พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดฟ้องคดีเนื่องจากจำเลยอยู่ในต่างประเทศ และพฤติการณ์นอกเหนือความสามารถในการบังคับได้
จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้อง โจทก์นำเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยที่บ้านโจทก์ซึ่งเป็นสำนักทำการห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลย และคนของโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทน ตลอดจนมีการปิดหมายนัดพิจารณาที่บ้านดังกล่าว ยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ทราบฟ้องและการพิจารณาของศาล
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียยังมิได้กลับประเทศไทย จึงไม่ทราบการถูกฟ้องและการพิจารณาของศาล ถือว่าได้กล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดโดยละเอียดชัดแจ้งแล้ว
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่าตามคำให้การที่จำเลยยื่นควรชนะโจทก์ได้ เพราะความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันยังไม่เลิก โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าหุ้นคืน ถือว่าได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว
พฤติการณ์ที่จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้องจนถึงวันที่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จำเลยก็ยังมิได้กลับ เมื่อจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง ก็ทำใบมอบอำนาจต่อกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ให้ผู้รับมอบอำนาจมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ ถือได้ว่ากรณีมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ (อ้างฎีกาที่ 42/2506)
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียยังมิได้กลับประเทศไทย จึงไม่ทราบการถูกฟ้องและการพิจารณาของศาล ถือว่าได้กล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดโดยละเอียดชัดแจ้งแล้ว
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่าตามคำให้การที่จำเลยยื่นควรชนะโจทก์ได้ เพราะความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันยังไม่เลิก โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าหุ้นคืน ถือว่าได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว
พฤติการณ์ที่จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้องจนถึงวันที่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จำเลยก็ยังมิได้กลับ เมื่อจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง ก็ทำใบมอบอำนาจต่อกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ให้ผู้รับมอบอำนาจมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ ถือได้ว่ากรณีมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ (อ้างฎีกาที่ 42/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดฟ้องคดีและการพิจารณาใหม่: พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้เนื่องจากจำเลยอยู่ในต่างประเทศ
จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้อง โจทก์นำเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยที่บ้านโจทก์ซึ่งเป็นสำนักทำการห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลย และคนของโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทน ตลอดจนมีการปิดหมายนัดพิจารณาที่บ้านดังกล่าวยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ทราบฟ้องและการพิจารณาของศาล
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียยังมิได้กลับประเทศไทยจึงไม่ทราบการถูกฟ้องและการพิจารณาของศาลถือว่าได้กล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดโดยละเอียดชัดแจ้งแล้ว
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่าตามคำให้การที่จำเลยยื่นควรชนะโจทก์ได้ เพราะความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันยังไม่เลิก โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าหุ้นคืนถือว่าได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว
พฤติการณ์ที่จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้องจนถึงวันที่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จำเลยก็ยังมิได้กลับเมื่อจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง ก็ทำใบมอบอำนาจต่อกงสุลใหญ่ ณเมืองกัลกัตตา ให้ผู้รับมอบอำนาจมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ถือได้ว่ากรณีมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ (อ้างฎีกาที่ 42/2506)
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียยังมิได้กลับประเทศไทยจึงไม่ทราบการถูกฟ้องและการพิจารณาของศาลถือว่าได้กล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดโดยละเอียดชัดแจ้งแล้ว
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่าตามคำให้การที่จำเลยยื่นควรชนะโจทก์ได้ เพราะความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันยังไม่เลิก โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าหุ้นคืนถือว่าได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว
พฤติการณ์ที่จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้องจนถึงวันที่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จำเลยก็ยังมิได้กลับเมื่อจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง ก็ทำใบมอบอำนาจต่อกงสุลใหญ่ ณเมืองกัลกัตตา ให้ผู้รับมอบอำนาจมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ถือได้ว่ากรณีมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ (อ้างฎีกาที่ 42/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่หลังถูกบังคับคดี: พฤติการณ์นอกเหนือควบคุมและระยะเวลาการยื่นคำร้อง
ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงขั้นออกคำบังคับคดี โจทก์ได้ใช้วิธีขอให้ศาลประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ให้จำเลยแก้คดี กำหนดวันสืบพยานและประกาศให้จำเลยทราบคำบังคับตลอดมา เมือจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ได้ขอให้บังคับคดียึดสวนยางของจำเลยอันอยู่ในหมู่เดียวกับภูมิลำเนาที่จำเลยอยู่ตามฟ้องโจทก์ จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่ได้ไปจากบ้านตามภูมิลำเนาที่ปรากฏอยู่ตามฟ้อง คงอยู่ที่ภูมิลำเนาของจำเลยตลอดมาจำเลยยังไม่ทราบคำบังคับของศาล เมื่อจำเลยถูกยึดทรัพย์ จำเลยไม่ทราบว่าถูกยึดและถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร บ้านจำเลยอยู่ไกลตัวเมืองห่างความเจริญ ไม่มีหนังสือพิมพ์จะอ่านหากตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนดังกล่าว ประกอบกับข้อที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นความจริงย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ และพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้ เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อจำเลยได้ไปยื่นคำขอตรวจและคัดสำเนาต่อศาลที่ได้ออกคำบังคับ ทราบแน่ว่าจำเลยถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร และศาลได้มีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต่อจากนั้นอีก 7 วันจำเลยได้ไปยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ จึงยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอพิจารณาใหม่เมื่อพฤติการณ์นอกเหนือควบคุมทำให้ไม่สามารถดำเนินการภายในกำหนดเวลาได้
ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงขั้นออกคำบังคับคดี โจทก์ได้ใช้วิธีขอให้ศาลประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ให้จำเลยแก้คดี กำหนดวันสืบพยานและประกาศให้จำเลยทราบคำบังคับตลอดมา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ได้ขอให้บังคับคดียึดสวนยางของจำเลยอันอยู่ในหมู่เดียวกับภูมิลำเนาที่จำเลยอยู่ตามฟ้องโจทก์ จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่ได้ไปจากบ้านตามภูมิลำเนาที่ปรากฏอยู่ตามฟ้อง คงอยู่ที่ภูมิลำเนาของจำเลยตลอดมาจำเลยยังไม่ทราบคำบังคับของศาล เมื่อจำเลยถูกยึดทรัพย์ จำเลยไม่ทราบว่าถูกยึดและถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร บ้านจำเลยอยู่ไกลตัวเมืองห่างความเจริญ ไม่มีหนังสือพิมพ์จะอ่านหากตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนดังกล่าว ประกอบกับข้อที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นความจริงย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้และพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้ เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อจำเลยได้ไปยื่นคำขอตรวจและคัดสำนวนต่อศาลที่ได้ออกคำบังคับ ทราบแน่ว่าจำเลยถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร และศาลได้มีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต่อจากนั้นอีก 7 วันจำเลยได้ไปยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ จึงยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด - พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ - การส่งคำบังคับ
ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปโดยจำเลยขาดนัด จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อปรากฎว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดและศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งภายหลังเมื่อศาลพิพากษาแล้ว ฉะนั้น จึงไม่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณา โจทก์ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้
การที่จำเลยไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่ทราบว่าตนถูกฟ้องและถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดีย่อมถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ จำเลยจึงอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
การที่จำเลยไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่ทราบว่าตนถูกฟ้องและถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดีย่อมถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ จำเลยจึงอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208