พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7502/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาจ้างเหมา: ต่างจากอายุความชำรุดบกพร่อง หากมีข้อตกลงพิเศษเรื่องการซ่อมแซม
กรณีตามคำฟ้องของโจทก์หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องอันมีอายุความ1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา601ไม่บทบัญญัติแห่งมาตรา601นั้นใช้บังคับแก่กรณีที่เกิดขึ้นตามมาตรา600กล่าวคือถ้ามิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาเมื่อได้ส่งมอบงานกันแล้วปรากฏว่างานที่จ้างมีการชำรุดบกพร่องเกิดขึ้นภายหลังจึงกำหนดให้ฟ้องคดีภายใน1ปีนับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้นแต่กรณีตามคำฟ้องของโจทก์เป็นการฟ้องเรียกค่าจ้างตามที่มีข้อสัญญาตกลงกันไว้เป็นพิเศษโจทก์และจำเลยต้องปฏิบัติตามสัญญานั้นซึ่งผูกพันกันอยู่อีกส่วนหนึ่งต่างหากถ้าการชำรุดบกพร่องนั้นเป็นกรณีที่จำเลยต้องรับผิดและจำเลยได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากโจทก์แล้วไม่ทำการซ่อมให้เป็นที่เรียบร้อยภายใน30วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งโจทก์มีสิทธิจ้างผู้อื่นทำแทนและเรียกค่าจ้างที่ต้องเสียไปเพราะจ้างผู้อื่นทำแทนนั้นได้เมื่อมีข้อสัญญาตกลงกันไว้เช่นนี้และจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามย่อมถือว่าเป็นการผิดสัญญาซึ่งเข้าลักษณะสัญญาจ้างธรรมดาโจทก์มีสิทธิฟ้องให้จำเลยผู้รับจ้างรับผิดต่อโจทก์ได้กรณีดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความทั่วไปคือ10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา164เดิมที่ใช้บังคับอยู่ในขณะที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7116/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้รับจ้างในการซ่อมแซมอาคาร: ระยะเวลา 1 ปี vs. 5 ปี
ตามสัญญาจ้างปรับปรุงพื้นดาดฟ้า หลังคา ซ่อมแซมห้องน้ำห้องส้วมของธนาคารโจทก์ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ก่อนแล้ว จำเลยซึ่งเป็นผู้รับจ้างต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รับมอบงานเมื่อมีรอยแตกร้าวบนพื้นดาดฟ้าเกิดขึ้นภายใน 1 ปี จำเลยได้ซ่อมแซมและโจทก์รับมอบงานซ่อมแซมแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในรอยแตกร้าวเดิมที่เกิดขึ้นอีกเมื่อพ้น 1 ปีแล้ว และความชำรุดบกพร่องอันเกิดจากการปรับปรุงพื้นดาดฟ้าหลังคาเช่นนี้ก็ไม่ใช่ความชำรุดบกพร่องที่เกิดจากสิ่งปลูกสร้างกับพื้นดินซึ่งผู้รับจ้างต้องรับผิดภายใน 5 ปี นับแต่วันส่งมอบ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 600 วรรคแรก ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6321/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงทรัพย์สินจากการซ่อมแซมและการผิดนัดชำระหนี้ค่าซ่อม
จำเลยเป็นหนี้ค่าซ่อมรถยนต์จำนวน 233,149 บาท เมื่อโจทก์วางบิลเพื่อเก็บเงินตามข้อตกลงแล้ว จำเลยไม่ยอมรับการวางบิลและไม่ยอมชำระเงินดังกล่าว จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดนัด โจทก์จึงมีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์ของจำเลยที่รับซ่อมไว้ได้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้
ข้อที่จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาล้วนเป็นประเด็นโดยตรงและเป็นสาระแก่คดี ซึ่งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาก็ได้รับวินิจฉัยมาตลอด หาได้ส่อความไม่สุจริตในการดำเนินคดีหรือประวิงการชำระหนี้ไม่ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นกว่าที่โจทก์มีสิทธิได้รับตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 (6)
ข้อที่จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาล้วนเป็นประเด็นโดยตรงและเป็นสาระแก่คดี ซึ่งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาก็ได้รับวินิจฉัยมาตลอด หาได้ส่อความไม่สุจริตในการดำเนินคดีหรือประวิงการชำระหนี้ไม่ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นกว่าที่โจทก์มีสิทธิได้รับตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 (6)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการใช้ที่ดินของผู้อื่นเพื่อซ่อมแซม และการรุกล้ำที่ดิน: ประเด็นฟ้องแย้งแยกจากฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยด้านที่ติดต่อกับที่ดินโจทก์ทำการซ่อมแซมตึกโจทก์ โจทก์ได้ซ่อมแซมด้านทิศตะวันตกไปแล้วแต่จำเลยไม่ยอมให้ซ่อมแซมด้านทิศเหนือ ขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งว่าโจทก์กระทำละเมิดโดยสร้างกันสาดด้านเหนือและปลูกสร้างตึกด้านตะวันออกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย ขอให้บังคับโจทก์รื้อถอนกันสาดและตึกพร้อมคานคอดินส่วนที่รุกล้ำออกไป ดังนี้ ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธิบังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์หรือไม่ ส่วนฟ้องแย้งและคำให้การแก้ฟ้องแย้งเป็นกรณีต้องวินิจฉัยว่า โจทก์กระทำละเมิดต่อจำเลยหรือไม่ ประเด็นที่วินิจฉัยตามคำฟ้องและฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องกัน และมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันในการวินิจฉัย ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการใช้ที่ดินของผู้อื่นเพื่อซ่อมแซมทรัพย์สิน และการฟ้องแย้งเรื่องละเมิดจากการรุกล้ำที่ดิน เป็นประเด็นต่างกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยด้านที่ติดต่อกับที่ดินโจทก์ทำการซ่อมแซมตึกโจทก์โจทก์ได้ซ่อมแซมด้านทิศตะวันตกไปแล้วแต่จำเลยไม่ยอมให้ซ่อมแซมด้านทิศเหนือขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์จำเลยฟ้องแย้งว่าโจทก์กระทำละเมิดโดยสร้างกันสาดด้านเหนือและปลูกสร้างตึกด้านตะวันออกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยขอให้บังคับโจทก์รื้อถอนกันสาดและตึกพร้อมคานคอดินส่วนที่รุกล้ำออกไปดังนี้ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิบังคับจำเลยยอมให้โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเพียงที่จำเป็นในการซ่อมแซมตึกของโจทก์หรือไม่ส่วนฟ้องแย้งและคำให้การแก้ฟ้องแย้งเป็นกรณีต้องวินิจฉัยว่าโจทก์กระทำละเมิดต่อจำเลยหรือไม่ประเด็นที่วินิจฉัยตามคำฟ้องและฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องกันและมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันในการวินิจฉัยฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6572/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อเติมอาคารเกินกว่าการซ่อมแซม ถือเป็นการก่อสร้างใหม่ ต้องรื้อถอน
จำเลยได้ต่อเติมอาคารพิพาทจากหลังคามุงกระเบื้องเป็นดาดฟ้าคอนกรีตทำเป็นชั้นที่ 4 และต่อเติมจากชั้นดาดฟ้าโดยทำหลังคาเป็นชั้นที่ 5ถือเป็นการก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นใหม่ มิใช่เป็นการซ่อมแซมเพื่อความเป็นระเบียบสวยงาม จำเลยจึงต้องรื้อถอนส่วนที่ดัดแปลงต่อเติมออกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5693/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายจากการซ่อมแซมงานจ้างทำของ เปลี่ยนเป็นฟ้องตามข้อตกลงใหม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้น แต่เมื่อความชำรุดบกพร่องเกิดขึ้นแล้ว โจทก์ผู้ว่าจ้างแจ้งให้จำเลยที่ 1 ผู้รับจ้างทำการแก้ไขซ่อมแซม จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ทำการแก้ไขซ่อมแซมโดยแจ้งค่าใช้จ่ายให้จำเลยที่ 1 ทราบ จึงเกิดเป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์ได้ทำการแก้ไขซ่อมแซมตามที่จำเลยที่ 1 ตกลงแล้วและได้มาฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายดังกล่าว จึงมิใช่เป็นเรื่องที่ฟ้องให้รับผิดในความชำรุดบกพร่อง แต่เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามข้อตกลง ซึ่งมิได้มีอายุความไว้เป็นการเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3303/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างอาคารต้องไม่เป็นการต่อเติมหรือขยายอาคาร แต่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมเท่านั้น
การปรับปรุงซ่อมแซมอาคารตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 83 มีความหมายเพียงว่าซ่อมหรือเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารให้คงสภาพเดิม ทั้งต้องเป็นการกระทำเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงามเท่านั้นหาใช่ต่อเติมหรือขยายอาคารไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3184/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าจ้างซ่อมแซมจากข้อสัญญา: ใช้ 10 ปี ไม่ใช่ 1 ปี
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าจ้างที่โจทก์จะต้องจ้างผู้อื่นทำการซ่อมแซมแก้ไขความชำรุดบกพร่องของสิ่งก่อสร้างตามที่โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันไว้เป็นเรื่องฟ้องให้รับผิดตามข้อสัญญาที่ผูกพันกันอยู่อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความสิบปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 164เดิม หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องอันมีอายุความหนึ่งปีตาม มาตรา 601 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการละเมิด: การคำนวณค่าใช้จ่ายโดยตรงที่เกิดจากการซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่เสียหาย
ค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงาน เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าสึกหรอของเครื่องจักรเครื่องมือและค่าควบคุมซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบความเสียหายและดำเนินการต่าง ๆ เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีแน่นอนและโจทก์ได้ใช้ไปในการซ่อมรถจักรดีเซลของโจทก์ที่ได้รับความเสียหายซึ่งสามารถคิดคำนวณเฉลี่ยออกมาได้จึงเป็นค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายทั้งสองส่วนนี้ได้