คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกวดราคา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกวดราคา การเปลี่ยนแปลงราคาหลังยื่นซอง และสิทธิในการริบเงินมัดจำ
แจ้งความประกาศให้ผู้ประสงค์รับเหมาก่อสร้างงานยื่นซองประกวดราคาเป็นคำเชื้อเชิญ และข้อความซึ่งระบุไว้ในแจ้งความว่า ราคาที่ผู้รับเหมายื่นซองประกวดราคาจะไม่เปลี่ยนแปลงภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันยื่นซองประกวดราคา ก็เป็นเงื่อนไขที่บังคับไม่ให้โจทก์ผู้ยื่นซองประกวดราคาเปลี่ยนแปลงราคาค่ารับเหมาก่อสร้างภายในกำหนดเวลาดังกล่าว โจทก์ทราบเงื่อนไขจึงยื่นซองประกวดราคารับเหมาก่อสร้างงานรายนี้ซึ่งเป็นคำเสนอ และตกลงจะไม่เปลี่ยนแปลงราคารับเหมาก่อสร้างภายใน 60 วัน นับแต่วันยื่นซองประกวดราคา ก็ไม่ทำให้คำเสนอของโจทก์เป็นคำเสนอที่มีข้อจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 359 วรรคสอง
เมื่อข้อความในประกาศแจ้งความของจำเลยระบุให้ผู้ประกวดราคาได้ต้องเข้าทำสัญญาภายในเวลาที่กำหนด เห็นได้ว่าสัญญาอันจะมุ่งทำนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 วรรคท้าย เมื่อโจทก์ผู้ประกวดราคาได้ไม่ไปลงนามในสัญญาตามกำหนด จึงเป็นเงื่อนไขที่ทำให้จำเลยมีสิทธิริบเงินประจำซองได้ตามที่ระบุไว้ในประกาศแจ้งความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกวดราคา: เงื่อนไขการยืนราคาและการริบเงินมัดจำเมื่อไม่ทำสัญญา
แจ้งความประกาศให้ผู้ประสงค์รับเหมาก่อสร้างงานยื่นซองประกวดราคาเป็นคำเชื้อเชิญ และข้อความซึ่งระบุไว้ในแจ้งความว่า ราคาที่ผู้รับเหมายื่นซองประกวดราคาจะไม่เปลี่ยนแปลงภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันยื่นซองประกวดราคาก็เป็นเงื่อนไขที่บังคับไม่ให้โจทก์ ผู้ยื่นซองประกวดราคาเปลี่ยนแปลงราคาค่ารับเหมาก่อสร้างภายในกำหนดเวลาดังกล่าว โจทก์ทราบเงื่อนไขจึงยื่นซองประกวดราคารับเหมาก่อสร้างงานรายนี้ซึ่งเป็นคำเสนอ และตกลงจะไม่เปลี่ยนแปลงราคารับเหมาก่อสร้างภายใน 60 วันนับแต่วันยื่นซองประกวดราคา ก็ไม่ทำให้คำเสนอของโจทก์เป็นคำเสนอที่มีข้อจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 359 วรรคสอง
เมื่อข้อความในประกาศแจ้งความของจำเลยระบุให้ผู้ประกวดราคาได้ต้องเข้าทำสัญญาภายในเวลาที่กำหนด เห็นได้ว่าสัญญาอันจะมุ่งทำนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 วรรคท้ายเมื่อโจทก์ผู้ประกวดราคาได้ไม่ไปลงนามในสัญญาตามกำหนด จึงเป็นเงื่อนไขที่ทำให้จำเลยมีสิทธิริบเงินประจำซองได้ตามที่ระบุไว้ในประกาศแจ้งความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงในใบประกวดราคา: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อผู้ประกวดราคาไม่ทำสัญญา
โจทก์เรียกประกวดราคาซื้อตะปูสปริง จำเลยประกวดราคาได้ แต่จำเลยไม่มาทำสัญญาซื้อขาย ปรากฏข้อความตามใบประกวดราคาข้อ 9 ว่า ผู้ประกวดราคาได้จะต้องทำสัญญาภายใน 3 วัน มิฉะนั้น เงินมัดจำของจะต้องถูกริบ และถ้าโจทก์ต้องซื้อของตามที่ประกวดราคาแพงไปจากที่ผู้ประกวดราคาได้เสนอไว้เท่าใด ผู้ประกวดราคาจะต้องชดใช้ราคาที่แพงขึ้นนั้นให้โจทก์ทั้งสิ้นอีกโสดหนึ่งด้วย ดังนี้ เป็นการที่คู่กรณีได้ตกลงทำสัญญาให้มีผลบังคับกันอีกต่างหากว่า ถ้าจำเลยไม่ทำสัญญาขายตะปูสปริงให้แก่โจทก์ตามที่ประกวดราคานั้น จำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่โจทก์ ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ทำสัญญากับโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามข้อตกลงนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงในใบประกวดราคา: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อผู้ชนะไม่ทำสัญญา
โจทก์เรียกประกวดราคาซื้อตะปูสปริงจำเลยประกวดราคาได้แต่จำเลยไม่มาทำสัญญาซื้อขายปรากฏข้อความตามใบประกวดราคาข้อ 9 ว่า ผู้ประกวดราคาได้จะต้องทำสัญญาภายใน 3 วันมิฉะนั้นเงินมัดจำซองจำต้องถูกริบและถ้าโจทก์ต้องซื้อของตามที่ประกวดราคาแพงไปจากที่ผู้ประกวดราคาได้เสนอไว้เท่าใดผู้ประกวดราคาจะต้องชดใช้ราคาที่แพงขึ้นนั้นให้โจทก์ทั้งสิ้นอีกโสดหนึ่งด้วยดังนี้ เป็นการที่คู่กรณีได้ตกลงทำสัญญาให้มีผลบังคับกันอีกต่างหากว่าถ้าจำเลยไม่ทำสัญญาขายตะปูสปริงให้แก่โจทก์ตามใบประกวดราคานั้นจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่โจทก์ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่ทำสัญญากับโจทก์โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามข้อตกลงนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายเกิดขึ้นเมื่อทำสัญญาเป็นหนังสือ แม้ตกลงรับราคาแล้วแต่ยังไม่ผูกพัน หากไม่ทำสัญญา ริบเงินมัดจำได้ แต่ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
โจทก์ประกาศประกวดราคาจัดซื้อของ เป็นคำเชิญชวนให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้าประกวดราคายื่นซองเสนอหนังสือเสนอราคาที่จำเลยยื่นเป็นคำเสนอ โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทราบว่าตกลงรับราคาที่จำเลยเสนอและให้ไปทำสัญญาเป็นคำสนอง แต่สัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้นเมื่อคำบอกกล่าวสนองไปถึงผู้เสนอ สัญญาจะเกิดขึ้นต่อเมื่อโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญากันเป็นหนังสือตามข้อผูกพันที่ระบุไว้ในประกาศประกวดราคา จำเลยไม่ไปทำสัญญากับโจทก์ตามกำหนดเวลา โจทก์ย่อมมีสิทธิริบเงินมัดจำซองประกวดราคาได้ตามข้อตกลงในประกาศประกวดราคา แต่เมื่อยังไม่มีสัญญาซื้อขายต่อกันจำเลยยังไม่มีความผูกพันตามสัญญาซื้อขายที่จะต้องมอบของให้โจทก์ ค่าเสียหายที่โจทก์ต้องซื้อของจากผู้อื่นแพงกว่าราคาที่จำเลยเสนอเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาซื้อขาย ไม่ใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากข้อตกลงในการประกวดราคา โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกวดราคาที่ไม่ผูกพันสัญญา หากตกลงรายละเอียดไม่ได้ ผู้เสนอราคาต่ำสุดไม่จำเป็นต้องได้สัญญา
จำเลยประกาศแจ้งการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างอาคารของจำเลยโจทก์ยื่นซองประกวดราคาโดยเสนอราคาต่ำกว่ารายอื่น เมื่อปรากฏตามประกาศแจ้งการประกวดราคาของจำเลยดังกล่าวว่าจำเลยทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเลือกจ้างผู้ประกวดราคารายใดก็ได้ หาจำต้องว่าจ้างผู้เสนอราคาต่ำสุดเสมอไปไม่ประกอบกับการที่ต่อมาโจทก์กับจำเลยได้เจรจา แต่ตกลงกันไม่ได้ในรายละเอียดการก่อสร้างและกำหนดการจ่ายค่าจ้าง จึงยังมิได้ทำสัญญากัน ดังนี้ จึงหามีผลผูกพันให้จำเลยต้องยอมให้โจทก์เข้าทำการก่อสร้างอาคารโดยไม่ต้องทำสัญญากันไม่และจะถือว่า จำเลยทำผิดสัญญาหาได้ไม่
โจทก์ยื่นซองประกวดราคาโดยเสนอราคา 9,250,000 บาทต่ำกว่ารายอื่น แม้จำเลยจะมีเงินทุนที่จดทะเบียนไว้เพียง 1 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าจำเลยจะได้เงินค่าก่อสร้างล่วงหน้าจากผู้มาสั่งจองซื้ออาคารถึง 80 คูหา ๆ ละประมาณสองแสนบาท และจำเลยสามารถเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารได้ในวงเงิน 5 ล้านบาท แสดงว่าจำเลยมีเงินพอชำระค่าก่อสร้างให้โจทก์ และมีเจตนาที่จะทำการก่อสร้างจริงๆ ไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาไม่สุจริตโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายเหตุที่ไม่มีการทำสัญญากันเพราะตกลงกันไม่ได้ในรายละเอียดจำเลยจึงหาได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีซื้อขายตามสัญญาซื้อขายตามเงื่อนไขประกวดราคา ไม่ใช่การขายตามคำพรรณา
โจทก์ทำสัญญาซื้อเครื่องรับส่งวิทยุ วีเอชเอฟ/เอฟเอ็มแบบกระเป๋าหิ้วยี่ห้อเทเลคอมแบบพี 161 จำนวน 21 ชุด จากบริษัทจำเลยมีรายละเอียดดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 ตามสัญญาซื้อขายข้อ 2 มีความว่า "สิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้ผู้ขายจะยอมขายให้ตามราคาดังกล่าวในข้อ 1 และรับรองว่าจะส่งสิ่งของให้เหมือนตามแคตตาลอคและรายละเอียดท้ายสัญญาทุกประการ ฯลฯ" และข้อ 3 มีว่า "ลักษณะของสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้นอกจากให้เหมือนตามรายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกดังกล่าวในข้อ 2 ผู้ขายยอมรับรองอีกว่าเมื่อตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ประการหนึ่งประการใดต้องให้เหมือนตามรายการละเอียดทุกประการ" และก่อนทำสัญญาซื้อขายฝ่ายโจทก์จัดให้มีการประกวดราคาระบุแต่ชนิดเครื่องรับส่งวิทยุ วีเอชเอฟ/เอฟเอ็ม แบบกระเป๋าหิ้วจำนวน 21 ชุด ต่อเมื่อบริษัทจำเลยประมูลได้แล้วจึงได้ทำสัญญาซื้อขายหมาย จ.1 ขึ้น และได้กำหนดรายการสิ่งของที่ตกลงจะซื้อขายและแค๊ตตาล๊อกแนบไว้ท้ายสัญญา การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้เป็นการซื้อขายตามเงื่อนไขเรียกประกวดราคาของโจทก์ ไม่ใช่บริษัทจำเลยพรรณนาถึงเครื่องรับส่งวิทยุที่เสนอขายให้โจทก์แล้วโจทก์ยอมรับซื้อ นอกจากนี้การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้บริษัทจำเลยยังกำหนดให้โจทก์ตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ให้เหมือนตามรายการละเอียดและชนิดของๆ ที่จะซื้อนั้นก่อนโดยบริษัทจำเลยให้โอกาสโจทก์ตรวจสอบทดลองคุณสมบัติของเครื่องรับส่งวิทยุตามประกาศประกวดราคาของโจทก์ก่อนการส่งมอบว่าตรงตามรายละเอียดและชนิดของเครื่องรับส่งวิทยุที่โจทก์ซื้อหรือไม่ รายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกที่แนบไว้ในสัญญาจึงเป็นรายละเอียดประกอบสัญญาซื้อขายเท่านั้น การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุดังกล่าวจึงเป็นการซื้อขายธรรมดาหาใช่เป็นการขายตามคำพรรณาไม่ ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำเครื่องรับส่งวิทยุมาส่งมอบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2512 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 23 กันยายน 2517 ยังไม่เกินสิบปีนับแต่วันส่งมอบ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2521)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายตามรายละเอียดการประกวดราคา: ผู้ซื้อกำหนดรายละเอียด, ผู้ขายผิดสัญญา, อายุความค่าเสียหาย 10 ปี
ผู้ซื้อกำหนดรายละเอียดของของในการประกวดราคาขายไม่ใช่ผู้ขายกำหนดจึงไม่ใช่ขายตามคำพรรณนาผู้ขายส่งของไม่ตรงรายการ ผู้ซื้อเรียกค่าเสียหายมีอายุความ 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งซองประกวดราคาถือเป็นการละเมิด
โจทก์มอบหมายให้ บ. นำซองประกวดราคาในการก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารโรงเรียนไปยื่นต่อคณะกรรมการรับซองประกวดราคาเมื่อ บ. ยื่นซองประกวดราคาแล้ว จำเลยที่ 1 ได้แย่งเอาซองและเอกสารที่ บ. ยื่นไว้ไป การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นซองประกวดราคาถือเป็นการยอมรับเงื่อนไข การถอนซองหลังยื่นถือเป็นการผิดสัญญา
การยื่นซองประกวดราคาการก่อสร้างมีเงื่อนไขหลายประการที่โจทก์ (องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย) วางไว้ เมื่อโจทก์ได้ออกประกาศแจ้งความเรียกประกวดราคา ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 เข้ายื่นของประกวดราคาต่อโจทก์จึงเท่ากับว่าจำเลยได้ยอมรับที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของโจทก์ทุกประการ ต่อมาจำเลยยื่นหนังสือต่อโจทก์มีข้อความว่า "เนื่องจากความผิดพลาดในการคิดคำนวณราคาคลาดเคลื่อนและตกหล่นไปบ้างบางรายการ ซึ่งหากไม่เช่นนั้นแล้วข้าพเจ้า (จำเลย) ก็จะต้องเสนอราคาสูงกว่านี้อีกมาก ฯลฯ โดยข้าพเจ้าไม่มีเจตนาแต่อย่างใดเลยและก็เกินแก่การแก้ไขได้ ดังนั้น...ฯลฯ... ขอท่านได้โปรดพิจารณากรุณาผ่อนผันให้ข้าพเจ้าได้สละสิทธิการเสนอราคางานรายนี้ โดยยกเว้นไม่ต้องพิจารณาราคาที่ข้าพเจ้าเสนอในครั้งนี้ เสมือนหนึ่งว่าข้าพเจ้ามิได้ยื่นประกวดราคาครั้งนี้ด้วยแต่อย่างใด...ฯลฯ... "หนังสือของจำเลยดังกล่าวจึงเห็นได้ชัดว่าเป็นหนังสือสละสิทธิการเสนอราคา และขณะเดียวกันก็เป็นหนังสือที่แสดงการขอถอนของประกวดราคาต่อโจทก์ด้วย เพราะมีถ้อยคำว่า "เสมือนหนึ่งว่าข้าพเจ้ามิได้ยื่นประกวดราคาครั้งนี้ด้วยแต่อย่างใด" เงื่อนไขในการยื่นซองประกวดราคาต่อโจทก์ซึ่งกำหนดไว้ว่า ซองของผู้เสนอราคาทุกรายที่ได้ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การโทรศัพท์ฯ แล้ว ย่อมถือว่าเป็นสิทธิขององค์การโทรศัพท์ฯ จะถอนคืนไปมิได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น และถ้าผู้ใดสละสิทธิการเสนอราคาหรือขอถอนซองประกวดราคาภายหลังยื่นซองประกวดราคาแล้ว ถือว่าผู้นั้นผิดเงื่อนไขการประกวดราคา ซึ่งองค์การโทรศัพท์ฯ จะริบเงินมัดจำตามรายการนี้ได้ทันที
คำฟ้องของโจทก์แม้จะกล่าวว่าฟ้องธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาวัดตึกก็ต้องถือว่าโจทก์ฟ้องธนาคารไทยพัฒนา จำกัด นั่นเอง เพราะบริษัทจำกัด นอกจากสำนักงานแห่งใหญ่แล้ว จะมีสำนักงานสาขาที่ใดอีกก็ได้ และสาขาของบริษัทใดก็คือส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นนั่นเอง จึงไม่ต้องมีการจดทะเบียนให้สาขาเป็นบริษัทขึ้นอีก
of 4