คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผลิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 112 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2801-2802/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานผลิตและมีวัตถุออกฤทธิ์, ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย, และการลงโทษหลายกรรม
จำเลยทั้งสองเป็นนายจ้างลูกจ้างกัน จำเลยที่ 1 ผสมเมทแอมเฟตามีน โดยจำเลยที่ 2 ช่วยส่งถังน้ำและหยิบของในถุงส่งให้ ประกอบกับเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลางที่ยึดได้มีทั้งที่ผลิตสำเร็จอัดเป็นเม็ดแล้วยังเป็นผลึกและยังเป็นของเหลวอยู่ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลาง
เมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีจำนวนมาก ซึ่งได้มาจากการผลิตด้วยเครื่องจักรทันสมัย และมีที่เป็นเม็ดแล้ว และที่เป็นผลึกและน้ำยาตกผลึกเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยกำลังผสมเป็นของเหลวอีกประกอบกับจำเลยมีซองพลาสติกกับถุงพลาสติกในขนาดต่าง ๆ ที่จำเลยมีไว้สำหรับบรรจุเมทแอมเฟตามีนออกขาย จึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลางไว้เพื่อขาย
ลูกระเบิดซ้อมขว้างของกลางอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ แม้ไม่มีอานุภาพทำลายล้าง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินก็เป็นเครื่องกระสุนปืนตามความหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 4(2)
ความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทกับความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มีวัตถุแห่งการกระทำความผิดแตกต่างกัน กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้คนละฉบับ การมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7,72 วรรคสอง ส่วนการมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองเป็นความผิดตามมาตรา 55,78 วรรคหนึ่ง ย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่า มีความประสงค์จะแยกความผิดสองฐานนี้ออกจากกัน และการกระทำความผิดสองฐานดังกล่าวแยกออกได้จากการกระทำความผิดฐานผลิตกับมีเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเพื่อขาย แม้จำเลยจะมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองในเวลาเดียวกัน และพร้อมกับที่จำเลยผลิตและมีเมทแอมเฟตามีนกับอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเพื่อขาย ก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนที่จำเลยผลิตเป็นจำนวนเดียวกับเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อขาย การกระทำของจำเลยส่วนนี้เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อขายบางส่วนมิใช่เมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนที่จำเลยผลิต และลงโทษจำเลยฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขายเป็นอีกกระทงหนึ่ง จึงเป็นการพิพากษาที่มิได้กล่าวในฟ้อง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยจะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2787/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การผลิตและมีไว้เพื่อขายวัตถุออกฤทธิ์ แม้แยกฟ้องเป็นข้อๆ ก็ตาม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยผลิตอีเฟดรีนชนิดเม็ดและเมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อขาย การกระทำของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกันส่วนอีเฟดรีนชนิดผงนั้น แม้โจทก์จะแยกฟ้องมาเป็นอีกข้อหนึ่งต่างหากเพื่อให้เห็นว่าเป็นคนละจำนวนกับอีเฟดรีนที่จำเลยผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อขายก็ตามแต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีอีเฟดรีนชนิดผงดังกล่าวไว้เพื่อใช้ในการผลิตเพื่อขายนั่นเอง ทั้งเป็นอีเฟดรีนที่เจ้าพนักงานตำรวจพบในเวลาและสถานที่เดียวกันกับอีเฟดรีนชนิดเม็ดและเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยผลิต จึงถือได้ว่าเป็นความผิดกรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการผลิตยาเสพติด: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิมว่าจำเลยมีความผิดฐานสนับสนุนการผลิต แต่ไม่มีความผิดฐานสนับสนุนการครอบครอง
เจ้าพนักงานผู้ทำหน้าที่สืบสวนและจับกุมได้ดำเนินงานสืบสวนเป็นระบบขั้นตอนและต้องใช้ระยะเวลาต่อเนื่องนานถึงหนึ่งเดือนครึ่งจึงจับกุมจำเลยแปดคนในคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง อีกทั้งในการปฏิบัติงานก็ได้มีการถ่ายรูปและทำรายงานการปฏิบัติงานไว้โดยตลอด ทั้งสารเคมีที่ตรวจยึดได้มีลักษณะเดียวกันกับถังสารเคมีที่มีผู้ไปรับจากจำเลย จึงมีน้ำหนักรับฟังได้แน่ชัดแล้วว่าจำเลยร่วมอยู่ในขบวนการของกลุ่มในการลักลอบผลิตวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยสนับสนุนจำเลยแปดคนในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งผลิตเมทแอมเฟตามีนตามฟ้อง ส่วนการที่เจ้าพนักงานมิได้จับกุมจำเลยในขณะที่เห็นเหตุการณ์นั้น เนื่องจากคนร้ายกลุ่มนี้กระทำผิดเป็นขบวนการ การที่เจ้าพนักงานจะเข้าจับกุมทันทีในเหตุการณ์ตอนหนึ่งตอนใดหรือไม่ ย่อมเป็นไปได้ที่จะต้องคำนึงถึงผลสำเร็จในการปราบปรามในภาพรวมทั้งหมดเป็นสำคัญการไม่เข้าจับกุมจำเลยทันทีจึงหาเป็นข้อผิดปกติไม่
จำเลยเพียงแต่จัดหาสารเคมีเพื่อใช้ผลิตวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ให้แก่กลุ่มผู้ผลิต แต่มิได้เข้าไปร่วมผลิตหรือกระทำการใดอันเป็นการสนับสนุนให้จำเลยในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ที่ผลิตขึ้นจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานสนับสนุนจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต คงมีความผิดฐานสนับสนุนจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวผลิตเมทแอมเฟตามีน อีกทั้งจะนำพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 6(1) มาปรับบทโดยระวางโทษจำเลยเช่นเดียวกับตัวการก็มิได้ เพราะคำขอท้ายฟ้องของโจทก์มิได้อ้างถึงพระราชบัญญัติฉบับนี้มาเป็นบทที่ขอให้ลงโทษจำเลย ย่อมถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2160/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเงินสดจากความผิดยาเสพติด: เงินได้จากการขายไม่ใช่ทรัพย์สินที่ริบได้หากไม่ได้ฟ้องฐานจำหน่าย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย มิได้ขอให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เงินสดที่โจทก์อ้างว่าจำเลยได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงมิใช่เครื่องมือ เครื่องใช้หรือวัตถุอื่นซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 หรือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษอันศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2) จึงไม่อาจริบได้ แม้จำเลยไม่ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5),246 และ247 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุยาเสพติดเข้าข่ายความผิดฐานผลิต แม้ไม่มีการดัดแปลง
จำเลยนำเฮโรอีนบรรจุใส่หลอดเครื่องดื่มและใช้ เทียนไขจุดไฟลนปิดหัวท้ายอยู่ในขนำ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจ เข้าตรวจค้นขนำดังกล่าวก็พบเฮโรอีนที่บรรจุในหลอดบิ๊ก ฝาแดง 1 หลอด ซึ่งพร่อง ไปบ้างแล้วและเฮโรอีนที่บรรจุในหลอดเครื่องดื่มปิดหัวท้ายอีก 15 หลอด กับพบหลอดเครื่องดื่มเปล่าที่ตัดไว้แล้วและยังไม่ได้ตัดเป็น จำนวนรวม 72 หลอด ทั้งยังพบเทียนไข 2 เล่มไม้ขีดไฟ 1 กล่อง ไฟแช็ก1อันและมีดคัทเตอร์ ขนาดเล็ก1 เล่ม พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าขณะจำเลยถูกจับจำเลยแบ่งบรรจุเฮโรอีนจากหลอดบิ๊ก ฝาแดงลงในหลอดเครื่องดื่มไปแล้วและกำลังจะแบ่งบรรจุอีกต่อไปถือได้ว่าจำเลยทำการผลิตเฮโรอีนตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4ซึ่งให้คำนิยามว่า "ผลิต" หมายความว่า เพาะ ปลูกทำ ผสม ปรุงแปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วยแล้ว ทั้งนี้แม้จำเลยจะแบ่งบรรจุเฮโรอีนโดยมิได้มีการดัดแปลง เจือปน หรือเพิ่มเติมสิ่งใดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดผลิตและครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย การลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุด
โจทก์บรรยายฟ้องข้อ 1 ว่า จำเลยกระทำความผิดกฎหมาย หลายกรรมต่างกันโดยแยกเป็นข้อ ก.ข.ค.ง. ฟ้องข้อ 1 ก. โจทก์บรรยายว่า จำเลยผลิตเฮโรอีนโดยการแบ่งบรรจุ ใส่หลอดกาแฟปิดหัวท้ายยาวประมาณ 2 เซนติเมตร จำนวน 4 หลอด รวมน้ำหนัก 0.072 กรัม โดยไม่ได้รับอนุญาต ฟ้องข้อ 1 ข.โจทก์บรรยายว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนบรรจุหลอดพลาสติกเบอร์ 5จำนวน 1 หลอด และบรรจุหลอดกาแฟ 4 หลอด รวมน้ำหนัก0.368 กรัม อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ดังกล่าวในฟ้องข้อ 1 ก. ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและมิได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมายดังนี้แม้ฟ้องข้อ 1 ข. จะระบุว่าจำเลยมียาเสพติดให้โทษตามฟ้องข้อ 1 ก. ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ฟ้องทั้ง 2 ข้อดังกล่าว โจทก์บรรยายฟ้องแยกการกระทำความผิดของจำเลยออกเป็นต่างกรรมกัน ฟ้องข้อ 1 ก.โจทก์มิได้บรรยายว่า การผลิตเฮโรอีนของจำเลยนั้นเป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย อันเป็นสาระสำคัญแห่งองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 65 วรรคสอง ดังนี้ศาลจึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 65 วรรคสอง ได้ คงลงโทษจำเลยได้ตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) ถือเป็นการ “ผลิต” ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้ขณะจำเลยแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนใส่หลอดกาแฟ แล้วใช้ไฟลนหลอดกาแฟปิดหัวท้าย หลอดละ 10เม็ด จำนวน 14 หลอด หลอดละ 20 เม็ด จำนวน 1 หลอด หลอดละ 1 เม็ดจำนวน 136 หลอดของกลาง แม้ว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยสภาพอัดเป็นเม็ดไม่จำเป็นต้องแบ่งบรรจุเหมือนเฮโรอีนก็ตาม แต่บทบัญญัติ มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้ให้บทนิยามคำว่า "ผลิต" หมายความว่า เพาะปลูกทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย ดังนี้แม้เมทแอมเฟตามีนมีการอัดเป็นเม็ดที่ไม่จำเป็นต้องแบ่งบรรจุ ก็สามารถนำออกจำหน่ายได้สะดวกก็ตาม แต่ก็มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถแบ่งบรรจุได้ ดังนั้นเมื่อกระทำของจำเลยเห็นได้ว่าเป็นการแบ่งบรรจุแล้ว ย่อมถือได้ว่าเป็นการผลิตตามที่ให้บทนิยามไว้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุยาเสพติดเข้าข่ายความผิดฐานผลิตตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด แม้สภาพยาเสพติดไม่จำเป็นต้องแบ่งบรรจุ
บทบัญญัติมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 ให้บทนิยามคำว่า "ผลิต" หมายความว่าเพาะปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูปสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย ซึ่งแม้เมทแอมเฟตามีนมีการอัดเป็น เม็ดอันมีสภาพที่ไม่จำเป็นต้องแบ่งบรรจุก็สามารถนำออกจำหน่ายได้สะดวกก็ตาม แต่ก็มิได้หมายความว่า จะไม่สามารถแบ่งบรรจุได้ การที่จำเลยนำเอาเมทแอมเฟตามีน ที่อัดเป็นเม็ดใส่หลอดกาแฟตัดสั้นแล้วใช้ความร้อนปิดหัวท้ายแสดงว่าสามารถแบ่งบรรจุได้ เข้าลักษณะเป็นการแบ่งบรรจุแล้ว ถือได้ว่าเป็นการผลิตตามบทนิยามจึงเป็นความผิดฐานผลิต ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุยาเสพติดเข้าข่ายความผิดฐานผลิต แม้ยาเสพติดจะอยู่ในลักษณะเม็ด
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเจ้าพนักงานตำรวจจับกุม จำเลยได้ขณะจำเลยแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนใส่หลอดกาแฟ แล้วใช้ไฟลนหลอดกาแฟปิดหัวท้าย หลอดละ 10 เม็ด จำนวน 14 หลอด หลอดละ 20 เม็ด จำนวน 1 หลอด หลอดละ 1 เม็ด จำนวน 136 หลอดของกลาง แม้ว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยสภาพอัดเป็นเม็ดไม่จำเป็นต้องแบ่งบรรจุเหมือนเฮโรอีนก็ตาม แต่บทบัญญัติมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522ได้ให้บทนิยามคำว่า "ผลิต" หมายความว่า เพาะปลูก ทำผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย ดังนี้แม้เมทแอมเฟตามีนมีการอัดเป็นเม็ดที่ไม่จำเป็นต้อง แบ่งบรรจุ ก็สามารถนำออกจำหน่ายได้สะดวกก็ตาม แต่ก็มิได้ หมายความว่าจะไม่สามารถแบ่งบรรจุได้ ดังนั้นเมื่อกระทำของ จำเลยเห็นได้ว่าเป็นการแบ่งบรรจุแล้ว ย่อมถือได้ว่าเป็นการ ผลิตตามที่ให้บทนิยามไว้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5459/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบัตรไม่สมบูรณ์ เครื่องกรองน้ำที่แพร่หลายก่อน การผลิตไม่เป็นความผิด
จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันผลิตและมีไว้เพื่อขายเครื่องกรองน้ำ (ชนิดใช้สารกรอง) อันเป็นผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ซึ่งมีโจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงสิทธิบัตร จำเลยที่ 1 ได้เคย ฟ้องโจทก์ร่วมเป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ฉบับเดียวกันนี้เป็นคดีแพ่ง ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยวินิจฉัยว่าการออกสิทธิบัตรการประดิษฐ์ให้แก่โจทก์ร่วม ไม่ชอบด้วยมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติ สิทธิบัตร พ.ศ. 2522 เป็นสิทธิบัตรที่ไม่สมบูรณ์ตามมาตรา 54 วรรคแรก จำเลยที่ 1 ย่อมยกขึ้นกล่าวอ้างได้ตามมาตรา 54 วรรคสอง การประดิษฐ์ที่จะขอรับสิทธิบัตรได้จะต้องเป็นการประดิษฐ์ ขึ้นใหม่ซึ่งต้องไม่ใช่งานที่ปรากฏอยู่แล้ว คำว่า งานที่ปรากฏ อยู่แล้วมีอยู่หลายกรณีด้วยกันคือมีการจดสิทธิบัตรไว้แล้ว เป็นงานที่ใช้หรือแพร่หลายอยู่แล้วก่อนยื่นคำขอ หรือเป็นงานที่ เปิดเผยต่อสาธารณชนโฆษณาในสิ่งพิมพ์ หากสิ่งประดิษฐ์ใด มีลักษณะ 3 ประการที่กล่าวมา จะไม่ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ ก่อนหน้าที่โจทก์ร่วมจะไปขอจดทะเบียนสิทธิบัตรเครื่องกรองน้ำ ที่พิพาท เครื่องกรองน้ำตามสิทธิบัตรของโจทก์ร่วมได้มี แพร่หลายอยู่แล้ว เมื่อโจทก์ร่วมไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำตามสิทธิบัตรของโจทก์ร่วมแตกต่าง จากการประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำที่แพร่หลายอยู่ก่อนนั้นอย่างไร กรณีจึงยังไม่แน่ชัดว่าการประดิษฐ์เครื่อง กรอง น้ำ ของ โจทก์ร่วม เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ซึ่งเข้ากฎเกณฑ์ที่จะขอรับสิทธิบัตร การประดิษฐ์ได้ นอกจากนี้เครื่องกรองน้ำตามสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ที่พิพาทของโจทก์ร่วมอันมีวิธีการทำงานโดยการปล่อยให้น้ำไหล จากท่อน้ำในถังกรองที่ 1 ผ่านสารกรองต่าง ๆ ที่ใส่ไว้ เป็นชั้น ๆ โดยน้ำจากสารกรองชั้นสุดท้ายจะไหลผ่านท่อน้ำ รูปตัวแอลไปสู่ด้านบนของถังกรองที่ 2 แล้วไหลผ่านสารกรองในถังกรองที่ 2 ที่จัดเรียงเป็นชั้น ๆ จนถึงชั้นสุดท้ายหลังจากนั้นน้ำจะไหลออกจากปลายท่อซึ่งมีก๊อกสำหรับเปิดน้ำใช้ ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องกรองน้ำตามสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ที่พิพาทดังกล่าวนั้น เป็นหลักการทำงานที่อาศัยหลักของแรงดันน้ำ ขับดันให้น้ำไหลไปตามท่อที่วางไว้ภายในถังกรอง ประกอบกับ หลักการไหลจากที่สูงไปยังที่ต่ำของน้ำเพื่อให้น้ำไหลผ่านสารกรอง ด้านบนสุดไปยังสารกรองที่อยู่ด้านล่างสุด อันเป็นหลักการอย่างธรรมดาสามัญที่บุคคลทั่ว ๆ ไปย่อมทราบดีอยู่แล้ว คดีแพ่งเรื่องก่อนเป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1ได้พิพาทกันในคดีแพ่งเกี่ยวกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์เดียวกันกับในคดีนี้ โดยศาลฎีกาในคดีดังกล่าวนั้นวินิจฉัยไว้ว่าสิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่สิทธิบัตร 422 นั้นไม่สมบูรณ์แม้ว่าคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีแพ่งจะผูกพันคู่ความในคดีดังกล่าว เฉพาะในทางแพ่งก็ตาม แต่ศาลย่อมจะนำคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว มาชั่งน้ำหนักประกอบพยานหลักฐานของคู่ความในคดีอาญาได้ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่สิทธิบัตร 422 ของโจทก์ร่วมมิใช่การประดิษฐ์ที่ไม่เป็นที่ประจักษ์โดยง่ายแก่บุคคลที่มีความชำนาญในระดับสามัญสำหรับงานประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำ จึงมิใช่การประดิษฐ์ที่มีขั้นตอนที่สูงขึ้น เมื่อสิทธิบัตร การประดิษฐ์ของโจทก์ร่วมดังกล่าวไม่สมบูรณ์ การกระทำของ จำเลยทั้งสองในการผลิตและมีไว้เพื่อขายเครื่องกรองน้ำ ตามสิทธิบัตรของโจทก์ร่วม จึงไม่เป็นความผิด
of 12