พบผลลัพธ์ทั้งหมด 138 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7304/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนการบังคับคดีเมื่อลูกหนี้หาประกันมาให้พอใจศาล แม้เป็นการวางตามคำสั่งศาลอุทธรณ์
โจทก์ชนะคดีในศาลชั้นต้นและโจทก์ได้ขอหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2)แต่โจทก์ก็ต้องงดการบังคับคดีไว้เพราะจำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ตามมาตรา 231 วรรคสี่ โดยจำเลยได้ทำสัญญาประกันวางหลักประกันเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้ว การวางหลักประกันของจำเลยดังกล่าว แม้จะเป็นการวางตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็ตามก็ถือได้ว่า จำเลยได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวนเงินพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดีตามมาตรา 295(1) แล้ว จึงมีเหตุให้ถอนการบังคับคดีโดยถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7304/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนการบังคับคดีเมื่อลูกหนี้หาประกันมาให้พอชำระหนี้ได้ แม้เป็นตามคำสั่งศาลทุเลาการบังคับ
โจทก์ชนะคดีและได้ขอหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา260((2)แต่ก็ต้องงดการบังคับคดีไว้เพราะจำเลยอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา231วรรคสี่และจำเลยได้วางหลักประกันเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้วการวางหลักประกันของจำเลยแม้จะเป็นการวางตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในการทุเลาการบังคับก็ถือได้ว่าจำเลยได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวนเงินพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดีตามมาตรา295(1)แล้วกรณีมีเหตุให้ถอนการบังคับคดีตามมาตรา295(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3357/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาพยาบาลจากละเมิด แม้มีประกัน/เบิกได้ ก็ยังเรียกร้องจากผู้ทำละเมิดได้ และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางจิตใจ
ค่ารักษาพยาบาลโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ที่ได้รับอันตรายแก่กายฐานละเมิดแม้บิดาโจทก์จะเบิกจากทางราชการและทางราชการได้จ่ายแทนโจทก์ไปแล้วก็ตามก็เป็นสิทธิเฉพาะตัวของบิดาโจทก์โจทก์จึงยังมีสิทธิเรียกร้องเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยผู้ทำละเมิดได้และกรณีเป็นคนละเรื่องกับการที่โจทก์มีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินในกรณีถูกทำละเมิดจนได้รับอันตรายแก่กาย จำเลยทำละเมิดเป็นเหตุให้โจทก์ขาหักหลายแห่งต้องรักษาโดยการผ่าตัดหลายครั้งและอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง129วันออกจากโรงพยาบาลแล้วต้องรักษาตัวที่บ้านหลายเดือนโจทก์ได้รับอันตรายถึงสาหัสต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลานานต้องขาดเรียนและเรียนซ้ำชั้นได้รับความทุกข์ทรมานทางกายและจิตใจย่อมมีสิทธิเรียกค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินในส่วนนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา446
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3357/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายอื่นจากละเมิด แม้มีประกันหรือเบิกจ่ายแล้ว ผู้เสียหายยังคงมีสิทธิเรียกร้องจากผู้กระทำละเมิดได้
ค่ารักษาพยาบาลเป็นค่าเสียหายฐานละเมิดแม้บิดาโจทก์จะเบิกจากทางราชการและทางราชการได้จ่ายค่าเสียหายในส่วนนี้แทนโจทก์ไปแล้วก็เป็นสิทธิเฉพาะตัวของบิดาโจทก์ไม่เกี่ยวกับความรับผิดของจำเลยที่2โจทก์จึงยังมีสิทธิเรียกร้องเอาค่ารักษาพยาบาลจากจำเลยที่2ผู้ต้องรับผิดฐานละเมิดได้และกรณีเป็นคนละเรื่องกับการที่โจทก์มีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินในกรณีถูกทำละเมิดจนได้รับอันตรายแก่กายหรือถึงแก่ชีวิต เมื่อโจทก์ออกจากโรงพยาบาลแล้วโจทก์ยังต้องได้รับการรักษาโดยทางกายภาพบำบัดต้องมีผู้มาทำกายภาพบำบัดให้ที่บ้านของโจทก์อีกเป็นเวลา3เดือนเชื่อว่าโจทก์ต้องเสียค่าจ้างคนมาทำกายภาพบำบัดให้แม้โจทก์ไม่มีใบเสร็จรับเงินมาแสดงโจทก์ก็มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้ได้ ค่าจ้างบุคคลอื่นดูแลโจทก์ในระหว่างการรักษาพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นแม้โจทก์จะไม่มีใบเสร็จรับเงินมาแสดงและไม่มีรายละเอียดว่าได้จ่ายค่าจ้างไปเท่าใดก็ตามแต่การที่โจทก์ได้รับบาดเจ็บขาหักหลายแห่งต้องผ่าตัดหลายครั้งและต้องทำการกายภาพบำบัดทั้งขณะอยู่ที่โรงพยาบาลและออกจากโรงพยาบาลแล้วใช้เวลารักษาในโรงพยาบาลนานถึง129วันจำเป็นต้องมีผู้ดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดเพราะโจทก์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้ได้ ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนักเรียนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่6โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสต้องพักรักษาตัวหลายเดือนต้องขาดเรียนและเรียนซ้ำชั้นโจทก์ย่อมได้รับความทุกข์ทรมานทางกายและจิตใจมากโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงินในส่วนนี้ได้และไม่ใช่ค่าเสียหายที่ไกลเกินเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา446
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3331/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบังคับคดีประกัน จำเป็นต้องใช้ทนายของแผ่นดิน (พนักงานอัยการ) ไม่ใช่ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
เมื่อมีการผิดสัญญาประกันจำเลยเกิดขึ้น พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินต้องเป็นผู้ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้นตามพ.ร.บ. พนักงานอัยการ พ.ศ.2498 มาตรา 11 (8) ซึ่งหมายถึงการขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและจัดการอื่นใดในทางอรรถคดี รวมถึงการนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของผู้ประกันเพื่อเป็นผลให้ได้เงินค่าปรับตามคำสั่งศาล หาใช่หน้าที่ของศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2286/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองโมฆะจากการไม่ได้จดทะเบียน แม้มีเจตนาให้ที่ดินเป็นประกันหนี้
การที่จำเลยมอบโฉนดที่ดินพร้อมด้วยใบมอบอำนาจและเอกสารอื่นให้แก่โจทก์เพื่อจดทะเบียนจำนองประกันหนี้ขายลดเช็ค แม้จะมีข้อกำหนดให้นำไปจดทะเบียนจำนองได้หลังจากเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องที่จำเลยมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์จำนองเป็นประกันนั่นเอง เมื่อไม่ได้มีการจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องสัญญาจำนองจึงเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 115 เดิม และมาตรา 714
ป.พ.พ.บรรพ 3 อันเป็นเอกเทศสัญญาไม่ได้บัญญัติให้มีสัญญาในลักษณะซึ่งจะเป็นสัญญาจะจำนองได้ เมื่อสัญญาจำนองเป็นโมฆะและสัญญาจะจำนองมีขึ้นไม่ได้ตามกฎหมายโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้ขายลดเช็ค
ป.พ.พ.บรรพ 3 อันเป็นเอกเทศสัญญาไม่ได้บัญญัติให้มีสัญญาในลักษณะซึ่งจะเป็นสัญญาจะจำนองได้ เมื่อสัญญาจำนองเป็นโมฆะและสัญญาจะจำนองมีขึ้นไม่ได้ตามกฎหมายโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้ขายลดเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้จากเงินขายทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่จำเลยวางประกันไว้กับโจทก์ และขอบเขตการชำระหนี้
ลูกเดือยเป็นของจำเลยที่1ซึ่งได้วางประกันไว้กับโจทก์เมื่อจำเลยที่1โดยจำเลยที่2ยินยอมให้โจทก์ขายลูกเดือยนั้นได้เงินที่ขายย่อมเป็นของจำเลยที่1ดังนั้นเมื่อจำเลยที่1เป็นหนี้ ค่าเช่า โกดังเก็บสินค้าของโจทก์จำเลยที่1ย่อมมีสิทธิที่จะให้ หักกลบลบหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา341การนำเงิน750,000บาทที่โจทก์ขายลูกเดือยไปหักหนี้ค่าเช่าโกดังของบริษัท ส. นั้นยังไม่ถูกต้องเพราะบริษัท ส.เป็นบุคคลอีกคนหนึ่งแม้บริษัทดังกล่าวจะเป็นหนี้ค่าเช่าโกดังโจทก์แต่ก็ไม่ได้เป็น เจ้าหนี้โจทก์จึง หักกลบลบหนี้กับโจทก์ไม่ได้กรณีเป็นเรื่องที่จำเลยที่1ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอชำระหนี้แทนการที่จำเลยที่2ได้มีหนังสือถึงโจทก์ให้โจทก์หักหนี้ค่าเช่าโกดังของบริษัท ส. จำนวน346,875บาทเงินที่เหลือจำนวน403,125บาทให้ส่งคืนจำเลยที่1นั้นศาลชั้นต้นนำเงินจำนวนที่เหลือดังกล่าวไปหักกลบลบหนี้ค่าเช่าโกดังโจทก์ที่จำเลยที่1เป็นหนี้อยู่จึงชอบแล้วเพราะ สิทธิเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าวของจำเลยทั้งสอง ไม่มี ข้อต่อสู้แต่ประการใดเมื่อเงินจำนวนดังกล่าวได้มีการนำไปหักกลบลบหนี้แล้วจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องเสีย เบี้ยปรับนับถัดจากวันฟ้องอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์ชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ก่อนพิพากษา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี และสิทธิในการถอนเงินประกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ในระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวก่อนพิพากษาโดยศาลได้มีคำสั่งอายัดที่ดินดังกล่าวไปยังเจ้าพนักงานที่ดินแล้วเมื่อโจทก์ขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาและศาลได้ออกหมายอายัดชั่วคราวส่งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินและจำเลยแล้วเป็นเพียงการสั่งห้ามชั่วคราวเท่านั้นยังไม่มีกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเข้ามาอายัดที่ดินพิพาทกรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของตาราง5ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่โจทก์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเป็นกรณีที่โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามตาราง5ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโจทก์จึงมีสิทธิถอนเงินประกันค่าเสียหายที่ศาลมีคำสั่งให้วางไว้ได้ทันทีเมื่อศาลมีคำสั่งถอนหมายอายัดชั่วคราวซึ่งมีผลเท่ากับถอนคำสั่งห้ามชั่วคราวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4831/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางประกันค่าภาษีอากรเพื่อนำของเข้าโดยรีบด่วน การชำระภาษีโดยธนาคารตามสัญญาค้ำประกัน และการไม่มีหนี้ภาษีคงเหลือ
จำเลยผู้นำของเข้ามาในราชอาณาจักร ยื่นคำร้องขออ้างว่ามีความจำเป็นต้องรับของโดยรีบด่วนโดยให้ธนาคารค้ำประกันอากรและรับรองว่าจะปฏิบัติพิธีการศุลกากรให้ถูกต้องครบถ้วนในภายหลัง และพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้กำหนดวงเงินประกันไว้ในคำร้องขอของจำเลย จึงเป็นกรณีที่จำเลยร้องขอว่ามีความจำเป็นที่จะต้องนำของไปจากอารักขาของศุลกากรโดยรีบด่วน และจำเลยได้ทำสัญญาค้ำประกัน กับได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมีวงเงินเท่ากับจำนวนเงินประกันภาษีอากรที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์กำหนดไว้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์อนุมัติสัญญาค้ำประกันของจำเลยและรับหนังสือค้ำประกันของธนาคารไว้เป็นหลักประกันจึงเป็นกรณีที่จำเลยวางหนังสือประกันของธนาคารเพื่อเป็นประกันค่าภาษีอากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 40 วรรคสอง สัญญาค้ำประกันมีข้อความว่าจำเลยจะปฏิบัติพิธีการศุลกากรให้ถูกต้องครบถ้วนภายใน 30 วัน อันเป็นเงื่อนไขที่อธิบดีกรมศุลกากรกำหนดให้จำเลยผู้นำของเข้าปฏิบัติตามมาตรา 40 วรรคสอง เพื่อให้ได้ค่าภาษีอากร สัญญาค้ำประกันและหนังสือค้ำประกันของธนาคารที่จำเลยได้วางต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์จึงเป็นการประกันค่าภาษีอากรที่ต้องชำระ มิใช่สัญญาค้ำประกันการปฏิบัติพิธีการศุลกากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2349/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและประกันตามคำสั่งศาล เพื่ออุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ การปฏิบัติตามกำหนดเวลา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย ปรากฏว่า เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์ จำเลยได้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางไว้ต่อศาลแล้ว ส่วนเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ ก็ปรากฏว่าจำเลยได้นำเงินมาวางเป็นประกันไว้ต่อศาลแล้ว เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2535 โดยเป็นการวางเงินตามคำสั่งศาลชั้นต้น ซึ่งสั่งตามคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2535 จึงถือได้ว่าจำเลยได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 แล้ว ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป