พบผลลัพธ์ทั้งหมด 30 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ไม่เป็นที่สุด โจทก์มีสิทธิฟ้องเพิกถอน แม้ปฏิบัติตามคำสั่งแล้ว
จำเลยฎีกาว่าคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นที่สุด ทั้งโจทก์ได้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นแล้ว เป็นเหตุให้คดีระงับไปตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 126 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้เป็นฎีกาในปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ฎีกาในปัญหาข้อนี้ได้
คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. มาตรา 125 ไม่มีบทบัญญัติให้เป็นที่สุด คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด การที่โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นมีผลเพียงให้การดำเนินคดีอาญาต่อโจทก์เป็นอันระงับตามมาตรา 126 เท่านั้น หามีผลให้สิทธิของโจทก์ในอันที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นระงับไปด้วยไม่
คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. มาตรา 125 ไม่มีบทบัญญัติให้เป็นที่สุด คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด การที่โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นมีผลเพียงให้การดำเนินคดีอาญาต่อโจทก์เป็นอันระงับตามมาตรา 126 เท่านั้น หามีผลให้สิทธิของโจทก์ในอันที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นระงับไปด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่ง ก.ล.ร. ไม่เป็นที่สุด โจทก์ยังมีสิทธิฟ้องเพิกถอน แม้ปฏิบัติตามคำสั่งแล้ว
จำเลยฎีกาว่าคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นที่สุดทั้งโจทก์ได้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นแล้ว เป็นเหตุให้คดีระงับไปตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 126 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ฎีกาในปัญหาข้อนี้ได้
คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 125 ไม่มีบทบัญญัติให้เป็นที่สุด คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด การที่โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นมีผลเพียงให้การดำเนินคดีอาญาต่อโจทก์เป็นอันระงับไปตามมาตรา 126 เท่านั้นหามีผลให้สิทธิของโจทก์ในอันที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้น ระงับไปด้วยไม่
คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 125 ไม่มีบทบัญญัติให้เป็นที่สุด คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด การที่โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นมีผลเพียงให้การดำเนินคดีอาญาต่อโจทก์เป็นอันระงับไปตามมาตรา 126 เท่านั้นหามีผลให้สิทธิของโจทก์ในอันที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้น ระงับไปด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องฟุ่มเฟือยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ศาลไม่รับฟ้องได้
โจทก์ยื่นฟ้องที่มีคำบรรยายที่เขียนฟุ่มเฟือย ศาลสั่งให้ไปทำมาใหม่ใน 7 วัน โจทก์ไม่ปฏิบัติตาม ศาลย่อมสั่งไม่รับคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลเหนือค่าธรรมเนียมบังคับคดี: เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ค่าธรรมเนียมในการยึดทรัพย์ แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเป็นผู้กำหนดและเรียกเก็บตามกฎหมายก็ตาม ถ้าไม่ตกลงกันคู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีก็มีสิทธิเสนอเรื่องต่อศาล ซึ่งจะสั่งอนุญาตหรือให้ยกคำขอเสียก็ได้
อำนาจอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีเป็นอำนาจของศาลเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลเท่านั้น ย่อมไม่มีอำนาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ ฉะนั้น เมื่อศาลสั่งไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยึดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น จะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
อำนาจอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีเป็นอำนาจของศาลเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลเท่านั้น ย่อมไม่มีอำนาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ ฉะนั้น เมื่อศาลสั่งไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยึดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น จะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1718/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามหมายบังคับคดี: ผู้เช่าไม่อาจขอครอบครองที่ดินหลังศาลมีคำสั่งขับไล่
ศาลพิพากษาให้ขับไล่ผู้เช่านาออกจากนาของผู้ให้เช่า และออกคำบังคับแล้วผู้เช่าจะร้องขอครอบครองนานั้นต่อไปจนกว่าจะเสร็จการเก็บเกี่ยว ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 571 ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องปฏิบัติตามคำบังคับและหมายบังคับของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786-788/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต และความรับผิดของพนักงานที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
จำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 12 พฤษภาคม 2491 โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2491 จึงยังอยู่ในกำหนดที่โจทก์จะยื่นฎีกาได้
การฆ่าสุกรก่อน วันที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์ 2488 มาตรา 12. ไม่ใช่มาตรา 11
ว.จำเลยเป็นพนักงานเทศบาลประจำโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาล ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับออกใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ว.จำเลยได้แก้วันที่ในใบอนุญาต โดย จ.จำเลยเทศมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งให้แก้ ดังนี้ ถือได้ว่า ว.จำเลยได้ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งตนอยู่ในบังคับบัญชา โดยเชื่อว่าเป็นการชอบและมีเหตุผลอันสมควร ไม่ควรรับอาญา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 52 (2).
การฆ่าสุกรก่อน วันที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์ 2488 มาตรา 12. ไม่ใช่มาตรา 11
ว.จำเลยเป็นพนักงานเทศบาลประจำโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาล ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับออกใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ว.จำเลยได้แก้วันที่ในใบอนุญาต โดย จ.จำเลยเทศมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งให้แก้ ดังนี้ ถือได้ว่า ว.จำเลยได้ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งตนอยู่ในบังคับบัญชา โดยเชื่อว่าเป็นการชอบและมีเหตุผลอันสมควร ไม่ควรรับอาญา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 52 (2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786-788/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดพ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์และการยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 52(2) กรณีปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
จำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 12 พฤษภาคม 2491 โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2491 จึงยังอยู่ในกำหนดที่โจทก์จะยื่นฎีกาได้
การฆ่าสุกรก่อน วันที่ระบุไว้ในใบอนุญาตต้องมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ 2488 มาตรา 12 ไม่ใช่มาตรา11
ว. จำเลยเป็นพนักงานเทศบาลประจำโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับออกใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ว. จำเลยได้แก้วันที่ในใบอนุญาต โดย จ.จำเลยเทศมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งให้แก้ดังนี้ ถือได้ว่า ว. จำเลยได้ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งตนอยู่ในบังคับบัญชาโดยเชื่อว่าเป็นการชอบและมีเหตุผลอันสมควรไม่ควรรับอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 52(2)
การฆ่าสุกรก่อน วันที่ระบุไว้ในใบอนุญาตต้องมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ 2488 มาตรา 12 ไม่ใช่มาตรา11
ว. จำเลยเป็นพนักงานเทศบาลประจำโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับออกใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ว. จำเลยได้แก้วันที่ในใบอนุญาต โดย จ.จำเลยเทศมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งให้แก้ดังนี้ ถือได้ว่า ว. จำเลยได้ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งตนอยู่ในบังคับบัญชาโดยเชื่อว่าเป็นการชอบและมีเหตุผลอันสมควรไม่ควรรับอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 52(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6947/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายงานข้ามประเภทหน้าที่ ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง และการปฏิบัติตามคำสั่งนายจ้าง
ผู้ร้องประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าที่เป็นวัตถุอันตรายและสินค้าทั่วไป แม้ผู้คัดค้านทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถบรรทุกน้ำมันเคมีซึ่งเป็นวัตถุอันตราย แต่ก็ไม่มีข้อตกลงว่าผู้ร้องจะมอบหมายงานให้ผู้คัดค้านขับรถบรรทุกสินค้าทั่วไปไม่ได้ ทั้งผู้คัดค้านมีใบอนุญาตขับรถที่สามารถขับรถบรรทุกได้ทุกประเภท เมื่องานด้านบรรทุกสารเคมีลดลง การที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ผู้คัดค้านขับรถบรรทุกหัวลากนำสินค้าจากบริษัทไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง จากนั้นให้ไปรับสารเคมีที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเพื่อเตรียมนำส่งให้แก่ลูกค้า จึงไม่ใช่การเพิ่มหน้าที่และเพิ่มงาน แต่เป็นการใช้อำนาจบริหารงานภายในบริษัทให้เหมาะสมเท่านั้น มิใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ทั้งมิใช่เป็นการกลั่นแกล้งผู้คัดค้านเนื่องจากผู้คัดค้านไม่ได้รับมอบหมายจากสหภาพแรงงานให้เข้าร่วมฟังผลการสอบสวนพนักงานที่เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน และไม่ปรากฏว่ามีความจำเป็นอย่างไรที่ผู้คัดค้านจะต้องอยู่รอฟังผลการสอบสวน ผู้คัดค้านจึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาดังกล่าว การที่ผู้คัดค้านไม่ปฏิบัติตามจึงเป็นการฝ่าฝืนวินัย ต้องถูกพิจารณาโทษตามลักษณะแห่งความผิดตามข้อบังคับการทำงานของผู้ร้อง ที่ศาลแรงงานภาค ๒ อนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านโดยตักเตือนเป็นหนังสือจึงเหมาะสมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3042/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ค้ำประกัน – การปฏิบัติตามคำสั่งอายัดและผลของการหักกลบลบหนี้
เงินค่าหุ้นของผู้คัดค้านที่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้ร้องที่ 2 ที่ได้ชำระแก่ผู้ร้องที่ 2 ไปแล้ว แม้จะเป็นเงินทุนของผู้ร้องที่ 2 แต่ผู้คัดค้านก็ยังมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ อีกทั้งมิใช่ทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 285, 286 เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องที่ 2 จัดส่งเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือถึงผู้ร้องที่ 2 ขออายัดเงินค่าหุ้นของผู้คัดค้านในสหกรณ์ผู้ร้องที่ 2 โดยให้จัดส่งเงินตามที่อายัดภายใน 10 วัน นับแต่วันถึงกำหนดจ่าย คำสั่งอายัดดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 (3) ผู้ร้องที่ 2 มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม หลังจากผู้ร้องที่ 2 ได้รับหนังสือแจ้งอายัดแล้ว ผู้ร้องที่ 2 กับเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือโต้ตอบกันเกี่ยวกับเงินที่มีคำสั่งอายัดหลายฉบับ แต่ช่วงเวลาดังกล่าวผู้คัดค้านยังมิได้ขาดจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องที่ 2 ผู้ร้องที่ 2 จึงยังไม่มีหน้าที่ต้องส่งเงินค่าหุ้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดี แต่เมื่อผู้คัดค้านขาดจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องที่ 2 ผู้คัดค้านย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินค่าหุ้นนั้น เป็นผลให้เงินค่าหุ้นถึงกำหนดจ่าย ผู้ร้องที่ 2 จึงมีหน้าที่ต้องส่งเงินค่าหุ้นตามคำสั่งอายัด จะอ้างว่าเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอายัดอีกหลายฉบับต่อจากคำสั่งอายัดเดิมถือว่าคำสั่งอายัดเดิมเป็นอันสิ้นผล และผู้ร้องที่ 2 ได้รับคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้นครั้งสุดท้ายหลังจากที่ผู้ร้องที่ 2 ได้นำเงินค่าหุ้นของผู้คัดค้านไปหักกลบลบหนี้กับเงินกู้ของผู้คัดค้านแล้วหาได้ไม่
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือถึงผู้ร้องที่ 2 ขออายัดเงินค่าหุ้นของผู้คัดค้านในสหกรณ์ผู้ร้องที่ 2 โดยให้จัดส่งเงินตามที่อายัดภายใน 10 วัน นับแต่วันถึงกำหนดจ่าย คำสั่งอายัดดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 (3) ผู้ร้องที่ 2 มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม หลังจากผู้ร้องที่ 2 ได้รับหนังสือแจ้งอายัดแล้ว ผู้ร้องที่ 2 กับเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือโต้ตอบกันเกี่ยวกับเงินที่มีคำสั่งอายัดหลายฉบับ แต่ช่วงเวลาดังกล่าวผู้คัดค้านยังมิได้ขาดจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องที่ 2 ผู้ร้องที่ 2 จึงยังไม่มีหน้าที่ต้องส่งเงินค่าหุ้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดี แต่เมื่อผู้คัดค้านขาดจากการเป็นสมาชิกของผู้ร้องที่ 2 ผู้คัดค้านย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินค่าหุ้นนั้น เป็นผลให้เงินค่าหุ้นถึงกำหนดจ่าย ผู้ร้องที่ 2 จึงมีหน้าที่ต้องส่งเงินค่าหุ้นตามคำสั่งอายัด จะอ้างว่าเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอายัดอีกหลายฉบับต่อจากคำสั่งอายัดเดิมถือว่าคำสั่งอายัดเดิมเป็นอันสิ้นผล และผู้ร้องที่ 2 ได้รับคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้นครั้งสุดท้ายหลังจากที่ผู้ร้องที่ 2 ได้นำเงินค่าหุ้นของผู้คัดค้านไปหักกลบลบหนี้กับเงินกู้ของผู้คัดค้านแล้วหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการวางเงินชำระค่าเสียหาย ทำให้คดีถึงที่สุด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้าน และให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยฎีกา แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาเพราะต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา เนื่องจากศาลฎีกามีคำสั่งให้จำเลยนำเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 ประกอบมาตรา 247 เมื่อจำเลยไม่ดำเนินการดังกล่าวจนพ้นกำหนดระยะเวลา คดีย่อมถึงที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 147 วรรคสอง จำเลยจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอให้คำพิพากษาเป็นโมฆะได้