พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามคำพิพากษาคดีอาญา แม้คดีที่ให้นับโทษต่อยังไม่สิ้นสุด
จำเลยถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกในคดีอื่นแล้ว แม้จะอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยก็ยังต้องถูกบังคับตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จึงไม่ใช่เหตุที่จะนับโทษต่อไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2606/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อเมื่อฟ้องหลายสำนวน ความผิดเกิดในคราวเดียวกัน ต้องไม่เกิน 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา
คดีแรกที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วและคดีนี้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นับโทษต่อ จากคดีแรกนั้น เป็นความผิดซึ่ง เกิดในคราวเดียว กัน ลักษณะและพฤติการณ์แห่งคดีเหมือนกัน เจ้าพนักงานจับกุมในคราวเดียวกันและผู้เสียหายคนเดียวกัน ทั้งความผิดทั้งสองสำนวนเกิดขึ้นและปรากฏต่อ พนักงานสอบสวนก่อนวันที่จำเลยถูก จับกุมในคดีนี้เห็นได้ ว่าโจทก์อาจยื่นฟ้องจำเลยทุกกระทงความผิดเป็นสำนวนเดียวกันได้ กรณีเช่นนี้ศาลลงโทษจำคุกจำเลยได้ ไม่เกินยี่สิบปีแม้ว่าโจทก์จะแยกฟ้องจำเลยเป็นสองสำนวนและขอให้นับโทษต่อกันก็ตามแต่ เมื่อรวมโทษที่จำเลยจะได้ รับแล้วต้อง ไม่เกินยี่สิบปี เมื่อคดีนี้ศาลลงโทษจำเลยทุกกรรมโดย จำคุกจำเลยเต็มตาม ที่กฎหมายกำหนดแล้วศาลจะนับโทษจำเลยต่อ จากคดีแรกไม่ได้ เมื่อปรากฏจากคำฟ้องว่า ระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ถูก ควบคุมในคดีนี้ แต่ถูก คุมขังในคดีแรก การคำนวณระยะเวลาจำคุกในคดีนี้ต้องหักจำนวนวันที่จำเลยถูก คุมขังในคดีแรกจากระยะเวลาจำคุก 20 ปีในคดีนี้ เพื่อมิให้จำเลยต้อง รับโทษจำคุกเกินกำหนด 20 ปี ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย แม้คดีนี้จะถึง ที่สุดตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วก็ตาม เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้นับโทษจำเลยคดีนี้ต่อ จากโทษในคดีแรกเกินกว่า 20 ปี อันไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้นับโทษจำเลยทั้งสองคดีติดต่อ กันให้ถูกต้อง ศาลก็มีอำนาจที่จะมีคำสั่งให้ลงโทษจำเลยทั้งสองคดีติดต่อกันไม่เกิน 20 ปีได้ .
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2505/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อเมื่อศาลมิได้รวมการพิจารณาคดี และโทษจำคุกในแต่ละคดีเต็มตามกฎหมาย ทำให้จำเลยได้รับโทษเกินกำหนด
คดีนี้กับคดีที่ขอให้นับโทษต่อโจทก์อาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ ถ้าโจทก์ยกฟ้องและศาลสั่งให้พิจารณารวมกันศาลลงโษได้ไม่เกินกำหนดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 หากศาลมิได้สั่งให้พิจารณารวมกันและลงโทษทุกกรรมเต็มตามกำหนดในมาตราดังกล่าวทั้งสองสำนวน ศาลก็จะนับโทษต่อไม่ได้ เมื่อคดีที่ขอให้นับโทษต่อศาลจำคุก 20 ปีเต็มตามกำหนดในมาตรา91 คดีถึงที่สุดแล้ว และคดีนี้ศาลก็จำคุก 20 ปี ดังนี้ นับโทษต่อไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2505/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อเมื่อฟ้องหลายกระทงและจำกัดโทษสูงสุดตามกฎหมาย
คดีนี้กับคดีที่ขอให้นับโทษต่อ โจทก์อาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ถ้าโจทก์แยกฟ้องและศาลสั่งให้พิจารณารวมกันศาลก็ลงโทษได้ไม่เกินกำหนดตามประมวลกฎหมายมาตรา 91 หากศาลมิได้สั่งให้พิจารณารวมกันและลงโทษทุกกรรมเต็มตามที่กำหนดในมาตราดังกล่าวทั้งสองสำนวน ศาลก็จะนับโทษต่อไม่ได้ เพราะจะทำให้จำเลยต้องรับโทษเกินกำหนดที่มาตรา 91 บัญญัติไว้ เมื่อคดีที่ขอให้นับโทษต่อ ศาลจำคุก 20 ปีเต็มตามกำหนดในมาตรา 91 คดีถึงที่สุดแล้วและคดีนี้ จำคุก 20 ปี ดังนี้ นับโทษต่อไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2505/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อเมื่อศาลมิได้รวมสำนวนคดีทุจริต และโทษรวมเกินกำหนดตามกฎหมาย
คดีนี้กับคดีที่ขอให้นับโทษต่อโจทก์อาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ ถ้าโจทก์ยกฟ้องและศาลสั่งให้พิจารณารวมกันศาลลงโษได้ไม่เกินกำหนดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 หากศาลมิได้สั่งให้พิจารณารวมกันและลงโทษทุกกรรมเต็มตามกำหนดในมาตราดังกล่าวทั้งสองสำนวน ศาลก็จะนับโทษต่อไม่ได้ เมื่อคดีที่ขอให้นับโทษต่อศาลจำคุก 20 ปีเต็มตามกำหนดในมาตรา91 คดีถึงที่สุดแล้ว และคดีนี้ศาลก็จำคุก 20 ปี ดังนี้ นับโทษต่อไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2048/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.คอมมิวนิสต์ และดุลพินิจการนับโทษต่อของศาล
บทบัญญัติมาตรา 17 สัตตแห่งพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2495 ไม่ใช่เรื่องนิรโทษรกรรมแต่เป็นหลักเกณฑ์ที่ผู้กระทำความผิดได้รับการยกเว้นไม่ให้ถูกฟ้องสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์เท่านั้น จำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้อง
ปัญหาว่าจำเลยได้รับนิรโทษกรรม และนับโทษต่อไม่ได้นั้นเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยได้ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้
การจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่นหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล แม้คดอื่นและคดีนี้ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน ศาลใช้ดุลพินิจให้นับโทษต่อได้
ปัญหาว่าจำเลยได้รับนิรโทษกรรม และนับโทษต่อไม่ได้นั้นเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยได้ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้
การจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่นหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล แม้คดอื่นและคดีนี้ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน ศาลใช้ดุลพินิจให้นับโทษต่อได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งให้นับโทษต่อจากคดีอื่น แม้คดีนั้นจะพิพากษาในชั้นฎีกา
โจทก์บรรยายฟ้องและมีคำขอท้ายฟ้องให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษคดีอื่นของศาลชั้นต้น จำเลยรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ ขอให้นับโทษต่อ แม้ขณะที่คดีนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คดีดังกล่าวจะยังไม่ได้พิพากษาเพิ่งจะมีคำพิพากษาเมื่อคดีนี้อยู่ในชั้นฎีกา โดยโจทก์ได้ยื่นคำแถลงให้ศาลทราบแล้ว เช่นนี้ เป็นอำนาจของศาลฎีกาที่จะสั่งให้นับโทษต่อได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3101/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อระหว่างคดี และการปรับบทลงโทษที่ไม่ถูกต้องในคดีฉ้อโกงและการจัดหางาน
ข้อหาความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 1 เดือน กับให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอื่นของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกคำขอที่ให้นับโทษต่อเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ส่วนข้อหาความผิดฐานฉ้อโกง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ให้จำคุก 2 ปี กับให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหายทั้งสี่ และให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอื่นของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โดยให้ยกคำขอที่ให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหายบางคน กับให้ยกคำขอที่ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอื่น ส่วนบทมาตราที่จำเลยกระทำผิดและอัตราโทษจำคุกศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษเท่ากับศาลชั้นต้น เป็นการแก้ไขเล็กน้อยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามบทกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและยืนยันตัวตนจำเลยให้ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษคดีอาญาอื่น จำเลยให้การปฏิเสธ และมิได้มีการสอบถามในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฏในสำนวนว่าจำเลยเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ดังนี้ จึงไม่อาจนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องให้นับโทษต่อและการหักวันต้องขัง โดยไม่ต้องระบุรายละเอียดความผิดในฟ้อง และกรณีจำเลยพ้นโทษแล้ว
คำฟ้องส่วนที่ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นแม้ไม่บรรยายว่าโทษที่ขอให้นับต่อเกี่ยวกับความผิดอะไร ศาลกำหนดโทษอย่างไรก็เป็นฟ้องที่ชอบ
จำเลยฎีกาขอให้หักวันต้องขังก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาออกให้จำเลยนั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยพ้นโทษไปก่อนแล้ว คดีก็ไม่มีประโยชน์อันควรแก่การวินิจฉัย.
จำเลยฎีกาขอให้หักวันต้องขังก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาออกให้จำเลยนั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยพ้นโทษไปก่อนแล้ว คดีก็ไม่มีประโยชน์อันควรแก่การวินิจฉัย.