คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฝ่าฝืนกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5968/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องมีเหตุเจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย การอ้างราคาต่ำไม่เพียงพอ
การที่ศาลจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้นั้น จะต้องปรากฎว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ป.วิ.พ.เมื่อคำร้องของจำเลยทั้งสามที่ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดกล่าวอ้างแต่เพียงว่า การขายทอดตลาดดังกล่าวขายในราคาต่ำไป มิได้อ้างเหตุว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีดังกล่าวแต่ประการใด กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 จำเลยทั้งสามจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด และศาลชั้นต้นมีอำนาจงดไต่สวนและมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสามได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีโดยอาศัยมาตรา 71(1) เมื่อเอกสารไม่เพียงพอและฝ่าฝืนประกาศคณะปฏิวัติ
การที่โจทก์นำบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีไปเก็บไว้ที่โกดังของบริษัทอื่นซึ่งมิใช่สถานที่ประกอบธุรกิจของโจทก์อันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 285 นั้นเมื่อบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีดังกล่าวถูกเพลิงไหม้ โจทก์จะอ้างเอาเหตุอันเนื่องจากการฝ่าฝืนกฎหมายของโจทก์มาเป็นเหตุที่ไม่อาจส่งบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบตามหมายเรียกหาได้ไม่ และเมื่อสำเนาเอกสารต่าง ๆ ที่โจทก์ส่งให้เจ้าพนักงานประเมินไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะคำนวณหากำไรสุทธิของโจทก์เพื่อประเมินภาษีได้ เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินโดยอาศัย ป.รัษฎากร มาตรา 71(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2480/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อเติมอาคารโดยไม่ขออนุญาตและฝ่าฝืนข้อบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยทั้งสองให้การว่า ได้ ทำการต่อเติมดัด แปลงอาคารในส่วนด้านหลังของอาคารจริง แต่ มิได้ทำเชื่อมปิดคลุมทางเดินด้านหลังอาคารตาม ฟ้องโจทก์จำเลยเข้าใจโดย สุจริตว่าไม่ต้องขออนุญาตจากใคร เนื่องจากได้ต่อเติม อาคารของตนเองในที่ดินของตนเอง และอาคารใกล้เคียงก็ได้ มีการต่อเติม ไว้ก่อนแล้วเช่นกันจำเลยจึงต้องต่อเติม อาคารของตนเองด้วย เพื่อมิให้เกิดความเสียหายโดย จำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ต่อเติม อาคารด้านหลังเป็นแนวไปถึง รั้วหลังอาคารทั้งสองด้าน และมุงหลังคากระเบื้องตาม ฟ้อง คำให้การของจำเลยมีผลเท่ากับเป็นการรับว่าได้ กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 22 และฝ่าฝืนข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการก่อสร้างอาคารพ.ศ. 2522 ข้อ 76(4) แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ยังคงต้องเสียภาษีการค้า หากเข้าข่ายประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคาร
การจะพิจารณาว่าโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าหรือไม่ ในประเภทใดต้องพิจารณาจากกิจการที่โจทก์กระทำเป็นสัญญา แม้กิจการนั้นจะได้กระทำไปโดยฝ่าฝืนกฎหมายแต่ถ้าเป็นกิจการที่กฎหมายกำหนดว่าต้องเสียภาษีการค้าแล้ว โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องชำระภาษีตามที่กฎหมายกำหนด
โจทก์ประกอบกิจการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเป็นปกติธุระจึงเป็นกิจการของผู้ที่ประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ แม้โจทก์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการธนาคารก็ตาม เมื่อมีผลกำไรจากการนี้โจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าในประเภทการค้า 12 ตามบัญชีอัตราภาษีการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตและการเสียภาษีการค้า แม้ฝ่าฝืนกฎหมายก็ต้องเสียภาษี
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคาร ก.หลายครั้งในรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ. 2528 โดยโจทก์กู้จากธนาคารก. สาขาฮ่องกง อันเป็นสาขาของธนาคารคู่สัญญาที่โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ทั้งปรากฏว่าไม่มีการส่งมอบเงินตราต่างประเทศระหว่างกัน อันเป็นข้อที่แสดงให้เห็นได้ว่าคู่สัญญาใช้วิธีหักกลบกันทางบัญชีไม่มีการส่งเงินตราต่างประเทศการกู้ในลักษณะดังกล่าวเป็นการแสดงถึงว่าเพื่อให้ตนมีเงินตราต่างประเทศไว้เพื่อหักถอนบัญชีตามสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกันเท่านั้น เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์ประกอบกิจการซื้อขายเงินตราเป็นปกติธุระ แม้โจทก์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศตาม พ.ร.บ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 ก็หาได้หมายความว่า โจทก์มิใช่ผู้ประกอบการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพราะการที่จะพิจารณาว่าโจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าหรือไม่ จะต้องพิจารณาจากกิจการที่โจทก์กระทำเป็นสำคัญ และแม้กิจการที่โจทก์กระทำนั้นจะฝ่าฝืนกฎหมาย ก็หาทำให้โจทก์พ้นจากความรับผิดในการชำระภาษีไม่ แบบแจ้งการประเมินมีข้อความระบุว่า "บริษัทมีรายรับจากกำไรจากการแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายเงินตราต่างประเทศ แต่มิได้นำรายรับดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้า จึงประเมินภาษีการค้าพร้อมทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมาย" เป็นการระบุรายการที่ประกอบการค้าและเหตุผลที่ประเมินตามแบบที่กำหนดไว้แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2050/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาคารฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมอาคาร และการลงโทษปรับตามระยะเวลาที่ฝ่าฝืน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยฝ่าฝืนคำสั่งให้รื้อถอนอาคารที่ต่อเติมมีกำหนด 150 วัน (นับตั้งแต่ วันที่ 29 สิงหาคม 2530 จนถึงวันฟ้อง) และมีคำขอท้ายฟ้องว่า ขอศาลได้สั่งปรับจำเลยตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวด้วย เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะได้บรรยายแล้วว่าจำเลยฝ่าฝืนคำสั่งมีกำหนดถึงวันฟ้องกี่วัน และมีคำขอท้ายฟ้องให้สั่งปรับจำเลยตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนมาด้วย จำเลยให้การรับสารภาพ จึงอ้างว่าไม่สามารถเข้าใจข้อหาได้ดีไม่ได้
พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 65, 70 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่าให้ปรับได้ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร และโจทก์ก็ขอมาในคำขอท้ายฟ้องด้วย การที่ศาลพิพากษาในปัญหานี้จึงไม่เกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3694/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการบังคับคดีจำนอง: บุคคลภายนอกขอหยุดยึดได้เฉพาะกรณีศาล/เจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย
บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินตามหมายบังคับคดีจะขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เฉพาะในกรณีที่ศาลออกหมายบังคับคดีหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เท่านั้น
โจทก์บังคับคดีแก่ที่ดินซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์ แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวจะเปลี่ยนไปเป็นของผู้อื่นสิทธิจำนองก็ติดไปด้วย การที่ศาลออกหมายบังคับคดีและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีแก่ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์ จึงหาได้ฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่อย่างใดไม่ผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะมาร้องขอให้งดการบังคับคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3694/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกในการคัดค้านการบังคับคดี: ต้องเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินตามหมายบังคับคดีจะขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เฉพาะในกรณีที่ศาลออกหมายบังคับคดีหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เท่านั้น โจทก์บังคับคดีแก่ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทจะเปลี่ยนไปเป็นของผู้อื่นสิทธิจำนองก็ติดไปด้วย การที่ศาลออกหมายบังคับคดีและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีแก่ที่ดินพิพาท จึงหาได้ฝ่าฝืนต่อกฎหมายไม่ ผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะมาร้องขอให้งดการบังคับคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3694/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการบังคับจำนองติดไปกับทรัพย์สิน แม้กรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ บุคคลภายนอกขอหยุดยึดได้เฉพาะกรณีเจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย
บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินตามหมายบังคับคดีจะขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เฉพาะในกรณีที่ศาลออกหมายบังคับคดีหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เท่านั้น โจทก์บังคับคดีแก่ที่ดินซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์ แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวจะเปลี่ยนไปเป็นของผู้อื่นสิทธิจำนองก็ติดไปด้วย การที่ศาลออกหมายบังคับคดีและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีแก่ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์ จึงหาได้ฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่อย่างใดไม่ผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะมาร้องขอให้งดการบังคับคดีไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2927/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องมีเหตุเจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย มิใช่แค่ราคาต่ำกว่าราคาที่แท้จริง
การที่ศาลจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้นั้น ต้องเป็นกรณีที่ต้องด้วย มาตรา 296 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คือเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและเกิดการเสียหายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีบุคคลดังกล่าวจึงมีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีเสร็จลง ขอให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนได้ เมื่อตามคำร้องของจำเลยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่ประการใด เพียงแต่กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้สมคบกันประมูลเพื่อกดราคาที่ดินให้ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงมีพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตซึ่งมิได้เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดี จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดตามบทกฎหมายดังยกขึ้นกล่าวข้างต้น
of 5