและบอกเลิกสัญญา ผู้เช่าซื้อยังต้องชำระค่าเช่าที่ค้างชำระ
เมื่อเลิกสัญญเช่าซื้อและผู้ให้เช่าซื้อยอมรับรถคืนเลิกสัญญาเช่าซื้อ สัญญาเช่าซื้อใช้บังคับได้ เมื่อผู้เช่าซื้อรับว่าต้องชำระค่าเช่าจริงผู้ให้เช่าซื้อก็มีสิทธิได้ค่าเช่าซื้องวดที่ค้างชำระมาก่อนตามข้อตกลงเดิมในสัญญาเช่าซื้อซึ่งได้ทำไว้
of 5