คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บทบาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องฐานสมคบเล่นการพนัน: การตีความบทบาทของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลย 6 คนสมคบกันเล่นการพนันที่บ้านจำเลยที่ 1โดยจำเลยที่ 2-3 เป็นเจ้ามือ จำเลยนอกนั้นเป็นคนแทง ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์หาว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนแทงด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบชิงทรัพย์ร่วมกัน แต่มีบทบาทต่างกัน ศาลพิจารณาความผิดตามพฤติการณ์เฉพาะ
สมคบกันไปชิงทรัพย์ คนหนึ่งฆ่าเจ้าทรัพย์เพื่อจะเอาทรัพย์ แต่เอาไปไม่ได้จำเลยคนที่ฆ่าเจ้าทรัพย์มีผิดตาม ม.250(5) ส่วนจำเลยอีกคนหนึ่งมีผิดเพียง ม.300 ตอน 3 และ ม.60โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันไปชิงทรัพย์ จำเลยคนหนึ่งฆ่าเจ้าทรัพย์เพื่อที่จะเอาทรัพย์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 2 ตาม ม.250 (5) ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยอีกคนหนึ่งมีผิดเพียงฐานพยายามชิงทรัพย์ ศาลจะลงโทษฐานพยายามชิงทรัพย์ได้ หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บทบาทผู้ดูต้นทางในการพนัน: ความผิดฐานจัดการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน
เป็นผู้คอยดูต้นทางมิให้ตำรวจมาจับพรรคพวกที่เล่นการพะนัน ย่อมอยู่ในฐานะเป็นพวกผู้จัดให้มีการเล่นเป็นผิดตาม ม.12 แห่ง พ.ร.บ.การพะนัน ศาลจะยกอาญามาตรา 65 มาปรับบทลงโทษจำเลยมิได้ อุทธรณ์ฎีกา ประมวลวิธีพิจารณาอาญาม.212 ในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยต่ำกว่าอัตราในกฎหมาย จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องเมื่อศาลฎีกากลับให้ลงโทษ ก็ลงโทษได้ไม่เกินที่ศาลชั้นต้นวางไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511-513/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้เล่นการพนันและการตีความบทบาทของผู้จัดการสถานที่
เล่นไพ่นกกระจอกและไพ่ซีเซ็กพะนันเอาเงินกัน วิธีพิจารณาอาญา ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยคนใดผิดแต่โจทก์หรือจำเลยผู้นั้นไม่ได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาไม่แก้โทษให้หนักกว่าที่ศาลล่างวางไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10899-10901/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพรากผู้เยาว์ ตัวการ-ผู้สนับสนุน การพิสูจน์เจตนาและบทบาทของจำเลย
ความผิดฐานพรากผู้เยาว์สำเร็จ นับแต่จำเลยที่ 1 เริ่มพรากผู้เยาว์ขึ้นรถยนต์กระบะบริเวณหลังหอพักโดยมีเจตนาเพื่อการอนาจาร ดังนั้น ไม่ถือว่าผู้เยาว์อยู่ในความปกครองดูแลของบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 4 และที่ 5 ได้ร่วมรู้เห็นหรือคบคิดกับจำเลยที่ 1 ในการพรากผู้เยาว์ตั้งแต่ต้น จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 4 และที่ 5 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการพรากผู้เยาว์ การที่จำเลยที่ 4 และที่ 5 ขับรถและเรือพาจำเลยที่ 1 และผู้เยาว์ไปส่งที่บ้าน ช. เป็นระยะเวลาหลังมีการกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์สำเร็จแล้ว ไม่ใช่ก่อนหรือขณะกระทำความผิด จึงหาใช่เป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนตาม ป.อ. มาตรา 83 และ 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3280/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติด และบทบาทของผู้กระทำผิดแต่ละคน
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังยุติแล้วว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 นำรถยนต์ไปรับจำเลยที่ 1 ที่จังหวัดพะเยา โดยจำเลยที่ 2 เป็นคนขับ ส่วนจำเลยที่ 3 น้องชายของจำเลยที่ 1 นั่งโดยสารไปด้วย นับแต่รับจำเลยที่ 1 ที่จังหวัดพะเยาแล้วทั้งสองอยู่กับจำเลยที่ 1 ตลอดเวลาจนถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อจำเลยที่ 2 และที่ 3 รู้อยู่ว่าจำเลยที่ 1 รับจ้างลำเลียงเมทแอมเฟตามีนไปส่งลูกค้าโดยได้รับเงินค่าจ้างเป็นผลประโยชน์ตอบแทนแล้วยังร่วมมือช่วยเหลือ การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการลำเลียงเมทแอมเฟตามีนของกลางไปส่งลูกค้าให้สำเร็จ จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุน
of 3