คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทวงหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 50 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4454/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทนายความทวงหนี้ ค่าจ้างคิดเป็นร้อยละของหนี้ ไม่ใช่การแบ่งทรัพย์สินจากคดี
สัญญาที่จำเลยจ้างโจทก์ซึ่งเป็นทนายความให้ทวงหนี้จากสมาชิกจำเลยนอกศาลโดยคิดค่าจ้างร้อยละ 5 ของยอดหนี้ที่ทวงได้นั้นเป็นเพียงอาศัยเป็นเกณฑ์คำนวณค่าจ้างทวงถามหนี้สินว่าจะเรียกร้องค่าจ้างคิดเป็นร้อยละเท่าใดของหนี้ที่ทวงได้เท่านั้นหาใช่เป็นสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่มูลพิพาทที่ลูกความจะพึงได้รับเมื่อชนะคดีไม่และมิใช่เป็นการจ้างโจทก์ให้เป็นทนายความดำเนินคดี สัญญาดังกล่าวจึงตกลงกันได้เพราะไม่มีกฎหมายห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสินค้าเสียหายระหว่างขนส่ง ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่าสินค้าที่เหลือ และการบอกกล่าวทวงหนี้ทำได้ทั้งวาจาและหนังสือ
การบอกกล่าวทวงถามให้ชำระหนี้ค่าสินค้า กฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือ ก่อนที่โจทก์จะมีหนังสือถึงจำเลย โจทก์ได้บอกกล่าวทวงถามด้วยวาจาให้จำเลยชำระหนี้แล้วเมื่อจำเลยไม่ชำระ ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัด โดยโจทก์ไม่จำต้องมีหนังสือเตือนซ้ำอีก เมื่อตามฟ้องและทางพิจารณาไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่เมื่อใด โจทก์จึงควรได้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3958/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทวงหนี้และการตั้งตัวแทนทวงหนี้ ไม่ต้องทำเป็นหนังสือเพื่อใช้ในการฟ้องล้มละลาย
การทวงหนี้ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อให้ทวงถามหนี้สินจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำเป็นหนังสือหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือ
การทวงถามหนี้สินตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 8(9)เป็นการทวงถามหนี้สินตามปกติประการหนึ่ง แต่กรณีที่เจ้าหนี้จะได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมาย การทวงถามจะต้องทำเป็นหนังสือ โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นหนังสือของเจ้าหนี้โดยตรง อาจเป็นหนังสือของตัวแทนเจ้าหนี้ก็ได้ และการที่เจ้าหนี้มอบหมายให้ตัวแทนทวงถามลูกหนี้ก็ไม่ต้องทำเป็นหนังสือหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทวงหนี้ก่อนสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ยืมเกิดขึ้น ไม่ถือเป็นเหตุล้มละลาย
จำเลยที่ 1 ขอยืมโฉนดที่ดินของโจทก์ไปจำนองเป็นประกันหนี้ที่จำเลยที่ 1 กู้ยืมจากธนาคาร โดยจำเลยที่ 1 จ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง และทำสัญญากู้ยืมเงินให้ไว้แก่โจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้แต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ตกลงกับโจทก์เป็นหนังสือว่าจะจัดการโอนที่ดินคืนให้โจทก์ภายใน 1 ปี มิฉะนั้นยอมให้โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ตามสัญญาที่ทำให้โจทก์ไว้ได้ ก่อนครบกำหนด 1 ปี โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยสองครั้งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน แล้วอ้างเหตุดังกล่าวมาฟ้องให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย ดังนี้ การทวงถามทั้งสองครั้งดังกล่าวจำเลยทั้งสองยังไม่มีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือทวงถามของโจทก์ให้ชำระหนี้รายนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน อันจะเป็นเหตุทำให้จำเลยทั้งสองตกอยู่ในข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(9)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ยังไม่ถึงกำหนดฟ้อง การทวงหนี้ก่อนกำหนดไม่ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
จำเลยที่ 1 ขอยืมโฉนดที่ดินของโจทก์ไปจำนองเป็นประกันหนี้ที่จำเลยที่ 1 กู้ยืมจากธนาคาร โดยจำเลยที่ 1 จ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งและทำสัญญากู้ยืมเงินให้ไว้แก่โจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้แต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ตกลงกับโจทก์เป็นหนังสือว่าจะจัดการโอนที่ดินคืนให้โจทก์ภายใน 1 ปี มิฉะนั้นยอมให้โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ตามสัญญาที่ทำให้โจทก์ไว้ได้ ก่อนครบกำหนด 1 ปี โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยสองครั้งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วันแล้วอ้างเหตุดังกล่าวมาฟ้องให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายดังนี้ การทวงถามทั้งสองครั้งดังกล่าว จำเลยทั้งสองยังไม่มีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือทวงถามของโจทก์ให้ชำระหนี้รายนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน อันจะเป็นเหตุทำให้จำเลยทั้งสองตกอยู่ในข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(9)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3087/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหนังสือทวงหนี้โดยการลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์รายวันชอบด้วยกฎหมายล้มละลาย
การส่งหนังสือทวงหนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีธรรมดาเพราะไปไม่พบผู้ร้อง คนในบ้านว่าย้ายไปแล้ว และนายทะเบียนท้องถิ่นว่าไม่มีชื่อผู้ร้องในบ้าน ต้องส่งโดยวิธีอื่นแทน คือส่งไปประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์รายวัน ถือได้ว่าเป็นการลงโฆษณาตามความหมายของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 79 แล้ว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้ถูกต้อง มีผลให้ผู้ร้องเสียหายเพราะไม่ได้รับการพิจารณา หรือสอบสวนใหม่ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 146 ผู้ร้องชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนดเวลา14 วัน นับแต่วันที่ทราบการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทวงหนี้และการหมิ่นประมาท: การประกาศทวงหนี้ในหนังสือพิมพ์ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
เดิมห้างโจทก์กับบริษัทจำเลยที่ 1 ติดต่อค้าขายกันมาหลายปี โดยโจทก์ซื้อสินค้าจากจำเลยที่ 1 ต่อมาโจทก์เลิกซื้อสินค้าจากจำเลยที่ 1 และยังค้างชำระค่าสินค้าจำเลยที่ 1 อยู่ จำเลยที่ 1 ได้ทวงถามโจทก์ให้ชำระหนี้หลายครั้งแล้ว โจทก์ไม่ชำระ จึงได้มีประกาศโฆษณาลงในหนังสือพิมพ์ข้อความว่า ให้โจทก์จัดากรชำระหนี้ที่ค้างจำเลยที่ 1 ภายใน 7 วัน มิฉะนั้น จะดำเนินการตามกฎหมาย ดังนี้ แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในฐานะกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 และส่วนตัว เป็นผู้จัดให้มีการประกาศข้อความดังกล่าวก็ตาม ข้อความที่ประกาศนั้นก็เป็นเรื่องคำเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ซึ่งจำเลยที่ 1 มีสิทธิที่จะกระทำได้ตามกฎหมาย ทั้งข้อความที่ประกาศก็ไม่มีข้อความใดที่เป็นการใส่ความโจทก์ โดยประการที่น่าทำให้เสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่น การกระทำของจำเลยทั้งสอง จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทวงหนี้โดยการโฆษณาหนังสือพิมพ์ ไม่เป็นการหมิ่นประมาท หากเป็นการเตือนหนี้ตามสิทธิเจ้าหนี้
เดิมห้างโจทก์กับบริษัทจำเลยที่ 1 ติดต่อค้าขายกันมาหลายปีโดยโจทก์ซื้อสินค้าจากจำเลยที่ 1 ต่อมาโจทก์เลิกซื้อสินค้าจากจำเลยที่ 1 และยังค้างชำระค่าสินค้าจำเลยที่ 1 อยู่ จำเลยที่ 1 ได้ทวงถามโจทก์ให้ชำระหนี้หลายครั้งแล้ว โจทก์ไม่ชำระ จึงได้มีประกาศโฆษณาลงในหนังสือพิมพ์ข้อความว่า ให้โจทก์จัดการชำระหนี้ที่ค้างจำเลยที่ 1 ภายใน7 วันมิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย ดังนี้ แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 1และที่ 2 ในฐานะกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 และส่วนตัว เป็นผู้จัดให้มีการประกาศข้อความดังกล่าวก็ตามข้อความที่ประกาศนั้นก็เป็นเรื่องคำเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ซึ่งจำเลยที่ 1 มีสิทธิที่จะกระทำได้ตามกฎหมาย ทั้งข้อความที่ประกาศก็ไม่มีข้อความใดที่เป็นการใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่น การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและการยอมรับสภาพหนี้ การทวงหนี้และการไม่ปฏิเสธไม่ถือเป็นการยอมรับสภาพหนี้ที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
การที่โจทก์หรือทนายโจทก์ทวงถามค่าวัสดุก่อสร้างที่จำเลยค้างชำระ และ ล. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลงานก่อสร้างแทนจำเลยตอบทำนองว่า แล้วแต่จำเลยผู้เป็นลูกหนี้นั้นยังถือไม่ได้ว่า ล. ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นแทนจำเลย อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงและการที่ทนายโจทก์มีหนังสือทวงหนี้ถึงจำเลย 2 ครั้ง จำเลยมิได้ปฏิเสธ จะถือว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้แล้วไม่ได้ดุจกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1955/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับหนังสือทวงหนี้และการปฏิเสธหนี้ภายในกำหนดตามกฎหมายล้มละลาย การไม่นำสืบทำให้ข้ออ้างไม่รับฟัง
แม้จะถือว่าหนังสือของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีการส่งโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 76 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2515 แล้วก็ตาม ก็ยังถือเป็นเด็ดขาดไม่ได้ว่าผู้ร้องได้รับในวันที่ส่งนั้นผู้ร้องอาจนำสืบความจริงว่าตนได้รับเมื่อใด เพื่อเป็นข้อแก้ตัวว่าตนได้ตอบปฏิเสธหนี้มาภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับหนังสือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะยืนยันให้ถือว่าผู้ร้องไม่ปฏิเสธหนี้ภายในกำหนดในเหตุที่ว่าหนังสือของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ส่งไปยังสำนักทำการงานของผู้ร้องโดยชอบแล้วแต่ประการเดียวหาได้ไม่ แต่การที่ผู้ร้องแถลงไม่ติดใจนำพยานเข้าสืบ และมิได้นำสืบตามข้ออ้างของตนที่ว่าผู้ร้องเพิ่งทราบการเรียกร้องให้ชำระหนี้เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2515 ข้ออ้างดังกล่าวของผู้ร้องจึงไม่อาจรับฟังได้ ต้องถือว่าผู้ร้องรับทราบหนังสือทวงหนี้แล้วตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2515 นั่นเอง
of 5