พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกัน (อาวัล) และผลของการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็ค
จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ให้ถือว่าการสลักหลังนั้นเป็นเพียงประกัน (อาวัล)สำหรับผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 จึงต้องผูกพันตนเป็นอย่างเดียวกันและรับผิดร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามมาตรา 940, 967, 989
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007
กำหนดเวลาที่ต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 เป็นเรื่องเงื่อนไขแห่งสิทธิไล่เบี้ยของผู้ทรงเช็คต่อผู้สลักหลังโอนเช็คเท่านั้น มิได้รวมถึงผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับประกันการใช้เงิน (ผู้รับอาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามเช็คนั้นด้วย
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็ครู้เห็นยินยอมด้วยกับการที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายแก้วันที่สั่งจ่ายในเช็คอันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสำคัญในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1007
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3440/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไล่เบี้ยผู้รับประกัน (อาวัล) ในเช็คพิพาทจากการเล่นแชร์และการชำระเงินให้ลูกวง
จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย และจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยที่ 2 ได้นำเช็คพิพาทไปให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นหัวหน้าวงแชร์ในการที่จำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ได้โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปมอบให้แก่ลูกวงที่ยังประมูลแชร์ไม่ได้ ต่อมาเมื่อลูกวงที่รับเช็คพิพาทไว้นั้นประมูลแชร์ได้แล้ว นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ โจทก์จึงมีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่ลูกวงตามข้อตกลงเล่นแชร์กัน เมื่อโจทก์ชำระเงินแก่ลูกวงและรับเช็คคืนมา โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายและมีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้รับประกัน(อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับประกันหรือตัวแทน จึงจะบังคับคดีได้
สารบัญประกันภัยที่โจทก์อ้างมีข้อความระบุถึงผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัยและรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้เท่านั้นไม่มีลายมือชื่อผู้รับประกันภัยหรือลายมือชื่อตัวแทนผู้รับประกันภัยแต่อย่างใด โจทก์จึงอาศัยเอกสารดังกล่าวฟ้องร้องบังคับคดีเอาจากผู้รับประกันภัยไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความไล่เบี้ยประกันภัย: ผู้รับประกันภัยไม่ต้องติดอายุความละเมิด หากถูกเรียกเข้ามาตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุซึ่งถูกเรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (3) เมื่อเกินกำหนดหนึ่งปีไปแล้วนับแต่วันละเมิด จะยกอายุความละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ขึ้นต่อสู้ไม่ได้ เพราะผู้รับประกันต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย มิใช่ร่วมรับผิดในมูลละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับประกันภัยค้ำจุนและการแบ่งแยกความรับผิดในหนี้ที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดความรับผิดของผู้รับประกันและผู้เอาประกัน
จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนอันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแทนในนามจำเลยที่ 1 ผู้เอาประกันภัย กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลฎีกากำหนดค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยที่ 2 รับผิดน้อยลง แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ฎีกาก็ตาม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 245(1),247 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลฎีกาเห็นสมควรก็ให้จำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์เพียงเท่าที่จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจากการละเมิดของผู้อื่น
ค่าพาหนะไปมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาพยาบาลบาดแผลที่ถูกทำละเมิดเป็นค่าเสียหายที่เกิดโดยตรงสืบเนื่องจากการละเมิด.
โจทก์ถูกทำละเมิดแขนซ้ายพิการตลอดชีวิต. มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพราะเหตุทุพพลภาพได้.
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยทำสัญญากับจำเลยที่1 ว่า. จำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของจำเลยที่ 1. เพื่อความวินาศภัยอันเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งและซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชอบ. มีลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยค้ำจุน. ดังนั้นเมื่อจำเลย ที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์. โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยโดยตรงและมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ได้.
โจทก์ถูกทำละเมิดแขนซ้ายพิการตลอดชีวิต. มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพราะเหตุทุพพลภาพได้.
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยทำสัญญากับจำเลยที่1 ว่า. จำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของจำเลยที่ 1. เพื่อความวินาศภัยอันเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งและซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชอบ. มีลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยค้ำจุน. ดังนั้นเมื่อจำเลย ที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์. โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยโดยตรงและมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231-232/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกัน - การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้รับประกัน - การถอนสัญญาค้ำประกัน
คำให้การของจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบเพราะมิได้ให้การว่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายด้วยเหตุอย่างไร
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้ว แต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้น แล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหาย เช่นนี้ถือว่า บริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหาย ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้ว แต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้น แล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหาย เช่นนี้ถือว่า บริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหาย ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระเบียบวิธีเสนอคำเรียกร้องประกันภัยทางทะเล ไม่เป็นสาระสำคัญ หากจำเลยเต็มใจรับคำเรียกร้อง ผู้เอาประกันมีสิทธิฟ้องได้
สัญญาประกันภัยการขนส่งทางทะเลมีข้อความว่า "บริษัทจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องใด ๆ เว้นไว้แต่จะได้มีการแจ้งความโดยทันทีแก่ผู้ที่กล่าวนามข้างใต้นี้ และได้รับรายงานการสำรวจแล้ว ในกรณีความสูญหายหรือบุบสลายนั้นให้ทำข้อเรียกร้องเป็นลายลักษณ์อักษรโดยทันทีต่อเรือหรือผู้ขนส่งอื่น และให้แนบข้อเรียกร้องและคำตอนข้อเรียกร้องไปกับข้อเรียกร้องใด ๆ ที่ได้เสนอตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ ฯลฯ ข้อความดังกล่าวนี้มิใช่ข้อกำหนดที่ยกเว้น หรือจำกัดความรับผิดของผู้รับประกันภัย แต่ประการใด หากเป็นเพียงข้อกำหนดเรื่องระเบียบวิธีปฏิบัติในการเสนอข้อเรียกร้องต่อผู้รับประกันภัยเพื่อขอรับเงินประกันภัยนั้น ควรจะมีอะไรเสนอพร้อมกันไปด้วยบ้างเท่านั้นเอง หากผู้รับประกันแสดงพฤติการณ์ให้เห็นว่ามิได้ถือเอาข้อกำหนดดังกล่าว เป็นข้อสาระสำคัญสำหรับวิธีปฏิบัติการเสนอคำเรียกร้องของผู้เอาประกันภัย และผู้รับประกันภัยเต็มใจยอมรับข้อเรียกร้องของผู้เอาประกันภัยไว้ดำเนินการโดยไม่ติดใจในเรื่องข้อบกพร่องอันเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติประการใด คำเรียกร้องของผู้เอาประกันภัยโดยไม่ได้แนบข้อเรียกร้องต่อเรือและคำตอบข้อเรียกร้องได้เสนอไปด้วย ย่อมเป็นไปโดยชอบ ผู้เอาประกันภัยย่อมมีสิทธิฟ้องผู้รับประกันภัยได้โดยสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากประกันภัย: สิทธิฟ้องของผู้รับประกัน
ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไป ดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม มาตรา 880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องทำเป็นหนังสือตาม มาตรา 306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: สิทธิการฟ้องของผู้รับประกันเมื่อผู้ต้องหาไม่มาตามนัด ศาลตัดสินว่าเป็นการฟ้องเรียกร้องหนี้ส่วนตัว
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อนายตำหรวดนั้น นายตำหรวดหามีสิทธิฟ้องผู้รับประกันเปนส่วนตัวไม่.
ฟ้องของโจทระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์ โจท เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ 2 +ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยและไนรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งไห้พนักงานอัยการเปนทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทเปนคำฟ้องส่วนตัว หาไช่ของทางราชการแต่หย่างได้ไม่.
ฟ้องของโจทระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์ โจท เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ 2 +ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยและไนรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งไห้พนักงานอัยการเปนทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทเปนคำฟ้องส่วนตัว หาไช่ของทางราชการแต่หย่างได้ไม่.