พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกระทำอนาจารเด็ก พฤติการณ์ไม่ถึงขั้นพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
ผู้เสียหายอายุ 5 ขวบ จำเลยเป็นพี่เขยของบิดาของผู้เสียหาย อยู่บ้านใกล้กัน วันเกิดเหตุผู้เสียหายไปเล่นที่ใต้ถุนบ้านของจำเลย จำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วพาผู้เสียหายไปในครัว จำเลยนั่งบนโต๊ะแล้วเอาผู้เสียหายใส่เอวด้านหน้า ขาคาบเอวของจำเลย และจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเข้าออก อวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวมเล็กน้อยและไม่มีน้ำหรือเชื้ออสุจิของชายในช่องคลอดของผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงแสดงว่าจำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แม้ไม่อวัยวะเพศล่วงล้ำ แต่สำเร็จความใคร่ด้วยการจ่อดัน
จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายอายุ 9 ปี อวัยวะเพศของจำเลยเพียงเข้าไปจ่อดันอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วจำเลยก็สำเร็จความใคร่ อวัยวะเพศของจำเลยยังไม่ล่วงล้ำเข้าไปในช่องอวัยวะเพศของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา หาใช่จำเลยเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามข่มขืนเด็กหญิง: การกระทำแม้ไม่สำเร็จความใคร่ก็ถือเป็นความผิด
จำเลยอายุ 67 ปี เอาของลับทิ่มแทงเข้าไปในของลับของเด็กหญิงอายุ 4 ขวบเศษ ช้ำแดง เยื่อพรหมจารีด้านล่างฉีกขาด ไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอดได้ เป็นพยายามข่มขืนชำเรา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานพยายามข่มขืนฯ แม้ไม่ได้ขอในคำฟ้อง ศาลมีอำนาจลงโทษได้หากเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิด
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำของจำเลยผิดเพียงฐานพยายาม ที่ศาลลงโทษจำเลยฐานพยายาม ก็เป็นวิธีการเพื่อแบ่งส่วนลงโทษตามความผิดนั้น ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้ ไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานบุกรุกและกระทำอนาจาร: การประเมินลักษณะการกระทำเพื่อพิจารณาความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
จำเลยแอบเข้ามากอดหญิงผู้เสียหายและพูดขอกระทำชำเราผู้เสียหายร้องขึ้นจำเลยเอามือปิดปากผู้เสียหาย กดผู้เสียหายนอนลงที่พื้นเรือนแล้วขึ้นคร่อมเอาหัวเข่ากดต้นขาไว้ ขณะนั้นผู้เสียหายนอนหงายนุ่งกระโจมอกอยู่ จำเลยก้มลงกัดที่แก้มและถลกผ้าซิ่นขึ้นจากด้านล่าง ผู้เสียหายดิ้นอย่างแรงจนหลุดแล้ววิ่งร้องไห้ลงเรือนไปดังนี้ลักษณะการกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่อยู่ในวิสัยที่จำเลยจะกระทำชำเราผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา คงเป็นความผิดฐานกระทำอนาจารเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยกระทำผิดฐานพยายามข่มขืนตามประกาศคณะปฏิวัติ และหนังสือกระทรวงมหาดไทย
ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 กล่าวถึงบุคคลที่กระทำการรังแก ข่มเหงผู้อื่น หรือประกอบอาชีพในทางผิดกฎหมายบางจำพวกว่าเป็นบุคคลที่ประพฤติตนเป็นอันธพาลโดยมิได้จำแนกไว้โดยชัดเจนว่าบุคคลเหล่านั้นรังแกข่มเหงขู่เข็ญหรือรบกวนผู้อื่นเป็นลักษณะความผิดอะไรบ้าง ส่วนหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ 2498/2502 กล่าวถึงผู้กระทำผิดในคดีฉุดคร่าอนาจาร ล่อลวงข่มขืน และลวงไปฆ่าว่าเป็นภัยแก่สังคม ทั้งนี้ความผิดดังกล่าวก็มีลักษณะเป็นการรังแกข่มเหงผู้อื่นตามประกาศคณะปฏิบัติฉบับที่ 21 นั่นเอง จึงเท่ากับเป็นการชี้ถึงความผิดทั้ง 4 ประเภทโดยเฉพาะว่าเป็นการกระทำของบุคคลที่ประพฤติตนเป็นอันธพาล
ผู้เสียหายถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานพยายามข่มขืน กระทำชำเราและกระทำอนาจาร การกระทำของผู้เสียหายจึงเข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 และหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ 2498/2502 จำเลยจึงมีอำนาจควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนได้ไม่เกิน 30 วัน
ผู้เสียหายถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานพยายามข่มขืน กระทำชำเราและกระทำอนาจาร การกระทำของผู้เสียหายจึงเข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 และหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ 2498/2502 จำเลยจึงมีอำนาจควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนได้ไม่เกิน 30 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศที่ไม่สำเร็จ
จำเลยได้ลงมือกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 4 ปีเศษ แต่อวัยวะสืบพันธุ์ของจำเลยเพียงแต่จรดอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหาย มิได้ล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอด การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศที่ไม่ถึงขั้นสำเร็จความใคร่
จำเลยได้ลงมือกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง4 ปีเศษ แต่อวัยวะสืบพันธุ์ของจำเลยเพียงแต่จรดอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหาย มิได้ล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอด การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนและการสมคบเพื่อกระทำความผิดทางอาญา
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิงจนมีคนวิ่งมาร้องถาม ชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์แสดงเจตนาข่มขืนและการสมคบคิดเป็นตัวการในความผิดฐานพยายามข่มขืน
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิง จนมีคนวิ่งมาร้องถามชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้นขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอกทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไปพฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้นขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอกทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไปพฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย