คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุเลาการบังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอทุเลาการบังคับคดีกับการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ และการพิจารณาประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับ
ในชั้นบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ตามคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ดังนี้การที่จำเลยร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลอุทธรณ์หรือฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับ หาใช่เป็นเรื่องขอทุเลาการบังคับคดีไม่ แต่เป็นการร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 จำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 228(2),247 จำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้อง แม้ในที่สุดศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์จำเลยก็จะไม่ได้ประโยชน์แต่ประการใด เพราะโจทก์ก็จะเป็นผู้ได้รับเงินซึ่งได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแต่ผู้เดียวจึงไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยไว้ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอทุเลาการบังคับคดี vs. การขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา และเหตุผลที่ไม่มีประโยชน์ในการคุ้มครองลูกหนี้
ในชั้นบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ตามคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ดังนี้การที่จำเลยร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลอุทธรณ์หรือฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับ หาใช่เป็นเรื่องขอทุเลาการบังคับคดีไม่ แต่เป็นการร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 จำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 228(2),247 จำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้อง แม้ในที่สุดศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์จำเลยก็จะไม่ได้ประโยชน์แต่ประการใด เพราะโจทก์ก็จะเป็นผู้ได้รับเงินซึ่งได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแต่ผู้เดียวจึงไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยไว้ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การครอบครองระหว่างคดีไม่ถือเป็นการครอบครองเพื่อตน หากมีคำขอทุเลาการบังคับคดี
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องละเมิดบุกรุกที่ดินของโจทก์แปลงอื่น จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลย ในการทำแผนที่พิพาทจำเลยได้นำชี้ล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งคือแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ว่าเป็นที่ดินของจำเลยด้วย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่พิพาทกันในคดีนี้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ด้วย ในชั้นอุทธรณ์จำเลยขอทุเลาการบังคับคดีและศาลอุทธรณ์อนุญาต ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาว่า การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเลยไปถึงที่ดินที่พิพาทกันในคดีนี้เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์จึงมาฟ้องใหม่เป็นคดีนี้ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทในคดีนี้ ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทในคดีนี้ในระหว่างคดีก่อนเป็นระยะเวลาเกิน 1 ปี โจทก์จึงหมดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองในที่พิพาทแล้วหาได้ไม่ เพราะการที่จำเลยครอบครองที่พิพาทในระหว่างคดีเรื่องก่อนตั้งแต่วันฟ้องคดีจนถึงวันที่ศาลฎีกาพิพากษานั้น เป็นการครอบครองที่อยู่ในระหว่างที่โจทก์กล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ทั้งจำเลยได้ขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์อนุญาต จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจตัดสินในระหว่างพิจารณาคดี ศาลฎีกาไม่มีอำนาจแก้ไข
การขอทุเลาการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 นั้น กฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป สำหรับคดีนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องขอทุเลาการบังคับจึงเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์เป็นอย่างอื่นได้ และกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับแล้ว จำเลยจะฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2275/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามคำสั่งศาลทุเลาการบังคับคดี: การวางหลักทรัพย์และข้อยกเว้นวันหยุด
การขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว ก็เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ คู่ความจะฎีกาต่อไปไม่ได้แต่เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้ว คู่ความได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งหรือไม่นั้น มิใช่เป็นคำสั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับคดี คู่ความชอบที่จะฎีกาได้
ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2520 โดยกำหนดให้จำเลยนำหลักทรัพย์มาวางศาล ศาลชั้นต้นได้นัดพิจารณาหลักทรัพย์ถึง 3 ครั้ง จนเป็นที่พอใจ และจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2520 ล่วงพ้นเวลาที่จำเลยจะต้องนำเงินค่าเสียหายรายเดือน ๆ แรกตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์มาวางศาล การที่จำเลยนำเงินค่าเสียหายเดือนแรกและเดือนต่อไป (เดือนตุลาคมและพฤศจิกายน) รวม 2 เดือนมาวางในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 เนื่องจากวันที่ 5 และ 6 ตรงกับวันหยุดราชการ จึงเป็นการปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งเรื่องทุเลาการบังคับคดีของศาลอุทธรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าข้อยุติเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว ต้องพิจารณาหลังศาลบังคับคดีแล้ว
เพียงแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์จำนวนเกินกว่า 30,000 บาท จำเลยทราบคำบังคับแล้ว ไม่ชำระหนี้แต่โจทก์ก็ยังไม่ได้ขอหมายบังคับคดี เพราะคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับคดี และจำเลยก็นำสืบว่าสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้ จึงยังไม่เข้าข้อสันนิษฐานว่าจำเลยเป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: ศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งการบังคับคดีเมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตทุเลาการบังคับคดี แม้จำเลยอ้างมาตรา 231 วรรคท้าย
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว. การดำเนินการบังคับคดีย่อมเป็นอำนาจของศาลชั้นต้น. และเมื่อศาลชั้นต้นยึดทรัพย์ของจำเลยมาและขายทอดตลาด. จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดไว้ก่อน. การจะงดการขายทอดตลาดหรือไม่. เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบังคับคดี.จึงอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะสั่งคำร้องของจำเลยได้.
โดยหลักทั่วไป เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีอันจำเลยจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษา คำพิพากษาของศาลชั้นต้นย่อมมีผลให้จำเลยต้องปฏิบัติตามแม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด. เว้นแต่จำเลยจะได้ยื่นอุทธรณ์และดำเนินการตามวิธีใดวิธีหนึ่งในมาตรา 231 คือขอทุเลาการบังคับคดีหรือวางเงินต่อศาลชั้นต้นเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษารวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดี หรือได้หาประกันมาให้สำหรับจำนวนเงินเช่นว่านี้ จนเป็นที่พอใจของศาลชั้นต้นซึ่งจะเป็นผลให้ศาลชั้นต้นงดการบังคับคดีไว้
จำเลยมิได้วางเงินหรือหาประกันมาให้ แต่ได้ยื่นขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลอุทธรณ์. และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตคดีจึงไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 231 มาตรา 231วรรคท้าย เป็นเรื่องที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด. ศาลย่อมมีอำนาจที่จะดำเนินการตามมาตรา 231 วรรคท้าย ได้ เมื่อกรณีจำเลยไม่ต้องด้วยมาตรา 231 วรรคท้าย เพราะจำเลยมิได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี จำเลยจึงขอให้งดการขายทอดตลาดตามมาตรา 241 วรรคท้าย ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีหลังศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการยึดและขายทอดตลาดได้
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว. การดำเนินการบังคับคดีย่อมเป็นอำนาจของศาลชั้นต้น. และเมื่อศาลชั้นต้นยึดทรัพย์ของจำเลยมาและขายทอดตลาด. จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดไว้ก่อน. การจะงดการขายทอดตลาดหรือไม่. เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบังคับคดี.จึงอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะสั่งคำร้องของจำเลยได้.
โดยหลักทั่วไป เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีอันจำเลยจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษา.คำพิพากษาของศาลชั้นต้นย่อมมีผลให้จำเลยต้องปฏิบัติตามแม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด. เว้นแต่จำเลยจะได้ยื่นอุทธรณ์และดำเนินการตามวิธีใดวิธีหนึ่งในมาตรา 231 คือขอทุเลาการบังคับคดีหรือวางเงินต่อศาลชั้นต้นเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษารวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดี. หรือได้หาประกันมาให้สำหรับจำนวนเงินเช่นว่านี้ จนเป็นที่พอใจของศาลชั้นต้นซึ่งจะเป็นผลให้ศาลชั้นต้นงดการบังคับคดีไว้.
จำเลยมิได้วางเงินหรือหาประกันมาให้. แต่ได้ยื่นขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลอุทธรณ์. และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต.คดีจึงไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 231. มาตรา 231วรรคท้าย เป็นเรื่องที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด. ศาลย่อมมีอำนาจที่จะดำเนินการตามมาตรา 231 วรรคท้าย ได้. เมื่อกรณีจำเลยไม่ต้องด้วยมาตรา 231 วรรคท้าย. เพราะจำเลยมิได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี. จำเลยจึงขอให้งดการขายทอดตลาดตามมาตรา 231 วรรคท้าย ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษา และผลของการทุเลาการบังคับคดีต่อการชดใช้ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่ดินของผู้อื่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินให้โจทก์ กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เพราะทำนาใน พ.ศ.2494 ไม่ได้ เป็นเงิน 1,440 บาท กับปีต่อๆ ไปปีละ 1,440 บาท จนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดินของโจทก์ ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ศาลสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับตามคำร้องของจำเลย เมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในปี พ.ศ.2497 จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นรายปีมาจนถึงปี พ.ศ.2497 ด้วย จำเลยจะได้ทำประโยชน์ในที่พิพาทหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะจำเลยได้รับทุเลาการบังคับคดีไว้ เรียกได้ว่าจำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยยังไม่ยอมออกจากที่พิพาทตามคำพิพากษา
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้แก่โจทก์ และห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์แล้ว ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยยังเข้าเกี่ยวข้องตัดฟันไม้ในที่ของโจทก์ๆ จึงขอให้ศาลห้ามจำเลย แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามจำเลย และบริวารไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทก็ดี ก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งชั่วคราว เมื่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีตามที่จำเลยร้องขอแล้ว ก็เป็นการถอนคำสั่งชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นสั่งไปแล้วด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี: กำหนดตามชั้นศาลที่พิจารณาคดี
การทุเลาการบังคับคดีนั้นกฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นคั่นๆไปกล่าว คือ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างฎีกา จึงจะอยู่ในอำนาจศาลฎีกา
คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์เมื่อศษลอุทธรณ์ สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้วจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกาไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 101/2491)
of 5