พบผลลัพธ์ทั้งหมด 58 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3968/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในอาคารเช่าชั่วคราวและการคำนวณเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร
โจทก์ที่ 1 เช่าที่ดินจาก น. โดยมีข้อสัญญาระบุว่า โจทก์ที่ 1 มีสิทธิปลูกสร้างอาคารลงในที่ดิน เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงโจทก์ที่ 1 ต้องรื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างออกไป ดังนั้นการที่โจทก์ที่ 1 ให้ ด. ปลูกตึกแถวลงในที่ดินเพื่อให้คนเช่า โดยให้ ด. ออกเงินค่าก่อสร้างเอง และ ด. มีสิทธิเรียกเก็บเงินช่วยค่าก่อสร้างจากผู้เช่าแต่ผู้เดียว ตึกแถวดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์ที่ติดกับที่ดินเพียงชั่วคราวมิใช่ส่วนควบของที่ดิน กรรมสิทธิ์ในตึกแถวดังกล่าวย่อมตกได้แก่โจทก์ที่ 1 และถือว่าเป็นประโยชน์อย่างอื่นที่โจทก์ที่ 1 ได้รับเนื่องจากการให้เช่าทรัพย์สิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40(5) (ก) จึงต้องนำตึกแถวดังกล่าวมาคำนวณมูลค่าถือเป็นเงินได้พึงประเมินในการเสียภาษีเงินได้ของโจทก์ที่ 1 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวต้องอยู่ในขอบเขตประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีล้มละลาย ศาลไม่อาจใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หากมีวิธีพิจารณาเฉพาะใน พ.ร.บ.ล้มละลาย
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ได้บัญญัติวิธีการชั่วคราวไว้โดยเฉพาะแล้วคือการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 17 ซึ่งจะขอได้ก็แต่ในกรณีก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเท่านั้น ดังนั้น ในกรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จะขอให้ศาลอุทธรณ์ยึดทรัพย์ของจำเลยก่อนพิพากษาโดยนำบทบัญญัติว่าด้วยการยึดทรัพย์ของจำเลยก่อนพิพากษาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้ยืนต้นปลูกชั่วคราวไม่เป็นส่วนควบของที่ดิน สิทธิในต้นสนเป็นกรรมสิทธิ์รวม ผู้รับจำนองบังคับคดีไม่ได้
ไม้ยืนต้นเป็นส่วนควบกับที่ดินที่ปลูกไม้นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 108 วรรคแรก แต่ถ้าไม้ยืนต้นนั้น ผู้ปลูกมีเจตนาจะปลูกลงในที่ดินชั่วระยะเวลาอันมีจำกัดเพียงชั่วคราว ย่อมถือได้ว่าเป็นทรัพย์ที่ติดกับที่ดินเพียงชั่วคราวไม่กลายเป็นส่วนควบของที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 109
จำเลยตกลงให้ผู้ร้องปลูกต้นสนลงในที่ดินของจำเลย เมื่อต้นสนโตเต็มที่จะตัดขายเอาเงินมาแบ่งกัน ต้นสนไม่ตกเป็นส่วนควบของที่ดิน แต่เป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง จำเลยนำที่ดินไปจำนองไว้กับโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับคดีเอาจากต้นสนส่วนของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้ร้องมีสิทธิขอกันส่วนได้
(วรรคแรก วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2532)
จำเลยตกลงให้ผู้ร้องปลูกต้นสนลงในที่ดินของจำเลย เมื่อต้นสนโตเต็มที่จะตัดขายเอาเงินมาแบ่งกัน ต้นสนไม่ตกเป็นส่วนควบของที่ดิน แต่เป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง จำเลยนำที่ดินไปจำนองไว้กับโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับคดีเอาจากต้นสนส่วนของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้ร้องมีสิทธิขอกันส่วนได้
(วรรคแรก วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2532)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากการยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษาเป็นคดีต่างหากได้
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายขอเงินมัดจำและเงินค่างวดที่โจทก์จ่ายไปแล้วคืนพร้อมดอกเบี้ยพร้อมกับฟ้องโจทก์ได้ยื่นคำร้องในเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลชั้นต้นยึดหรืออายัดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาซึ่งศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งอนุญาตในวันถัดไปจำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญากับฟ้องแย้งว่าการที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่1ก็โดยการอ้างเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อขอเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ที่เกิดจากการที่ศาลชั้นต้นสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ดังนี้มูลหนี้ตามฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวเกิดจากกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่เรียกว่าวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเกิดขึ้นตามบทบัญญัติของกฎหมายคือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งต่างหากไปจากคำฟ้องเดิมฟ้องแย้งของจำเลยที่1จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมชอบที่จำเลยที่1จักฟ้องโจทก์เป็นคดีต่างหาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืน: ผู้ถือครองชั่วคราวไม่ใช่ผู้ครอบครอง
อาวุธปืนเป็นของ ย. บิดา ช. ซึ่ง ช. เป็นผู้เอามาและ ช. เป็นผู้ใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตาย แสดงว่า ช. เป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนนั้นตลอดมาแม้ขณะที่เดินจากบ้านจำเลยไปที่ศาลาพักร้อนจำเลยเป็นผู้ถืออาวุธปืนนั้นแต่ก็เป็นการยึดถือไว้ชั่วคราว จำเลยกับ ช. เดินไปด้วยกัน ความครอบครองในอาวุธปืนนั้นยังคงอยู่ที่ ช. หาเปลี่ยนมาอยู่ที่จำเลยไม่ จำเลยจึงมิใช่ เป็นผู้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้พกพาอาวุธปืน ติดตัวไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนชั้นพนักงาน: ข้อตกลงสภาพการจ้างมีผลเฉพาะปี และบทบัญญัติมาตรา 12 พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ไม่ครอบคลุมข้อตกลงชั่วคราว
การเลื่อนชั้นพนักงานเป็นอำนาจของธนาคารจำเลยผู้เป็นนายจ้างที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควรแก่อัตราตำแหน่งที่มีอยู่ประกอบกับผลการปฏิบัติงานของลูกจ้างและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในเรื่องนี้
ประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานขณะที่เป็นเพียงหนังสือของธนาคารจำเลยถึงผู้จัดการฝ่ายการพนักงานเพื่อให้ถือเป็นหลักปฏิบัติยังไม่เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างแต่ต่อมาสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อธนาคารจำเลยและได้ตกลงยอมรับเอาประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับดังนั้นประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
ธนาคารจำเลยประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานเป็นปี ๆไป โดยแต่ละปีมีหลักเกณฑ์และแนวทางแตกต่างกันไปดังนี้จะนำประกาศนโยบายปีหนึ่งมาใช้บังคับในปีถัดไปหาได้ไม่
กรณีตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 12หมายถึง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีผลบังคับเป็นการทั่ว ๆ ไป มิใช่เป็นข้อตกลงที่มีเจตนาให้ใช้บังคับชั่วระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้เท่านั้น
ประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานขณะที่เป็นเพียงหนังสือของธนาคารจำเลยถึงผู้จัดการฝ่ายการพนักงานเพื่อให้ถือเป็นหลักปฏิบัติยังไม่เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างแต่ต่อมาสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อธนาคารจำเลยและได้ตกลงยอมรับเอาประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับดังนั้นประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
ธนาคารจำเลยประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานเป็นปี ๆไป โดยแต่ละปีมีหลักเกณฑ์และแนวทางแตกต่างกันไปดังนี้จะนำประกาศนโยบายปีหนึ่งมาใช้บังคับในปีถัดไปหาได้ไม่
กรณีตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 12หมายถึง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีผลบังคับเป็นการทั่ว ๆ ไป มิใช่เป็นข้อตกลงที่มีเจตนาให้ใช้บังคับชั่วระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกชั่วคราว: ประโยชน์ต้องอยู่ที่การจัดการทรัพย์สิน ไม่ใช่แค่การได้เป็นผู้จัดการ
คดีพิพาทกันเรื่องแต่งตั้งผู้จัดการมรดก จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเป็นการชั่วคราว โดยอ้างว่าจำเลยเป็นทายาทตามพินัยกรรมและเจ้ามรดกตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าจำเลยไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกชั่วคราว กองมรดกจะได้รับความเสียหาย ดังนี้ ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะแต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกชั่วคราว เพราะโจทก์จำเลยพิพาทกันเพียงว่า โจทก์หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย มิได้พิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายแต่อย่างใด ประโยชน์ของจำเลยอยู่ที่การได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดการบังคับคดีชั่วคราวเมื่อมีการฟ้องแย้งและวางหลักประกัน การดำเนินการบังคับคดีต่อเมื่อหลักประกันเพียงพอ
จำเลยขอให้งดการบังคับคดีเพราะได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกัน หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะก็สามารถหักกลบลบหนี้กันได้ ซึ่งต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาวางศาล เป็นเงื่อนไขในการขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว โดยโจทก์ยินยอม ต่อมาโจทก์กลับขอให้บังคับคดีเอาแก่ธนาคารในฐานะผู้ค้ำประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์และให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 293 คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงถึงที่สุ่ดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคท้าย ศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยตลอดไปถึงคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งวางเงินประกันความเสียหายชั่วคราวจากการไต่สวนฉุกเฉิน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 257 มิได้กำหนดให้นำหลักทรัพย์อย่างอื่นมาวางศาลบทบัญญัติดังกล่าวให้อำนาจศาลในการใช้ดุลพินิจที่จะสั่งให้ผู้ขอนำเงินตามจำนวนที่เห็นสมควรมาวางศาลเพื่อเป็นประกันสำหรับค่าสินไหมทดแทนซึ่งจำเลยอาจได้รับตามมาตรา 263 หรือจะไม่สั่งให้ผู้ขอนำเงินมาวางศาลก็ได้ ทั้งนี้ย่อมสุดแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรหรือไม่เป็นเรื่อง ๆ ไป