คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชั้นบังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2554 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หักกลบลบหนี้จากสัญญาเดียวกัน: ศาลฎีกาชี้ว่าการหักกลบลบหนี้ต้องพิจารณาในชั้นบังคับคดี
ความรับผิดชอบจำเลยที่ต้องชำระค่างานให้แก่โจทก์กับความรับผิดของโจทก์ที่จะต้องชำระค่าปรับแก่จำเลยเกิดจากสัญญาเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างผูกพันในหนี้อันเดียวกัน จึงหาใช่เป็นการหักกลบลบหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 341 วรรคหนึ่ง ซึ่งมาตรา 344 ห้ามมิให้หักกลบลบหนี้หากสิทธิเรียกร้องนั้นยังมีข้อต่อสู้ดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยกขึ้นปรับบทวินิจฉัยไม่ เมื่อจำเลยและโจทก์ต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่กันในแต่ละคดีซึ่งการบังคับคดีตามคำพิพากษาต้องกระทำแยกต่างหากจากกัน ดังนี้ จำเลยจะขอหักหนี้ได้เพียงใดหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4676/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเกี่ยวกับการบังคับคดีและการชำระหนี้บางส่วน จำเป็นต้องแก้ไขในชั้นบังคับคดีเดิม
คำฟ้องโจทก์อ้างว่า เดิมโจทก์เป็นจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 2033/2543 ของศาลชั้นต้น และได้ชำระหนี้บางส่วนให้แก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยไม่ยอมหักหนี้ในส่วนของโจทก์ แต่กลับดำเนินการบังคับคดีโดยนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของโจทก์ขายทอดตลาดเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ส่วนคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยรับว่าโจทก์ได้ชำระหนี้บางส่วนแก่จำเลยแล้ว และให้จำเลยคิดยอดหนี้ที่ค้างชำระเพื่อโจทก์จะได้ชำระหนี้ส่วนที่เหลือต่อไปนั้น เห็นได้ว่าคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ล้วนแต่เป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษา ซึ่งคำฟ้องเช่นว่านี้จำต้องมีคำวินิจฉัยของศาลเสียก่อนที่การบังคับคดีจะดำเนินไปได้โดยครบถ้วนและถูกต้อง โจทก์ต้องไปว่ากล่าวกันในคดีเดิมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 302 ประกอบ มาตรา 7 (2) มิใช่ฟ้องเป็นคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9061/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แก้ไขเลขโฉนดในคำพิพากษา: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขรายละเอียดเลขที่โฉนดให้ถูกต้อง แม้ในชั้นบังคับคดี หากไม่กระทบผลคำพิพากษา
โจทก์ขอแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับเลขโฉนดที่ดิน เมื่อตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน สำเนาโฉนดที่ดินและสำเนาหนังสือของสำนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเอกสารท้ายฟ้องระบุชัดเจนว่า ที่ดินของโจทก์คือที่ดินโฉนดเลขที่ 82489 หาใช่ที่ดินโฉนดเลขที่ 82498 ดังที่โจทก์กล่าวฟ้องและในคำขอท้ายฟ้อง การที่โจทก์ขอแก้ไขคำพิพากษาในส่วนเลขโฉนดจากเลขที่ 82498 เป็นเลขที่ 82489 จึงเป็นการขอแก้ไขในรายละเอียดให้ชัดเจนถูกต้องตรงกับความเป็นจริง แม้จะอยู่ในชั้นบังคับคดีก็มิได้เป็นการเปลี่ยนแปลงผลของคำพิพากษาหรือเป็นการบังคับคดีนอกเหนือไปจากคำพิพากษาแต่อย่างใด ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 143
of 3