คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกอบธุรกิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3024/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธุรกิจเงินทุนและการประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ. ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
โจทก์ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งตามพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 หมายความว่าเป็นการให้กู้ยืมเงินใน ระยะสั้นเป็นทางค้าปกติคือให้กู้ยืมเงินมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้ไม่เกินหนึ่ง ปีนับแต่วันให้กู้ยืม จะมีหลักทรัพย์เป็นประกันโดยการจำนอง จำนำ หรือค้ำประกันด้วยบุคคลหรือไม่มีหลักประกันดังกล่าวเลยก็ได้ ส่วนกิจการเครดิตฟองซิเอร์นั้นหมายความว่า กิจการให้กู้ยืมเงินโดยวิธีรับจำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าปกติ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นการให้กู้ยืมเงินระยะสั้นแต่จำกัดว่าต้องมีหลักทรัพย์เป็นอสังหาริมทรัพย์มาจำนองเป็นประกันเงินกู้เท่านั้น จะเอาอสังหาริมทรัพย์มาจำนำหรือเอาบุคคลเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้นั้นไม่ได้ การที่โจทก์ให้จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันและยอมรับผิดในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมและจำเลยที่ 1 ยังนำที่ดินมาจำนองเป็นประกันเงินกู้อีกด้วยจึง เป็นการประกอบธุรกิจเงินทุนที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังดังกล่าวแล้ว ไม่ตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับจำนำโดยมิได้รับอนุญาต: ข้อเท็จจริงต้องชัดเจนว่าเป็นการประกอบธุรกิจรับจำนำเป็นปกติ
ได้ความจากพยานโจทก์ 4 คนว่า จำเลยให้พยานโจทก์ทั้งสี่ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย และมิได้เรียกเอาสิ่งของเป็นประกันเงินยืม หากแต่ผู้ยืมเกรงใจ จึงให้จำเลยเอาสิ่งของไว้เป็นประกัน ส่วนทรัพย์รายการอื่นโจทก์มิได้นำผู้เป็นเจ้าของสิ่งของนั้นมาสืบ แม้จำเลยจะนำสืบรับเข้ามาว่าได้รับจำนำนาฬิกาของ ท. ไว้อีก 1 เรือน แต่จำเลยก็นำเจ้าของสิ่งของอื่นมาสืบว่ามิได้นำสิ่งของเหล่านั้นมาจำนำไว้กับจำเลย ข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ยังไม่พอถือว่า จำเลยรับจำนำสิ่งของไว้เป็นประกันหนี้เงินกู้เป็นปกติธุระ ตามมาตรา 4 แห่ง พระราชบัญญัติโรงรับจำนำจำเลยไม่มีความผิดฐานตั้งโรงรับจำนำโดยมิได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1589/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักค่าใช้จ่ายทางภาษีสำหรับเงินที่ถูกหักเป็นค่าธรรมเนียมในการประกอบธุรกิจ
โจทก์มีสิทธิรับเงินจากพีเอ็กส์ของทหารอเมริกันตามจำนวนเสื้อผ้าที่ตัดเย็บถือได้ว่าเงินที่โจทก์มีสิทธิรับนี้เป็นเงินได้ของโจทก์ แม้โจทก์จะต้องถูกหักเงินค่าธรรมเนียมไป 14 เปอร์เซ็นต์ เงินที่ถูกหักไปนี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจอย่างหนึ่งซึ่งโจทก์อาจนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่เมื่อโจทก์ไม่นำหลักฐานมาแสดงว่าได้ใช้จ่ายไปตามความจริงและสมควรเท่าใด กรมสรรพากรจำเลยจึงได้คิดหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาจ่ายให้ 75 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2502 มาตรา 8 ซึ่งค่าใช้จ่ายที่หักเป็นการเหมานี้รวมถึงจำนวนเงิน 14 เปอร์เซ็นต์ที่โจทก์อ้างว่าได้จ่ายให้องค์การทหารอเมริกันด้วยแล้ว ดังนี้ โจทก์จะให้คิดหักจำนวนเงิน 14 เปอร์เซ็นต์นี้ออกจากเงินได้ของโจทก์เสียก่อนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1589/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักค่าใช้จ่ายจากการประกอบธุรกิจ และการประเมินภาษีเงินได้ที่ถูกต้อง
โจทก์มีสิทธิรับเงินจากพีเอ็กส์ของทหารอเมริกันตามจำนวนเสื้อผ้าที่ตัดเย็บถือได้ว่าเงินที่โจทก์มีสิทธิรับนี้เป็นเงินได้ของโจทก์ แม้โจทก์จะต้องถูกหักเงินค่าธรรมเนียมไป 14 เปอร์เซ็นต์ เงินที่ถูกหักไปนี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจอย่างหนึ่งซึ่งโจทก์อาจนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่เมื่อโจทก์ไม่นำหลักฐานมาแสดงว่าได้ใช้จ่ายไปตามความจริงและสมควรเท่าใด กรมสรรพากรจำเลยจึงได้คิดหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาจ่ายให้ 75 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2502 มาตรา 8 ซึ่งค่าใช้จ่ายที่หักเป็นการเหมานี้รวมถึงจำนวนเงิน 14เปอร์เซ็นต์ที่โจทก์อ้างว่าได้จ่ายให้องค์การทหารอเมริกันด้วยแล้ว ดังนี้ โจทก์จะให้คิดหักจำนวนเงิน 14 เปอร์เซ็นต์นี้ออกจากเงินได้ของโจทก์เสียก่อนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2357/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริษัทต่างประเทศประกอบธุรกิจในไทย: การจดทะเบียนพาณิชย์
บริษัทจำกัดจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายในต่างประเทศไม่ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย ประกอบกิจการพาณิชย์ได้ภายในขอบข่ายที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ต่อสำนักงานกลางทะเบียนพาณิชย์เช่นเดียวกับนิติบุคคลตามกฎหมายไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนสามัญร่วมรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการประกอบธุรกิจร่วมกัน แม้ใช้ชื่อห้างเดิม
ห้าง ม. เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ดำเนินกิจการแทน ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เข้าหุ้นกันตั้งห้าง ส. เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เพื่อขยายกิจการค้าของห้าง ม. และจำเลยที่ 1 ได้ทำการค้าของห้าง ส. ต่อมาในนามของห้าง ม. โดยความยินยอมของจำเลยที่ 2 และที่ 3 การที่จำเลยทั้งสามประกอบการค้าร่วมกันดังกล่าว จึงเป็นการเข้าหุ้นส่วนกัน เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาทรัสต์รีซีทและเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์ เป็นการทำแทนห้าง ส. แต่ใช้ชื่อห้าง ม. จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจึงต้องร่วมรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาคมจัดเก็บค่าธรรมเนียมลักษณะประกันชีวิต เข้าข่ายประกอบธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมาย
วิธีดำเนินการของสมาคมซึ่งถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจประกันชีวิตแล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช่าที่ดินเพื่อสร้างห้องแถวให้เช่า ไม่ได้รับความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้จะอยู่อาศัยเองบ้าง
การเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างห้องแถวให้คนอื่นเช่านั้น แสดงว่ามีเจตนาเช่าที่ดินเพื่อหาประโยชน์เป็นการประกอบธุรกิจการค้า ฉะนั้น แม้ผู้เช่าที่ดินจะได้ใช้ห้องแถวนั้นอยู่อาศัยด้วยก็ตาม ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183-185/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าพื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจการค้า ไม่ถือเป็นเคหะตามพรบ.ควบคุมค่าเช่า การแจ้งบอกกล่าวโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนมีผลสมบูรณ์
การรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าหรือรับจ้างตัดผม นั้นได้ชื่อว่าเป็นการประกอบธุระกิจการค้าชนิดหนึ่งเมื่อเช่าห้องเขาประกอบธุระกิจการค้าแล้วแม้จะมีการอยู่อาศัยด้วย ก็ไม่ถือว่าเป็นเคหะตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์อ้างพยานเอกสารจากจำเลย จำเลยรับหมายแล้วไม่ส่งและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ดังนี้ ศาลต้องฟังว่า จำเลยยอมรับตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 123,124 แล้ว
การบอกกล่าวเลิกการเช่า ที่ส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับผู้ส่ง หมายเหตุว่าส่งแล้ว ผู้รับไม่ยอมรับ คืนดังนี้ ต้องถือว่าผู้เช่าได้ทราบค่าบอกกล่าวนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เคหะกับการประกอบธุรกิจ: การเช่าตึกแถวเพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพทางการแพทย์ยังคงอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าสิ่งปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัย แม้จะมีการประกอบธุรกิจหรือการค้าบ้างก็ต้องนับว่าเป็นเคหะ แต่ถ้าใช้ประกอบธุรกิจหรือการค้าแม้จะมีการอยู่อาศัยด้วย ก็ยังไม่ถือว่าเป็นเคหะตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
เช่าตึกแถวถนนสำราญชัยอำเภอสัมพันธวงศ์ จังหวัดพระนครมา18-19 ปีแล้ว โดยใช้ตึกแถวนี้เป็นที่อยู่อาศัยและทำการเป็นแพทย์ผดุงครรภ์มีป้ายติดหน้าบ้านเมื่อมีคนไข้ก็ไปทำการคลอดนอกสถานที่ ชั้นบนใช้เป็นที่หลับนอนชั้นล่างใช้รับแขกและนั่งเล่น มีตู้บรรจุขวดยาที่เปิดใช้แล้ว ดังนี้ ถือว่าไม่ถึงขนาดที่จะเรียกว่า เช่าเพื่อใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจหรือการค้า การเช่าจึงยังตกอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
of 5