พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิประทานบัตรแร่ไม่ทำให้ได้สิทธิครอบครองที่ดิน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีบุกรุก
สิทธิของโจทก์ตามประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ตามพระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2510มาตรา73หาได้ทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินที่อยู่ในเขตประทานบัตรด้วยไม่การปักป้ายหลักเขตของประทานบัตรรวมทั้งป้ายที่เขียนแสดงแนวเขตที่ประทานบัตรของโจทก์เป็นเพียงเครื่องหมายแสดงอาณาเขตให้เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าเขตประทานบัตรของโจทก์มีอยู่แค่ไหนเพียงใดเท่านั้นมิได้หมายความว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองหรือเข้าครอบครองที่พิพาทและแม้โจทก์จะมีสิทธิในการเตรียมการทำเหมืองตามมาตรา58ก็เป็นเพียงสิทธิที่จะกระทำการต่างๆตามที่บัญญัติไว้เท่านั้นมิได้ทำให้ได้สิทธิครอบครองในเขตประทานบัตรด้วยเมื่อโจทก์ยังไม่ได้เป็นผู้ครอบครองที่พิพาทโจทก์ก็ย่อมมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะฟ้องจำเลยในความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362,365โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7036/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่และการขัดขวางสิทธิ: ประทานบัตรและการยินยอม
จำเลยอยู่ในที่พิพาทมาแต่ปี 2517 ก่อนโจทก์ขอออกประทานบัตรจำเลยไม่เคยให้หลักฐานแสดงความยินยอมให้โจทก์ไปแสดงให้เป็นที่พอใจของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าโจทก์มีสิทธิทำเหมืองแร่ในเขตที่พิพาทตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510 มาตรา 50 โจทก์จึงไม่อาจนำประทานบัตรที่ได้รับมาอ้างว่าที่พิพาทอยู่เขตประทานบัตร จำเลยโต้แย้งขัดขวางสิทธิในการทำเหมืองแร่ของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7036/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่ vs. การครอบครองก่อนประทานบัตร: การขัดขวางสิทธิทำเหมืองแร่
จำเลยอยู่ในที่พิพาทมาแต่ปี 2517 ก่อนโจทก์ขอออกประทานบัตรจำเลยไม่เคยให้หลักฐานแสดงความยินยอมให้โจทก์ไปแสดงให้เป็นที่พอใจของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าโจทก์มีสิทธิทำเหมืองแร่ในเขตที่พิพาทตามพระราชบัญญัติแร่พ.ศ. 2510 มาตรา 50 โจทก์จึงไม่อาจนำประทานบัตรที่ได้รับมาอ้างว่าที่พิพาทอยู่เขตประทานบัตร จำเลยโต้แย้งขัดขวางสิทธิในการทำเหมืองแร่ของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2881/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องค่าธรรมเนียมประทานบัตร, การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียม, และอายุความหนี้เงิน
โจทก์เป็นกรมในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม มีหน้าที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ตามประทานบัตร การฟ้องเรียกค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ตามประทานบัตรที่ค้างชำระจึงเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องได้โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไม่จำต้องมอบอำนาจให้ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 55 จำเลยซึ่งเป็นผู้ถือประทานบัตรมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ตามประทานบัตรเป็นรายปีค่าธรรมเนียมนั้นกฎหมายให้เรียกเก็บตามกฎกระทรวงอันหมายถึงกฎกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ในขณะเรียกเก็บปีใดกฎกระทรวงฉบับใดใช้บังคับอยู่จำเลยต้องชำระค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กฎกระทรวงฉบับนั้นกำหนดไว้ จำเลยยกอายุความเรื่องเช่าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 563 ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ แต่ฎีกาโดยยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ซึ่งแก้ไขใหม่เป็นมาตรา 193/30 ขึ้นฎีกา จึงเป็นฎีกาในข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 เงินค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ตามประทานบัตรที่ค้างชำระเป็นหนี้เงิน โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ดอกเบี้ยค้างชำระส่วนที่เกิน 5 ปี นับจากวันฟ้องย้อนหลังไปขาดอายุความประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 ซึ่งแก้ไขใหม่เป็นมาตรา 193/33
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินประทานบัตรหมดอายุ ผู้รับโอนไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ จนกว่าจะได้รับประทานบัตรใหม่
ประทานบัตรของโจทก์หมดอายุแล้ว โจทก์ยังไม่ได้รับประทานบัตรใหม่ เพียงแต่เจ้าพนักงานรับเรื่องขอประทานบัตรใหม่ของโจทก์ไว้พิจารณาเท่านั้น โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาท และไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาทได้
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ จำเลยต่อสู้คดีว่าประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้ว และจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท คดีโจทก์ขาดอายุความคดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ จำเลยต่อสู้คดีว่าประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้ว และจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท คดีโจทก์ขาดอายุความคดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินหลังประทานบัตรหมดอายุ: โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จนกว่าจะได้รับประทานบัตรใหม่
โจทก์รับโอนประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่มาจากบริษัท อ.ก่อนที่ประทานบัตรของโจทก์จะสิ้นอายุ โจทก์ได้ดำเนินการขอประทานบัตรใหม่ แต่จนถึงวันฟ้องคดี โจทก์ยังไม่ได้รับประทานบัตรใหม่ เพียงแต่เจ้าพนักงานรับเรื่องขอประทานบัตรใหม่ของโจทก์ไว้พิจารณาเท่านั้น และตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510มาตรา 73(3) ก็บัญญัติว่า เมื่อสิ้นอายุประทานบัตรแล้ว มิให้ถือว่าเป็นการได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง ดังนั้น ก่อนที่โจทก์จะได้รับประทานบัตรฉบับใหม่ โจทก์ยังไม่ได้สิทธิใด ๆ ในที่พิพาท จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาท โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับโจทก์ขณะที่โจทก์เข้าไปดำเนินการในที่พิพาท เพื่อขอประทานบัตรใหม่เป็นการขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์ ถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว แต่เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ และจำเลยต่อสู้คดีว่า ประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้ว ที่พิพาทจำเลยมีสิทธิครอบครอง คดีโจทก์ขาดอายุความ คดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ ฎีกาของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินประทานบัตรสิ้นอายุ: ผู้รับโอนไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จนกว่าจะได้รับประทานบัตรใหม่
ประทานบัตรของโจทก์หมดอายุแล้ว โจทก์ยังไม่ได้รับประทานบัตรใหม่ เพียงแต่เจ้าพนักงานรับเรื่องขอประทานบัตรใหม่ของโจทก์ไว้พิจารณาเท่านั้น โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาทและไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาทได้ เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ประทานบัตรของโจทก์ จำเลยต่อสู้คดีว่าประทานบัตรของโจทก์สิ้นอายุแล้วและจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท คดีโจทก์ขาดอายุความ คดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยขัดขวางการขอออกประทานบัตรของโจทก์หรือไม่ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่ vs. สิทธิครอบครองที่ดิน: ผู้ได้รับประทานบัตรมีสิทธิใช้ที่ดินแต่เพียงผู้เดียว
โจทก์ได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ดีบุกในที่พิพาท จึงมีสิทธิใช้ที่พิพาทนั้นเพื่อกิจการเหมืองแร่แต่เพียงผู้เดียว แม้ต่อมาจำเลยเข้าไปปลูกบ้านอยู่อาศัยและปลูกต้นไม้ในที่พิพาท แต่เมื่อจำเลยมิใช่ผู้ถืออาชญาบัตร ประทานบัตรชั่วคราวประทานบัตรหรือผู้รับใบอนุญาตจากทางราชการ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้เข้าไปยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยผลของ พระราชบัญญัติ แร่ฯ จำเลยจึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาท แม้ทางราชการจะออกทะเบียนบ้านระบุเลขที่บ้านหลังที่จำเลยเข้าไปปลูกอยู่อาศัยก็ตาม จำเลยจะนำทะเบียนบ้านมาเป็นหลักฐานอ้างสิทธิว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทยันโจทก์หาได้ไม่ เนื่องจากทะเบียนบ้านมิใช่เป็นหลักฐานแห่งการครอบครองที่ดิน การที่โจทก์ได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ไม่ทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดิน เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินประทานบัตรของโจทก์จึงไม่ใช่เรื่องฟ้องเรียกสิทธิครอบครองคืนจากผู้แย่งสิทธิครอบครองโจทก์จึงไม่ต้องฟ้องขับไล่จำเลยภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่จำเลยเข้าไปอยู่ในที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4762/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการทำเหมืองแร่: การครอบครองไม่สมบูรณ์แม้ทำประโยชน์ต่อเนื่อง
ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เดิมเป็นที่ดินของ ข.และ บ. เป็นผู้ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ในที่ดินพิพาท โจทก์เป็นผู้ซื้อประทานบัตรเหมืองแร่จาก บ. แม้โจทก์จะเป็นผู้ทำเหมืองแร่และครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมา แต่ตามสัญญาซื้อขายประทานบัตรก็ระบุให้โจทก์ได้สิทธิผิวดินตามประทานบัตรเหมืองแร่ คือสิทธิที่จะทำเหมืองแร่ในที่ดินพิพาทเท่านั้น บ. ไม่ได้โอนสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์แต่ประการใด ดังนั้นสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทยังคงเป็นของ บ. เจ้าของเดิมหรือทายาทผู้สืบสิทธิทางมรดกสืบต่อกันมา ส่วนการที่จำเลยไปสอบเขตที่ดินพิพาท และโจทก์ยื่นคำคัดค้านว่าโจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของตลอดมาก็ตาม แต่คัดค้านของโจทก์ก็อ้างสิทธิที่โจทก์พึงมีอยู่ตามประทานบัตรเหมืองแร่เท่านั้น โจทก์มิได้กล่าวอ้างสิทธิอื่นใดนอกเหนือไปจากสิทธิตามประทานบัตรเหมืองแร่ดังนั้น จะถือว่าคำคัดค้านของโจทก์เป็นการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือโดยแจ้งไปยัง บ. หรือทายาทผู้ครอบครองว่าไม่เจตนายึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1381 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่และการขัดขวางการทำประโยชน์ในที่ดินประทานบัตร แม้ประทานบัตรเดิมสิ้นอายุ แต่ได้ยื่นขอใหม่แล้ว ยังคงมีสิทธิฟ้องได้
การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้นไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินที่อยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้วผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้นั้นได้ ถึงแม้ประทานบัตรเดิมขาดอายุแล้ว แต่โจทก์ก็ได้ขอประทานบัตรใหม่ก่อนที่อายุประทานบัตรจะครบกำหนด ขณะเกิดเหตุอยู่ในระหว่างดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยขัดขวางโจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้.