พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องแล้วฟ้องใหม่: ถ้อยคำในคำร้องไม่ใช่การประนีประนอมและจำเลยต้องมีหลักฐานการปลดหนี้
โจทก์เคยฟ้องจำเลยให้ชำระเงินตามสัญญากู้ เป็นเงิน 10,000 บาท แล้วโจทก์ขอถอนฟ้องคดีนั้นเสีย โดยโจทก์บรรยายในคำร้องขอถอนฟ้องว่า "จำเลยได้มาขอความตกลงโดยยอมชำระหนี้ให้แล้วจึงหมดความจำเป็นที่จะดำเนินคดีต่อไป โจทก์จึงขอถอนฟ้อง" ครั้นเมื่อศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้ว ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยใหม่ โดยอ้างว่าจำเลยชำระเงินให้เพียง 8400 บาท ยังมิได้ชำระอีก 1600 บาท จึงขอให้ศาลบังคับ ดังนี้ จะถือว่าถ้อยคำที่โจทก์บรรยายมาในคำร้องขอถอนฟ้องเป็นการประณีประนอมไม่ได้เพราะไม่มีความหมายว่า จำเลยได้ชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นแล้ว หรือว่าได้มีความตกลงเป็นสัญญาประนีประนอมกันขึ้นแล้ว หากจำเลยจะต่อสู้ว่า โจทก์ตกลงยอมรับชำระหนี้เพียง 8400 บาทก็เป็นเรื่อง ต่อสู้ขอปลดหนี้ ต้องบังคับตามมาตรา 340
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีค่าเช่า: การปลดหนี้ต้องทำเป็นหนังสือ และห้ามเถียงในชั้นบังคับคดีประเด็นที่ยุติแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระค่าเช่าที่ค้างและตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบสถานที่เช่าแก่โจทก์ จำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในสถานที่เช่า จนศาลพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าตามฟ้องโจทก์และบังคับจำเลยตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยจะกลับมาเถียงในชั้นบังคับคดีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิบังคับเอาค่าเช่าดังกล่าวแล้วจากจำเลยเพราะมีคนอื่นเช่าไป และจำเลยไม่เคยครอบครองสถานที่เช่าดังนี้เป็นการเถียงฝืนคำพิพากษาและคำบังคับคดีที่ออกบังคับแก่จำเลย ย่อมฟังไม่ได้
การปลดหนี้ค่าเช่าบ้านซึ่งมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้นั้นแล้วต้องทำเป็นหนังสือ หนังสือที่โจทก์มีถึงคนภายนอกไม่ใช่หนังสือที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นหนังสือปลดหนี้ที่โจทก์ทำให้จำเลย
การปลดหนี้ค่าเช่าบ้านซึ่งมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้นั้นแล้วต้องทำเป็นหนังสือ หนังสือที่โจทก์มีถึงคนภายนอกไม่ใช่หนังสือที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นหนังสือปลดหนี้ที่โจทก์ทำให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีค่าเช่า: การปลดหนี้ต้องทำเป็นหนังสือ และห้ามเถียงฝืนคำพิพากษาในชั้นบังคับคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระค่าเช่าที่ค้างและตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบสถานที่เช่าแก่โจทก์ จำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในสถานที่เช่า จนศาลพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าตามฟ้องโจทก์ และบังคับจำเลยตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยจะกลับมาเถียงในชั้นบังคับคดีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิบังคับเอาค่าเช่าดังกล่าวแล้วจากจำเลยเพราะมีคนอื่นเช่าไป และจำเลยไม่เคยครอบครองสถานที่เช่า ดังนี้เป็นการเถียงฝืนคำพิพากษาและคำบังคับคดีที่ออกบังคับแก่จำเลยย่อมฟังไม่ได้
การปลดหนี้ค่าเช่าบ้านซึ่งมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้นั้นแล้ว ต้องทำเป็นหนังสือ หนังสือที่โจทก์มีถึงคนภายนอกไม่ใช่หนังสือที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นหนังสือปลดหนี้ที่โจทก์ทำให้จำเลย
การปลดหนี้ค่าเช่าบ้านซึ่งมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้นั้นแล้ว ต้องทำเป็นหนังสือ หนังสือที่โจทก์มีถึงคนภายนอกไม่ใช่หนังสือที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นหนังสือปลดหนี้ที่โจทก์ทำให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหนี้ที่ชอบด้วยกฎหมาย การปลดหนี้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และอำนาจทนายความ
เจ้าหนี้เดิมได้บอกกล่าวการโอนให้จำเลยทราบแล้ว ย่อมเป็นการโอนที่ชอบด้วยกฏหมาย แม้จะมีข้อโต้เถียงกันอยู่ลูกหนี้ก็๋ยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ต่อไป. หนี้ที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ หากจะมีการปลดหนี้เช่นไม่ต้องเสียดอกเบี้ยต่อไป ก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย. จำเลยขอแก้รายงานพิจารณาโดยอ้างว่าทนายแถลงรับเรื่องจำนวนหนี้เกินจำนวนที่เป็นจริงไม่ตรงกับคำให้การ มิได้อ้างว่าทนายทำไปโดยนอกเหนืออำนาจดังนี้ศาลไม่อนุญาตให้แก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค้ำประกันร่วม ปลดหนี้ผู้ค้ำบางส่วน ความรับผิดของผู้ค้ำที่เหลือ
ค้ำประกันร่วม อย่างไรเรียกว่าปลดหนี้ ผู้ค้ำระกัน 2 คนเมื่อเจ้าหนี้ปลดหนี้ให้ผู้ค้ำประกันคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งรับผิดเพียงครึ่งเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการมรดกห้ามถือประโยชน์จากหน้าที่ของตนเอง การเวนคืนเอกสารหนี้และการปลดหนี้
มฤดก ผู้จัดการมฤดกจะเอาประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ วิธีพิจารณาแพ่งผู้ใดมาศาลต้องมาด้วยมือบริสุทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลดหนี้ต้องทำเป็นหนังสือและชัดเจน พยานบุคคลอธิบายหนังสือเคลือบคลุมฟังไม่ได้
การปลดหนี้ที่มีหนังสือต้องทำเปนหนังสือให้ชัดเจน ลักษณพะยานพะยานบุคคลอธิบายหนังสือที่เคลือบคลุมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมกองหมายหลังปลดหนี้: คิดจากหนี้เดิม ไม่ใช่ราคาทรัพย์
ค่าธรรมเนียมกองหมายเมื่อประกาศขายแล้ว คิดจากเงินจำนวนไหน ประมวลแพ่งบรรพ 1,2,ปลดหนี้และชำระหนี้หมายความเพียงไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4246/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องในคดีฟื้นฟูกิจการ สิทธิเรียกร้องที่ได้รับการปลดหนี้แล้ว ไม่อาจนำมาขอรับชำระหนี้ใหม่ได้
หนี้ที่เจ้าหนี้นำมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการเป็นสิทธิเรียกร้องที่บริษัทเงินทุน อ. เจ้าหนี้เดิม มีต่อลูกหนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.11/2542 ของศาลล้มละลายกลาง และสิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีการแก้ไขแผนตามข้อเสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ครั้งที่ 3 ซึ่งศาลล้มละลายกลางให้ความเห็นชอบแล้วโดยกำหนดให้สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้เดิมดังกล่าวได้รับการปลดหนี้ทั้งจำนวนตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2547 เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการอุทธรณ์คำสั่งเห็นชอบด้วยข้อเสนอขอแก้ไขแผนครั้งที่ 3 ของศาลล้มละลายกลาง คำสั่งดังกล่าวย่อมผูกพันเจ้าหนี้เดิมตามแผนฟื้นฟูกิจการ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/60 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 90/63 วรรคหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเจ้าหนี้ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจากเจ้าหนี้เดิม ผลของคำสั่งในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.11/2542 ของศาลล้มละลายกลาง ย่อมผูกพันเจ้าหนี้ด้วยเช่นกัน เจ้าหนี้จึงไม่อาจนำหนี้ที่ได้รับการปลดหนี้แล้วมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้อีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3237/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมซื้อขายอำพราง: การโอนที่ดินเพื่อปลดหนี้ ย่อมตกเป็นโมฆะ
เหตุที่บิดามารดาจำเลยยินยอมจดทะเบียนจำนองที่ดินเป็นประกันเงินกู้ของ จ. แก่ธนาคาร น. แต่แรกนั้น เกิดจากความปรารถนาดีที่ต้องการช่วยเหลือบุตรที่ต้องการเงินทุนไปประกอบอาชีพ แต่เมื่อ จ. ไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้แก่ธนาคารได้ การที่บิดามารดาจำเลยยินยอมตกลงทำนิติกรรมโอนขายที่ดินพร้อมบ้านพิพาทให้แก่โจทก์ในเวลาต่อมา จึงน่าเชื่อว่าเป็นหนทางในการแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อมิให้ต้องเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยที่อาจต้องถูกบังคับจำนอง โดยให้โจทก์ซึ่งมีโอกาสที่จะขอกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้ นำที่ดินพิพาทไปเป็นหลักประกันขอสินเชื่อจากแหล่งเงินกู้ใหม่เพื่อปลดภาระหนี้สินของ จ. เท่านั้น มิได้มีเจตนาขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์อย่างแท้จริง เพราะการไถ่ถอนจำนอง การซื้อขายรวมตลอดถึงการจดจำนองใหม่ได้ดำเนินการด้วยความเร่งรัดให้เสร็จสิ้นในวันเดียวกัน ส่อแสดงเจตนาเพื่อให้โจทก์ขอสินเชื่อใหม่ไปไถ่ถอนสินเชื่อเดิมของ จ. เป็นสำคัญ มิได้มุ่งประสงค์ต่อการโอนกรรมสิทธิ์และใช้ราคาทรัพย์อันเป็นสาระสำคัญแห่งสัญญาซื้อขาย จึงเป็นการแสดงเจตนาลวง ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง แต่หาอาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้รับจำนองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงไม่