คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ท้องที่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1702-1703/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจสอบสวนและฟ้องคดีเช็ค: การกระทำผิดต่อเนื่องหลายท้องที่
จำเลยออกเช็คของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาดินแดงซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่เขตพญาไท กรุงเทพ ให้แก่โจทก์ร่วมเมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์ร่วมนำเช็คนั้นไปเข้าบัญชีที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาบางนา เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาดินแดง ปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้น โจทก์ร่วมได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการให้ดำเนินคดีกับจำเลย โดยอ้างว่าจำเลยออกเช็คให้โจทก์ร่วมที่ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ดังนี้แม้ความผิดมิได้เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ เพราะธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินมิได้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนั้นก็ตาม แต่โจทก์และโจทก์ร่วมก็อ้างว่าจำเลยกระทำผิดในเขตอำเภอพระประแดง โดยออกเช็คในท้องที่นั้น ถ้าเป็นความจริงก็ถือได้ว่าการกระทำผิดอาญาได้กระทำลงในท้องที่อำเภอพระประแดงต่อเนื่องกับการกระทำผิดในท้องที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอพระประแดงย่อมมีอำนาจสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19(3) พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการมีอำนาจฟ้อง และศาลจังหวัดสมุทรปราการย่อมมีอำนาจชำระคดีตามมาตรา 22 เมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่(ประชุมใหญ่ครั้งที่4-5/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: คดีความผิดเกิดขึ้นที่ปัตตานี แต่สอบสวนที่สงขลา โจทก์มีอำนาจฟ้องที่สงขลาได้
เมื่อความผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจศาลจังหวัดปัตตานี แต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ในท้องที่จังหวัดสงขลาและพนักงานสอบสวนในท้องที่ดังกล่าวได้ทำการสอบสวนความผิดตามที่ถูกกล่าวหานี้แล้ว โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องที่ศาลจังหวัดสงขลาให้ชำระคดีนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1) ซึ่งเป็นข้อยกเว้นของมาตรา 22 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: ความผิดฐานฉ้อโกงที่เกิดจากหลายท้องที่ ศาลแขวงธนบุรีมีอำนาจพิจารณา
ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353,84 โดยบรรยายว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนโจทก์ที่ 1 กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ด้วยการยุยงส่งเสริมของจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 นำเช็คของโจทก์ที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 2 เพื่อให้จำเลยที่ 2 นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ต่อมาจำเลยที่ 2 นำเช็คนั้นไปเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2 ให้เรียกเก็บเงินจากบัญชีโจทก์ที่ 1 ธนาคารได้ตัดเงินจากบัญชีโจทก์ที่ 1 จ่ายให้ไป ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ได้ความตามฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คที่ตำบลลาดยาวอำเภอบางเขน แล้วจำเลยที่ 2 นำเช็คไปเข้าบัญชีที่ธนาคาร ก. สาขาภาษีเจริญ การนำเช็คไปเข้าบัญชีและรับเงินก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความผิดตามฟ้องสำเร็จบริบูรณ์ ท้องที่ที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค และท้องที่ที่จำเลยที่ 2 นำเช็คไปเข้าบัญชี ต่างก็เป็นที่เกิดเหตุคดีนี้ ธนาคาร ก. สาขาภาษีเจริญ อยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงธนบุรีศาลแขวงธนบุรีจึงมีอำนาจพิจารณาและพิพากษาคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2974/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรับคำร้องทุกข์ของพนักงานสอบสวน ไม่ผูกพันกับอำนาจสอบสวน คดีต่อเนื่องพิจารณาได้หลายท้องที่
การพิจารณาปัญหาว่าพนักงานสอบสวนผู้รับคำร้องทุกข์ไว้จะมีอำนาจรับคำร้องทุกข์นั้นหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกับการพิจารณาปัญหาว่าพนักงานสอบสวนผู้นั้นจะมีอำนาจสอบสวนในความผิดเรื่องนั้นด้วยหรือไม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 124มิได้บังคับให้ร้องทุกข์เฉพาะต่อเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนเสมอไปเหตุนี้ พนักงานสอบสวนในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ซึ่งแม้จะมิได้มีอำนาจทำการสอบสวนในคดีใดเลย ก็ยังมีอำนาจรับคำร้องทุกข์ในคดีนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจสอบสวนคดีเช็ค: เหตุผลสมควรเชื่อว่าความผิดเกิดในพื้นที่
จำเลยถูกกล่าวหาในความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่า จำเลยออกเช็คพิพาทมอบให้บริษัทผู้เสียหายในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวังแต่เมื่อบริษัทผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางรักโดยอ้างว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้บริษัทผู้เสียหายในท้องที่อำเภอบางรัก จังหวัดพระนคร และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางรักเชื่อเช่นนั้นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางรักย่อมมีอำนาจสอบสวนความผิดนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 18 วรรคสองและเมื่อสอบสวนแล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขต 'ท้องที่' ในประกาศควบคุมการค้า: การขนย้ายภายในอำเภอไม่ถือเป็นการฝ่าฝืน
คำว่า "ท้องที่" ในม.8 (6) หมายความถึงเขตท้องที่แห่งการปกครองอันได้แบ่งไว้แล้วอย่างแจ้งชัด เช่น จังหวัด, ตำบล, อำเภอ, หมู่บ้าน
เมื่อประกาศคณะกรรมการฯ ระบุห้ามการขนย้ายเพียงเขตอำเภอ แม้จำเลยขนย้ายข้ามเขตตำบล แต่อยู่ในอำเภอเดียวกัน ก็ไม่เป็นผิดตามประกาศฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขต 'ท้องที่' ในประกาศห้ามขนย้ายสินค้า: การตีความตามอำนาจกฎหมายป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คำว่า'ท้องที่' ใน มาตรา 8(6) หมายความถึงเขตท้องที่แห่งการปกครองอันได้แบ่งไว้แล้วอย่างแจ้งชัด เช่นจังหวัด, ตำบล, อำเภอ, หมู่บ้าน
เมื่อประกาศคณะกรรมการฯระบุห้ามการขนย้ายเพียงเขตอำเภอแม้จำเลยขนย้ายข้ามเขตตำบลแต่อยู่ในอำเภอเดียวกัน ก็ไม่เป็นผิดตามประกาศฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตป่าคุ้มครองตามพระราชกฤษฎีกา ต้องพิจารณาจากท้องที่ระบุในกฤษฎีกา ไม่ใช่แผนที่ท้ายกฤษฎีกา
ต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาเป็นสำคัญในการที่จะกำหนดให้ที่ใดเป็นป่าคุ้มครอง จะถือเขตตามที่ปรากฎในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตป่าคุ้มครองต้องพิจารณาจากท้องที่ระบุในพระราชกฤษฎีกา ไม่ใช้แผนที่ประกอบ
พ.ร.ฎ.กำหนดป่าเลนปากพนังฝั่งตะวันตกในท้องที่ตำบลคลองกระบือและตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ.2492 มาตรา 3
ต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาเป็นสำคัญในการที่จะกำหนดให้ที่ใดเป็นป่าคุ้มครอง จะถือเขตตามที่ปรากฏในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ราคาซื้อขายฝิ่นในคดีอาญา จำเป็นต้องระบุราคาในท้องที่และเวลาเกิดเหตุ
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่เกิดเหตุและเวลาเกิดเหตุกรัมละ 4 บาท เป็นแต่กล่าวว่ารัฐบาลจำหน่ายเวลานี้กรัมละ 4 บาท จำหน่ายแห่งใดก็ไม่ทราบ ทั้งจำเลยก็ไม่ได้ให้การรับราคาตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์มีหน้าที่สืบให้สมแต่ไม่สืบ จึงควรปรับจำเลยตามอัตราคั่นต่ำคือ 50 บาท
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482 และ 1308 /2482)
คู่ความรับกันว่า กรมสรรพมิตต์มีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นพาฝิ่นออกนอกร้านได้ดังนี้ นโยบายนั้นหาลบล้างกฎหมายได้ไม่
of 5