พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณประโยชน์: การใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎร แม้ไม่ขึ้นทะเบียนก็เป็นที่สาธารณสมบัติ
หนองน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติสำหรับราษฎรในหมู่บ้านใช้เป็นที่จับปลาและเลี้ยงสัตว์ร่วมกัน เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินแม้ทางราชการจะไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินก็ไม่ใช่ข้อสารสำคัญเพราะไม่มีกฎหมายบังคับว่าจะต้องกระทำดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ชายคลองสาธารณะ: ที่ดินงอกริมตลิ่งหรือที่สาธารณสมบัติ? ศาลฎีกาวินิจฉัยตามสภาพพื้นที่และพยานหลักฐาน
ที่ตื้นเขินชายคลองเป็นที่ชายตลิ่งของคลอง น้ำท่วมถึงราว3 เดือนทุกปี ไม่ใช่ที่งอกจากที่ดินมีโฉนดของโจทก์เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตาม มาตรา1304 วรรค 2 โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อเรือนในที่ชายคลองหน้าที่ดินของโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณประโยชน์: แม้ประกาศหวงห้ามไม่ชอบ แต่หากโจทก์ครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่อง ย่อมเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีเอกชนคนใดถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายมาก่อนต่อมาได้มีประกาศหวงห้ามที่ดินไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะรวมถึงที่พิพาทด้วยและได้มีการแจ้งส.ค.1 สำหรับที่ดินตามประกาศเมื่อ ออกประกาศแล้วโจทก์ได้เข้าครอบครองที่หวงห้ามโดยทำรั้วรอบที่ดินจัดตลาดสดมีโครงการจัดสร้างสนามเด็กเล่นสนามกีฬาและหอประชุมเป็นต้นแม้ประกาศหวงห้ามที่ดินไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ถือได้ว่าที่ดินที่โจทก์ประกาศหวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2701-2702/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน สัญญาเช่าโมฆะ สิทธิเรียกร้องค่าเช่าไม่มี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเช่ากับค่าเสียหายจำเลยต่อสู้ว่าที่ดินที่โจทก์ฟ้องเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปรากฏว่าโจทก์ถูกผู้ว่าราชการจังหวัดฟ้องขับไล่ออกจากที่ดินรายพิพาท บัดนี้คดีนั้นถึงที่สุดแล้ว ศาลพิพากษาให้ขับไล่คดีนี้ออกจากที่พิพาทโดยวินิจฉัยว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินคำชี้ขาดเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินของรัฐอันถึงที่สุดแล้วย่อมปิดปากโจทก์มิให้โต้เถียงเป็นอย่างอื่น เมื่อที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การที่โจทก์นำที่พิพาทมาให้จำเลยเช่าสัญญาเช่าจึงตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่หรือเรียกเอาค่าเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินหวงห้ามเพื่อสหกรณ์เป็นที่สาธารณสมบัติ โจทก์ไม่มีสิทธิเช่าหรือฟ้องขับไล่
ที่พิพาทเป็นที่ดินซึ่งได้มีพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามไว้เพื่อการสหกรณ์ จึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3) ซึ่งต้องห้ามมิให้โอนแก่กัน เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305โจทก์ซึ่งรับโอนที่พิพาทมาจึงไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาท และไม่มีสิทธิจะนำที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินไปให้ผู้ใดเช่าเมื่อโจทก์ไม่มีสิทธินำที่พิพาทไปให้จำเลยเช่า โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกไปจากที่พิพาท และเรียกค่าเช่ากับค่าเสียหายจากจำเลย(อ้างฎีกาที่ 622/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินหวงห้ามเพื่อสหกรณ์เป็นที่สาธารณสมบัติ โจทก์ไม่มีสิทธิให้เช่าหรือฟ้องไล่
ที่พิพาทเป็นที่ดินซึ่งได้มีพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามไว้เพื่อการสหกรณ์ จึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3) ซึ่งต้องห้ามมิให้โอนแก่กัน เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305โจทก์ซึ่งรับโอนที่พิพาทมาจึงไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาท และไม่มีสิทธิจะนำที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินไปให้ผู้ใดเช่า เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธินำที่พิพาทไปให้จำเลยเช่า โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกไปจากที่พิพาท และเรียกค่าเช่ากับค่าเสียหายจากจำเลย (อ้างฎีกาที่ 622/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิการใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทำให้เจ้าของที่ดินติดกันได้รับความเสียหายเป็นพิเศษและมีสิทธิฟ้องขับไล่
ที่ดินของโจทก์จดชายทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จำเลยเข้าปลูกเรือนในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นได้โดยสะดวก ถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การรอนสิทธิของเจ้าของที่ดินติดทะเล
ที่ดินของโจทก์จดชายทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จำเลยเข้าปลูกเรือนในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นได้โดยสะดวก ถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิใช้ประโยชน์ที่ดินริมน้ำของเจ้าของที่ดินจากสิ่งปลูกสร้างบนที่สาธารณสมบัติ การฟ้องไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 3308 อยู่ริมแม่น้ำ โดยซื้อจาก บ. ซึ่ง บ. รับซื้อจาก อ. อีกต่อหนึ่ง.ที่ดินแปลงนี้อยู่ติดกับบ้านของจำเลยซึ่งปลูกอยู่ชายตลิ่งแม่น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตัวเรือนของจำเลยบังหน้าที่ดินของโจทก์. ขัดต่อความสะดวกในการที่โจทก์จะใช้สอยหรือรับประโยชน์จากแม่น้ำลำคลองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน. ดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายพิเศษ. จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ไม่เสียหาย. เพราะที่ดินโจทก์ใช้เป็นทางเดินจำเป็นแล้ว. ย่อมไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1095/2500).
พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 89.หาได้ตัดอำนาจโจทก์ที่จะฟ้องร้องจำเลยทางแพ่งเพื่อบังคับตามสิทธิของโจทก์อันมีอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่.
คดีแดงที่ 3425/2504 นั้น ศาลวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยปลูกเรือนอยู่ได้เพราะบิดาของ อ. โจทก์ในคดีนั้นให้จำเลยเช่า และโจทก์ได้รับรองการเช่าแล้ว. โจทก์ในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขับไล่จำเลย. เพราะจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ อันเป็นประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องเช่าทรัพย์. ไม่ใช่เรื่องละเมิด. ส่วนคดีนี้โจทก์อ้างว่าได้รับซื้อที่ดินโฉนดที่ 3308 จาก บ. โดย บ. ซื้อจาก อ. เป็นโฉนดแบ่งแยกจากโฉนดเลขที่ 2389 คือ ที่ดินที่พิพาทในคดีแดงที่3425/2504. แต่โจทก์คดีนี้มิได้เป็นคู่ความกับจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 3425/2504. จะถือว่าโจทก์เป็นผู้สืบสิทธิมาจากโจทก์ในคดีก่อนก็ไม่ได้. เพราะสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับโจทก์ในคดีก่อนเป็นสัญญาเช่าที่ในแม่น้ำนอกที่ดินที่โจทก์ในคดีนี้ซื้อมา. จึงไม่ได้โอนมายังโจทก์พร้อมกับที่ดินที่โจทก์ซื้อ. คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเช่าทรัพย์ดังในคดีก่อน. ประเด็นในคดีนี้คือ โจทก์ให้จำเลยออกไปจากหน้าที่ดิน จำเลยไม่ยอมออก. อันเป็นเรื่องละเมิด. ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ 3425/2504.
พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 89.หาได้ตัดอำนาจโจทก์ที่จะฟ้องร้องจำเลยทางแพ่งเพื่อบังคับตามสิทธิของโจทก์อันมีอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่.
คดีแดงที่ 3425/2504 นั้น ศาลวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยปลูกเรือนอยู่ได้เพราะบิดาของ อ. โจทก์ในคดีนั้นให้จำเลยเช่า และโจทก์ได้รับรองการเช่าแล้ว. โจทก์ในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขับไล่จำเลย. เพราะจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ อันเป็นประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องเช่าทรัพย์. ไม่ใช่เรื่องละเมิด. ส่วนคดีนี้โจทก์อ้างว่าได้รับซื้อที่ดินโฉนดที่ 3308 จาก บ. โดย บ. ซื้อจาก อ. เป็นโฉนดแบ่งแยกจากโฉนดเลขที่ 2389 คือ ที่ดินที่พิพาทในคดีแดงที่3425/2504. แต่โจทก์คดีนี้มิได้เป็นคู่ความกับจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 3425/2504. จะถือว่าโจทก์เป็นผู้สืบสิทธิมาจากโจทก์ในคดีก่อนก็ไม่ได้. เพราะสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับโจทก์ในคดีก่อนเป็นสัญญาเช่าที่ในแม่น้ำนอกที่ดินที่โจทก์ในคดีนี้ซื้อมา. จึงไม่ได้โอนมายังโจทก์พร้อมกับที่ดินที่โจทก์ซื้อ. คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเช่าทรัพย์ดังในคดีก่อน. ประเด็นในคดีนี้คือ โจทก์ให้จำเลยออกไปจากหน้าที่ดิน จำเลยไม่ยอมออก. อันเป็นเรื่องละเมิด. ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ 3425/2504.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471-1472/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานะผู้ว่าฯ-นายอำเภอในการรักษาที่สาธารณสมบัติ และผลผูกพันคำพิพากษาเดิม
ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นผู้มีหน้าที่รักษาที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีสิทธิและหน้าที่อย่างเดียวกัน ตามกฎหมายในเรื่องที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ผู้ว่าราชการจังหวัดกับนายอำเภอไม่มีฐานะต่างกัน
เดิม ศาลพิพากษาในคดีแดงที่ 15/2495 ซึ่งนายอำเภอวารินชำราบเป็นโจทก์ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ให้ยกฟ้องในคดีนั้น ที่พิพาทในคดีนี้เป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่พิพาทในคดีแดงที่ 15/2495 ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้โจทก์ในคดีนี้จะเป็นจำเลยในคดีแดงที่ 15/2495 และศาลมิได้ชี้ขาดในคดีแดงที่ 15/2495 โดยตรงว่า ที่พิพาทในคดีนั้นเป็นของจำเลยในคดีนั้น ( คือ โจทก์ในคดีนี้ ) แต่ผลของคำพิพากษาที่วินิจฉัยว่าโจทก์ในคดีนั้นไม่มีพยานหลักฐานพอฟังว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ก็ผูกพันโจทก์คดีนี้และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จำเลยคดีนี้ มิได้รื้อฟ้องพิพาทกันในคดีนี้อีกว่า ที่พิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
เดิม ศาลพิพากษาในคดีแดงที่ 15/2495 ซึ่งนายอำเภอวารินชำราบเป็นโจทก์ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ให้ยกฟ้องในคดีนั้น ที่พิพาทในคดีนี้เป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่พิพาทในคดีแดงที่ 15/2495 ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้โจทก์ในคดีนี้จะเป็นจำเลยในคดีแดงที่ 15/2495 และศาลมิได้ชี้ขาดในคดีแดงที่ 15/2495 โดยตรงว่า ที่พิพาทในคดีนั้นเป็นของจำเลยในคดีนั้น ( คือ โจทก์ในคดีนี้ ) แต่ผลของคำพิพากษาที่วินิจฉัยว่าโจทก์ในคดีนั้นไม่มีพยานหลักฐานพอฟังว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ก็ผูกพันโจทก์คดีนี้และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จำเลยคดีนี้ มิได้รื้อฟ้องพิพาทกันในคดีนี้อีกว่า ที่พิพาทเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148