คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฆ่าโดยเจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 70 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1378/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุและการฆ่าโดยเจตนาเมื่อมีการแย่งอาวุธ
ผู้ตายซึ่งมีอาการเมาสุรายืนพูดต่อว่าอยู่กับผู้อื่น จำเลยซึ่งเมาสุราเหมือนกันเข้าไปถาม ผู้ตายตอบว่า ไม่ใช่เรื่องของมึงพร้อมกับชักมีดดาบปลายปืนตัวมีดยาว 15 นิ้ว ออกมาแทงจำเลยก่อน แล้วผู้ตายกับจำเลยแย่งมีดกัน จำเลยแย่งมีดได้จึงแทงผู้ตายมีบาดแผล 3 แห่งที่หน้าอกด้านขวา ที่หน้าท้องใต้สะดือถึงไส้ไหลออกมากองหน้าท้องและที่ตะโพกซ้าย ดังนี้ การที่จำเลยแย่งมีดได้แล้วแทงผู้ตายไปเป็นการกระทำในเวลากระชั้นชิดติดพันมาจากการกระทำเพื่อป้องกันตนแต่การที่จำเลยซึ่งหนุ่มกว่าและรูปร่างใหญ่กว่าผู้ตาย ใช้มีดซึ่งตัวมีดยาวถึง 15 นิ้วแทงผู้ตายที่อวัยวะสำคัญ โดยที่ผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรเลยย่อมเป็นการฆ่าคนโดยเจตนาด้วยการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนา: การกระทำรุนแรงต่อเนื่องและการใช้มีดเป็นหลักฐานแสดงเจตนา
ผู้ตายเป็นพี่ชายจำเลยและอยู่บ้านเดียวกับจำเลย จำเลยเมาสุราและต่อยเตะบุตรสาวจำเลย ผู้ตายเข้าห้ามโดยกระชาก ตัวจำเลยออกมาจำเลยจะกระทืบบุตรสาวอีก ผู้ตายเอาขาขัดจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้มีดเฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่ชายโครงซ้าย ต่อมาไม่นานผู้ตายถึงแก่ความตาย เพราะเลือดตกภายในจากการฉีกขาดของม้าม กระเพาะอาหารและเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำขณะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาด้วยบันดาลโทสะ: การพิจารณาเหตุแห่งการกระทำและความเป็นเหตุผลของบันดาลโทสะ
ผู้ตายเข้าไปในร้านของจำเลยแล้วขอเช็คดูเพื่อชำระเงินสดให้ เมื่อจำเลยส่งเช็คให้ผู้ตาย ๆ กลับฉีกเช็คนั้นทันที ครั้นจำเลยเข้าแย่งเพื่อจะเอาเช็คนั้นกลับคืน ผู้ตายยังด่าจำเลยอีก จำเลยโมโหจึงได้หยิบมีดที่อยู่ใกล้มือแทงผู้ตายไป ถูกผู้ตายเป็นบาดแผล 3 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการบันดาลโทสะ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกันฆ่าโดยเจตนา: การกระทำร่วมและผลกรรมที่ต้องรับ
จำเลยที่ 2 วิวาทกับผู้ตาย แล้วกลับไปชวนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นน้องชายมาท้าทายให้ผู้ตายซึ่งอยู่บนชานเรือนลงไปต่อสู้กับจำเลย โดยจำเลยที่ 1 ถือมีดปลายแหลม จำเลยที่ 2 ถือไม้ ครั้นผู้ตายนิ่งเฉย จำเลยที่ 2 ก็โดดขึ้นไปหาผู้ตาย ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที แต่ตีพลาดไม่ถูกผู้ตาย แล้วโดดหนีไป จำเลยที่ 1 โดดขึ้นไปใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่บริเวณลิ้นปี่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เป็นบาดแผลลึกถึง 12 เซนติเมตร แล้วโดดหนีตามจำเลยที่ 2 ไป ผู้ตายได้ถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุเล็กน้อย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 1 แทงผู้ตายอย่างแรง โดยมีเจตนาฆ่า จำเลยทั้งสองย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรง: ศาลฎีกาพิพากษาฐานฆ่าโดยเจตนา
จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าต่อสู้กัน จำเลยใช้มีดปลายแหลม ใบมีดยาวประมาณ 7 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต อันเป็นอาวุธร้ายแรงแทงผู้ตาย ในที่สำคัญถึง 2แผล แผลที่ 1 ตรงซอกคอ ชอนไปทางด้านซ้าย ยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ตัดหลอดคอ แผลที่ 2 ที่ท้องน้อยด้านซ้าย ยาว 3 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุเข้าข้างในไส้ทะลัก อันเป็นบาดแผลสาหัส ผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่จำเลยได้ใช้อาวุธร้ายแรง แทงผู้ตายในที่สำคัญถึง 2 แผล เช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยได้แทงทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดีฆ่าโดยเจตนา เนื่องจากรับสารภาพก่อนสืบพยาน และเหตุการณ์เกิดจากฤทธิสุรา
จำเลยรับสารภาพต่อศาลก่อนลงมือสืบพยานโจทก์เป็นประโยช์แก่การพิจารณาคดี นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษได้ ขณะจำเลยทำร้ายผู้ตายเป็นเวลาใกล้ค่ำมืด พยานโจทก์บางคนได้ไปจากที่เกิดเหตุไกลสัก 5 วา ได้ยินเสียงโครมคราม จึงหวนกลับไปวิ่งเข้ามาดู และไม่มีผู้ใดจับจำเลยและมีดของกลางได้ในคืนนั้น จึงยากที่จะว่าจำเลยจำนนต่อพยานหลักฐานโจทก์ ที่ศาลลดโทษจำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 นั้น จึงเป็นการชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดีฆ่าโดยเจตนา เนื่องจากรับสารภาพก่อนสืบพยาน และเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดการทำร้าย
จำเลยรับสารภาพต่อศาลก่อนลงมือสืบพยานโจทก์เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษได้ ขณะจำเลยทำร้ายผู้ตายเป็นเวลาใกล้ค่ำมืด พยานโจทก์บางคนได้ไปจากที่เกิดเหตุไกลสัก5วาได้ยินเสียงโครมคราม จึงหวนกลับวิ่งเข้ามาดู และไม่มีผู้ใดจับจำเลยและมีดของกลางได้ในคืนนั้น จึงยากที่จะว่าจำเลยจำนนต่อพยานหลักฐานโจทก์ ที่ศาลลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 นั้น จึงเป็นการชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้นส่วนตัว
จำเลยโกรธผู้ตายซึ่งเป็นแม่ยายของจำเลย เพราะเคยหาว่าจำเลยลักเงิน และเคยให้จำเลยกับภริยาแยกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น คืนเกิดเหตุตอนหัวค่ำ จำเลยเอามีดไปซ่อนไว้ครั้นตอนดึกจำเลยกลับมาได้ใช้มีดที่ซ่อนไว้ไปฟันผู้ตายขณะนอนหลับ ทั้งจำเลยเคยให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยได้หาโอกาสจะฆ่าผู้ตายมาก่อน และจำเลยจ้างผู้มีชื่อฆ่าผู้ตายด้วยเช่นนี้ เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในตัวบุคคลและการป้องกันเกินกว่ากรณี: ความผิดฐานฆ่าโดยเจตนาและประมาท
จำเลยใช้ปืนยิงเด็กซึ่งส่องไฟหากบที่ริมรั้วบ้านจำเลยถึงแก่ความตายโดยจำเลยสำคัญผิดว่าเป็นคนร้ายจะมาฆ่าพี่จำเลย เป็นการป้องกันเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,69
ความสำคัญผิดว่ามีภยันตรายอันต้องป้องกันนั้น เป็นความสำคัญผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 62 ไม่ใช่มาตรา 61
ความสำคัญผิดตามมาตรา 61 เป็นเรื่องสำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งแม้จะกระทำต่อบุคคลใดก็เป็นผิดทั้งนั้น ส่วนความสำคัญผิดตามมาตรา 62 นั้น เป็นความสำคัญผิดซึ่งทำให้การกระทำไม่เป็นความผิด หรือทำให้ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษหรือได้รับโทษน้อยลงได้
จำเลยยิงคนตายโดยสำคัญผิดว่าเป็นคนร้าย เป็นการกระทำโดยเจตนาแต่เป็นการป้องกันซึ่งเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จึงเป็นผิดตามมาตรา 288,69 และความสำคัญผิดนั้นก็เกิดโดยความประมาทของจำเลย เช่นนี้จำเลยย่อมผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท โดยผลของมาตรา 62วรรคสอง ด้วย กรณีเช่นนี้เป็นเรื่องกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท จึงต้องลงโทษในเรื่องฆ่าโดยป้องกันเกินกว่ากรณี อันเป็นบทหนักตามมาตรา 90 แต่ถ้าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ซึ่งไม่เป็นความผิดก็คงเหลือเพียงความผิดในส่วนที่สำคัญผิดโดยประมาทตามมาตรา 62วรรคสอง คือความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทตามมาตรา 291 ฐานเดียว
ผู้ที่กระทำการป้องกันด้วยกันหาได้ร่วมกันกระทำผิดไม่ เมื่อผลของการกระทำของผู้นั้นไม่เป็นอันตรายแก่ผู้ใด ผู้นั้นก็ย่อมไม่มีความผิด แม้ว่าผู้ร่วมป้องกันคนอื่นจะได้รับโทษฐานป้องกันเกินกว่ากรณีจากผลแห่งการกระทำส่วนของคนอื่นนั้นก็ตาม (ประชุมใหญ่ ครั้งที่10/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ไม่ถือเป็นการชุลมุนต่อสู้ แต่เป็นการฆ่าโดยเจตนา
จำเลยกับพวกเตรียมอาวุธจะไปทำร้ายเพื่อนผู้ตาย เมื่อพบผู้ตายกับเพื่อน พวกของจำเลยได้ใช้ปืนยิง ผู้ตายกับเพื่อนวิ่งหนี โดยไม่ได้ต่อสู้อย่างใด จำเลยตามไปตีผู้ตาย และพวกของจำเลยใช้ปืนยิงจนผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครใจเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้กัน แต่เป็นเรื่องจำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายผู้ตาย แม้จำเลยจะไม่ใช้ปืนยิงผู้ตาย ก็ถือว่าจำเลยได้ร่วมกันกับพวกของจำเลยฆ่าผู้ตาย จึงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
of 7