พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินและครอบครองเพื่ออ้างสิทธิในที่ดินส่วนตน ทุนทรัพย์พิพาทจำกัดผลต่อการฎีกา
แม้เดิมที่พิพาทจะเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่โจทก์ฟ้องว่าได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด และโจทก์แต่ละคนต่างครอบครองมากว่าสิบปีแล้ว คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้พิพากษาให้โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่ครอบครองกันมา ส่วนคำขอที่ขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ก็ต้องถือว่าโจทก์แต่ละคนขอให้เพิกถอนนิติกรรมในส่วนที่ดินของตนซึ่งตามรูปคดีโจทก์แต่ละคนอาจฟ้องตามส่วนของตนโดยลำพังได้ แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคนเมื่อปรากฏว่าทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคนไม่เกิน 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คู่ความจึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินและกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วน ทุนทรัพย์พิพาทแต่ละโจทก์มีผลต่อการฎีกา
แม้เดิมที่พิพาทจะเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่โจทก์ฟ้องว่าได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด และโจทก์แต่ละคนต่างครอบครองมากว่าสิบปีแล้ว คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้พิพากษาให้โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่ครอบครองกันมา ส่วนคำขอที่ขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ก็ต้องถือว่าโจทก์แต่ละคนขอให้เพิกถอนนิติกรรมในส่วนที่ดินของตนซึ่งตามรูปคดีโจทก์แต่ละคนอาจฟ้องตามส่วนของตนโดยลำพังได้ แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคน เมื่อปรากฏว่าทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคนไม่เกิน 5,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คู่ความจึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยและการจำกัดสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อมีทุนทรัพย์พิพาทต่ำ
ที่พิพาทหลายแปลงอยู่ติดต่อภายในวงอันเดียวกัน การที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนและให้โจทก์ชนะบางส่วน แต่ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้ยกฟ้องเสียทั้งหมด เช่นนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79-80/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำกัดตามทุนทรัพย์พิพาท แม้รวมพิจารณาคดี ก็ไม่ถือเป็นคดีเดียวกัน
โจทก์จำเลยต่างกล่าวหาฟ้องร้องกันคนละสำนวน แม้ศาลจะรวมการพิจารณา ก็ไม่ทำให้คดีทั้ง 2 เรื่องนั้น เป็นคดีเรื่องเดียวและมีทุนทรัพย์ที่พิพาทเท่ากันไปได้ สิทธิที่จะฎีกาจะมีเพียงใด จึงต้องพิจารณาตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ตั้งพิพาทในคดีที่จะฎีกานั้นเองโดยเฉพาะ แม้สำนวนหนึ่งมีทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาท อันจะฎีกาในข้อเท็จจริงได้ แต่คู่ความไม่ฎีกาในสำนวนนี้ คงติดใจฎีกาเฉพาะแต่สำนวนที่มีนั้น ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าในคดีที่ฎีกานี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์พิพาท: การโต้แย้งกรรมสิทธิในทรัพย์สินที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากและการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา 8000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์พิพาทต้องเป็นราคาที่คู่ความตกลงหรือศาลรับรอง การหยิบยกราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินโดยไม่ฟังคู่ความเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินในสำนวนเป็นราคาที่คณะอนุกรรมการกำหนดไว้เพื่อการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น มิใช่ราคาที่แท้จริงของที่ดินพิพาท ราคาประเมินจึงมิใช่ทุนทรัพย์ที่แท้จริงในคดี เว้นแต่คู่ความจะรับรองและให้ใช้ราคาประเมินดังกล่าวเป็นทุนทรัพย์ โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทเนื้อที่ 2 ตารางวาเศษ ราคา 100,000 บาท ซึ่งโจทก์ขอถือเป็นทุนทรัพย์ในคดีนี้ โดยเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ดังกล่าว และในชั้นอุทธรณ์ศาลชั้นต้นก็เรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในทุนทรัพย์ 100,000 บาท การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 หยิบยกราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินว่ามีราคาเพียง 24,800 บาท แล้วพิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ โดยเห็นว่าคดีโจทก์ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงเป็นการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่ปฏิบัติตาม ป.วิ.พ. มาตรา 243 (1) ประกอบมาตรา 252 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3839/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์พิพาทเกินอำนาจศาลแขวง: คำขอบังคับโอนกรรมสิทธิ์บ้านรวมราคาสูงกว่า 300,000 บาท
แม้คำขอบังคับของโจทก์ทั้งสองในข้อที่ 1 ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ชดใช้เบี้ยปรับตามสัญญาเป็นเงิน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ถือว่ามีทุนทรัพย์พิพาทกันเพียง 300,000 บาท ก็ตาม แต่คำขอบังคับข้อ 2 ที่โจทก์ทั้งสองขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย และหักกลบลบหนี้กับค่าบ้านที่คงเหลือที่โจทก์มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่จำเลยที่ 1 หากจำเลยทั้งสี่ไม่ยินยอม ให้ใช้คำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาให้โจทก์ผู้ซื้อไปโอนกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินได้และวางเงินคงเหลือไว้ต่อศาล คำขอบังคับส่วนนี้มุ่งประสงค์บังคับให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินพิพาทซึ่งตามสัญญาจะซื้อจะขายรวมราคาซื้อขายไว้เป็นเงิน 600,000 บาท ซึ่งหากโจทก์ทั้งสองชนะคดีโจทก์ทั้งสองย่อมได้กรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินพิพาทที่มีราคาดังกล่าว ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในคดีจึงเกินกว่า 300,000 บาท เกินอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาได้ ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 (4)