พบผลลัพธ์ทั้งหมด 83 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5786/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการและทนายความในการดำเนินคดี, ข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อย, และอายุความ
ป.เป็นพนักงานอัยการมีอำนาจที่จะรับว่าต่างคดีให้องค์การโจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาได้ตามพระราชบัญญัติ พนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11(5) และ ป.ได้รับเป็นทนายความว่าต่างให้โจทก์แล้วตามใบแต่งทนายความในสำนวน ป. จึงมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆรวมทั้งการเรียงคำฟ้องแทนโจทก์ได้โดยไม่จำต้องระบุถึงฐานะเช่นนั้นในช่องผู้เรียงคำฟ้องอีก จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีสิทธิได้รับเงินค่าเช่าฉางและค่ากรรมกรขนข้าวเปลือกจากโจทก์มากกว่าจำนวนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย เป็นการโต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อคดีมีทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ขาดตกบกพร่อง หรือขอให้ใช้ราคาทรัพย์และค่าเสียหายเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่ส่งมอบมิใช่เป็นการอ้างอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671ที่จำเลยฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 671 จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5523/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการดำเนินคดีบังคับตามสัญญาประกัน: หน้าที่ขอออกหมายบังคับคดี ไม่ใช่หน้าที่นำยึดทรัพย์
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 เมื่อศาลมีคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันแล้ว ถ้าผู้ประกันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11(8)บัญญัติให้พนักงานอัยการมีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญา และตามมาตรา 4 ให้คำจำกัดความของคำว่าดำเนินคดีว่าหมายถึงการดำเนินการไปตามอำนาจและหน้าที่ในทางอรรถคดีของทางพนักงานอัยการ ดังนั้น เมื่อมีการผิดสัญญาประกันจำเลยเกิดขึ้น พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายความของแผ่นดินเป็นผู้ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญา ซึ่งหมายถึงการขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีการนำยึดและจัดการอื่นใดในทางอรรถคดีเพื่อเป็นผลให้ได้เงินค่าปรับตามคำสั่งศาล หาใช่หน้าที่ของศาลเจ้าหน้าที่ศาลหรือนายประกันที่จะเป็นผู้นำยึดทรัพย์ที่วางประกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5523/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการบังคับตามสัญญาประกัน: พนักงานอัยการมีหน้าที่ดำเนินคดีบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประกัน ไม่ใช่หน้าที่ของศาลหรือนายประกัน
เมื่อมีการผิดสัญญาประกันจำเลยเกิดขึ้น พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายความของแผ่นดินเป็นผู้ดำเนินคดี หาใช่หน้าที่ของศาลเจ้าหน้าที่ของศาลหรือนายประกันที่จะเป็นผู้นำยึดทรัพย์ที่วางประกันไม่่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2855/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการร้องขอค่าสินบนนำจับ: พนักงานอัยการไม่มีอำนาจตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติ มาตรา ชั่ง ตวง วัด พ.ศ.2466 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2477มาตรา 3 กำหนดให้ผู้กระทำผิดตามมาตราที่ระบุไว้ เมื่อถูกศาลพิพากษาลงโทษแล้วจำต้องผูกพันในการจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้จับ นำจับ หรือนำความมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานด้วย ไม่มีข้อความตอนใดที่ระบุให้อำนาจแก่พนักงานอัยการที่จะร้องขอต่อศาลให้สั่งจำเลยจ่ายเงินสินบนแก่บุคคลดังกล่าวได้ส่วนมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ.2466 นั้น เป็นบทบัญญัติว่าด้วยการฟ้องเพื่อเอาโทษแก่ผู้กระทำผิด แต่การชำระเงินค่าสินบนตามมาตรา 3 ดังกล่าวข้างต้นมิใช่โทษจึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 39 ที่ให้อำนาจพนักงานอัยการร้องขอให้บังคับผู้กระทำผิดได้ กรณีเป็นเรื่องที่เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้จับ นำจับ หรือนำความมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานเท่านั้นที่จะร้องขอต่อศาล พนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้สั่งจำเลยจ่ายเงินสินบนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2855/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการร้องขอค่าสินบนนำจับ: พนักงานอัยการไม่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.มาตราชั่ง ตวง วัด
พ.ร.บ.มาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2477 มาตรา 3กำหนดให้ผู้กระทำผิดตามมาตราซึ่งระบุไว้ เมื่อถูกศาลพิพากษาลงโทษแล้ว จำต้องผูกพันในการจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้จับ นำจับ หรือนำความมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานด้วย แต่ก็ไม่มีข้อความตอนใดที่ระบุให้อำนาจแก่โจทก์ซึ่งเป็นพนักงานอัยการที่จะร้องขอต่อศาลให้สั่งจำเลยจ่ายเงินสินบนแก่บุคคลดังกล่าวได้ ส่วนมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.มาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 ดังที่โจทก์อ้างก็เป็นบทบัญญัติว่าด้วยการฟ้องเพื่อเอาโทษแก่ผู้กระทำผิด แต่การชำระเงินค่าสินบนตามมาตรา 3 ดังกล่าวมิใช่โทษ จึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 39ที่ให้อำนาจพนักงานอัยการร้องขอให้บังคับผู้กระทำผิดได้ กรณีเช่นนี้ย่อมเป็นเรื่องที่เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้จับ นำจับ หรือนำความมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานเท่านั้นที่จะร้องขอต่อศาล โจทก์จึงไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้สั่งจำเลยจ่ายเงินสินบนในคดีนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการร้องขอถอดถอนผู้จัดการมูลนิธิ กรณีจัดการผิดพลาดฝ่าฝืนตราสาร
แม้พนักงานอัยการจะยื่นคำร้องขอถอน พ. ออกจากการเป็นประธานกรรมการ และผู้จัดการมูลนิธิโดยมิได้แนบคำร้องของกรรมการมูลนิธิที่มีไปถึงพนักงานอัยการอันเป็นเหตุให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลแต่คำร้องดังกล่าวมิใช่เอกสารตามที่กฎหมายต้องการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 เพราะพนักงานอัยการมีอำนาจร้องขอต่อศาลได้โดยลำพังอยู่แล้ว ส่วนปัญหาว่าคำร้องของกรรมการมูลนิธิดังกล่าวจะเป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้นหรือเป็นเท็จหรือไม่ ก็เป็นรายละเอียดที่จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา เมื่อตามคำร้องบรรยายถึงเหตุต่าง ๆ ที่ผู้คัดค้านในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิและเป็นผู้จัดการได้จัดการมูลนิธิผิดพลาดทำให้มูลนิธิเสื่อมเสียและฝ่าฝืนข้อความแห่งตราสาร โดยได้แนบสำเนาตราสารก่อตั้งมูลนิธิมาท้ายคำร้องด้วยแล้ว กับได้ขอให้ถอดถอนผู้คัดค้านออกจากตำแหน่งประธานกรรมการและขอให้แต่งตั้งผู้อื่นเป็นแทนดังนี้ สภาพแห่งคำร้องและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งคำร้องตลอดจนคำขอบังคับแจ้งชัดดีแล้ว ไม่เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม พ. เป็นประธานกรรมการและผู้จัดการมูลนิธิไม่ยอมเรียกประชุมวิสามัญตามที่คณะกรรมการร้องขอ ทั้งที่มีเหตุต้องเลือกตั้งกรรมการอื่นทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกแทนคนเดิมซึ่งถึงแก่กรรม กับมิได้เรียกประชุมสามัญประจำปีโดยไม่มีเหตุสมควรจึงเป็นการจัดการผิดพลาดและฝ่าฝืนข้อความแห่งตราสารก่อตั้งมูลนิธิ พนักงานอัยการมีสิทธิร้องขอให้ถอดถอน พ. ออกจากตำแหน่งได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 91.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีจากสัญญาประกัน: พนักงานอัยการต้องดำเนินการภายใน 10 ปีนับจากคำสั่งศาล
เมื่อศาลมีคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันแล้ว ถ้าผู้ประกันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลย่อมเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการที่จะต้องดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้น แต่เนื่องจากไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าจะบังคับอย่างไร จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาใช้บังคับ คือจะต้องร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลภายใน 10 ปี เมื่อพนักงานอัยการมาร้องขอให้ศาลบังคับคดีเกินกว่า 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง สิทธิในการบังคับคดีของพนักงานอัยการย่อมเป็นอันสิ้นไป
ศาลยึดโฉนดที่ผู้ประกันนำมาให้ศาลยึดไว้ประกอบสัญญาประกันก็เพื่อประโยชน์ในการบังคับชำระหนี้ เมื่อการบังคับชำระหนี้ไม่อาจกระทำได้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะยึดโฉนดของผู้ประกันไว้ต่อไป
ศาลยึดโฉนดที่ผู้ประกันนำมาให้ศาลยึดไว้ประกอบสัญญาประกันก็เพื่อประโยชน์ในการบังคับชำระหนี้ เมื่อการบังคับชำระหนี้ไม่อาจกระทำได้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะยึดโฉนดของผู้ประกันไว้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีตามสัญญาประกัน: พนักงานอัยการต้องดำเนินการภายใน 10 ปีนับจากคำสั่งศาล
เมื่อศาลมีคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันแล้ว ถ้าผู้ประกันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลย่อมเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการที่จะต้องดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้น แต่เนื่องจากไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าจะบังคับอย่างไร จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาใช้บังคับ คือจะต้องร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลภายใน 10 ปีเมื่อพนักงานอัยการมาร้องขอให้ศาลบังคับคดีเกินกว่า 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง สิทธิในการบังคับคดีของพนักงานอัยการย่อมเป็นอันสิ้นไป ศาลยึดโฉนดที่ผู้ประกันนำมาให้ศาลยึดไว้ประกอบสัญญาประกันก็เพื่อประโยชน์ในการบังคับชำระหนี้ เมื่อการบังคับชำระหนี้ไม่อาจกระทำได้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะยึดโฉนดของผู้ประกันไว้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการจำกัดเฉพาะคดีผิดสัญญาประกัน ไม่ครอบคลุมการขอคืนหลักประกันหลังความรับผิดสิ้นสุด
พนักงานอัยการมีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวกับสัญญาประกันจำเลย เฉพาะกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันเพื่อดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประกันเท่านั้น การที่ผู้ประกันขอรับหลักประกันคืนภายหลังความรับผิดตามสัญญาประกันหมดไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 118 แม้ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งเป็นประการใด พนักงานอัยการก็ไม่มีอำนาจที่จะอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อนคดีหมิ่นประมาท: การฟ้องคดีซ้ำจากข้อความเดียวกันโดยพนักงานอัยการและโจทก์
แม้ข้อความที่ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ ฟ้องว่าจำเลยลงพิมพ์ข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมจะเป็นคนละบทความกันและลงพิมพ์ต่างหน้ากันกับที่โจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้ แต่ ก็เป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมในหนังสือพิมพ์ซึ่ง จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาฉบับเดียวกัน ทั้งเป็นข้อความที่กล่าวถึง โจทก์ร่วมในเรื่องเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวและ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ กับโจทก์คดีนี้ต่าง ก็เป็นพนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีต่อ ศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๕) ๒๘(๑) ด้วยกันการที่โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจำเลยอีกจึงเป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามมิให้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๓(๑) ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕.