คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิจารณาโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 46 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุจำเลยสำคัญต่อการพิจารณาโทษคดีป่าไม้ ศาลอุทธรณ์รับฟังเอกสารยืนยันอายุได้ แม้ไม่ได้ยกขึ้นในชั้นศาล
ศาลชั้นต้นจดคำให้การรับสารภาพของจำเลยไว้ และจดอายุของจำเลย 19 ปี แล้วพิพากษาลงโทษจำเลย จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยอายุ 15 ปีเศษ ขอให้ลดมาตราส่วนโทษให้ด้วย ศาลอุทธรณ์รับฟังสำเนาภาพถ่ายเอกสารสูติบัตรและสำเนาทะเบียนบ้านที่จำเลยเสนอมาพร้อมอุทธรณ์ เชื่อว่าจำเลยมีอายุ 15 ปีเศษ เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้สอบถามจำเลยเรื่องทนายไว้ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยเรื่องทนายแล้วทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 970/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและรอการลงโทษ: โทษจำคุกระหว่างรอการลงโทษคดีก่อนไม่ถือว่าพ้นโทษ และการพิจารณาโทษจำคุกก่อนหน้าเพื่อรอการลงโทษ
จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุกในความผิดฐานเล่นการพนัน แต่ศาลให้รอการลงโทษจำคุกไว้ จำเลยมากระทำผิดฐานเล่นการพนันอีกในระหว่างที่ศาลรอการลงโทษจำคุกจะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา 3 ไม่ได้ เพราะเมื่อยังอยู่ในระหว่างที่ศาลรอการลงโทษจะเรียกว่าจำเลยพ้นโทษแล้วไม่ได้
ตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 บัญญัติว่า ไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อนนั้น หมายความว่า จำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกมาก่อนคดีที่ศาลกำลังจะพิพากษาคดีที่จำเลยได้รับโทษจำคุกนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำผิดก่อนคดีที่ศาลจะพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางอาญา – การรวมกระทงความผิดและการพิจารณาโทษ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ไม่มีบัญญัติถึงการรวมกระทงลงโทษ คงมีแต่ศาลจะลงโทษทุกกระทง หรือมิฉะนั้น ก็ลงโทษเฉพาะกระทงที่หนัก อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษอาญา: เลือกใช้บทกฎหมายที่มีโทษเบากว่าเพื่อประโยชน์แก่จำเลย
กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2484มาตรา 3 วางอัตราโทษให้จำคุกตลอดชีวิตหรือตั้งแต่ 1ปี ถึง 20 ปีและปรับตั้งแต่ 500-10,000 บาท ส่วนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาทดังนี้จะเห็นว่าทั้งอัตราโทษจำคุกขั้นสูงและขั้นต่ำของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 เป็นกฎหมายที่มีส่วนเป็นคุณแก่จำเลยเพราะอัตราโทษจำคุกเบากว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส รับสารภาพ ศาลพิจารณาโทษและให้รอการลงโทษ
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.256 โดยกล่าวว่าจำเลยที่ 1 ใช้ขวานทำร้ายจำเลยที่ 2 เป็นบาดแผลสาหัสประกอบด้วยทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน และส่งรายงานชัณสูตรบาดแผลมาด้วย จำเลยรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ ดังนี้ ศาลย่อมต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นสาหัสตาม ม. 256(8) และพิพากษาคดีไปได้เลย ตาม วิ.อาญา ม. 176
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี หากได้พิเคราะห์ถึงสภาพความผิดและเหตุผลต่าง ๆแล้วเห็นเป็นการสมควร ศาลจะให้รอการลงโทษจำเลยไว้ไม่เกิน 5 ปีก็ได้ ตาม ม. 41 (ที่แก้ไข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ ต้องพิจารณาโทษของความผิดฐานลหุโทษที่เคยกระทำ หากโทษสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด จะไม่สามารถเพิ่มโทษได้
ความผิดที่จะสงเคราะห์เป็นลหุโทษ อันจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้นั้น ต้องเป็นความผิดที่มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 100 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การพิจารณาโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดตามมาตรา 301 วรรคสาม
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสาม ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4)พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ โดยคำนึงถึงระยะเวลาห่างของการกระทำผิดและการวิวาท
จำเลยที่เคยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกายมาแล้ว 2 ครั้งครั้งหลังได้ถูกลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาอีก แต่ปรากฏว่าโทษครั้งก่อนๆ นั้นระยะเวลาห่างไกลกับโทษครั้งนี้ถึง20 ปีและ 16 ปี และความผิดครั้งนี้ก็เกิดจากการวิวาทกัน ดังนี้ ยังไม่ถือว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายและยังไม่ควรกักกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ ระยะเวลาระหว่างความผิดมีผลต่อการพิจารณา
จำเลยรับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ 45 วัน ต่อมา 6 ปีเศษต้องโทษฐานทำร้ายต่อทรัพย์และทำร้ายร่างราย 1 เดือน ต่อมา 13 ปีเศษจึงมาต้องโทษครั้งหลังฐานทำร้ายร่างกาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และมีระยะเวลาห่างไกลกันยังไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือนและให้ส่งไปกักกัน 3 ปีศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน ดังนี้ โจทก์ฎีกาในเรื่องขอให้ลงโทษกักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำที่มีระยะเวลาระหว่างความผิดนาน และความผิดไม่ร้ายแรง
จำเลยรับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ 45 วัน ต่อมา 6 ปีเศษต้องโทษฐานทำร้ายต่อทรัพย์และทำร้ายร่างกาย 1 เดือน ต่อมา 13 ปีเศษจึงมาต้องโทษครั้งหลังฐานทำร้ายร่างกาย ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆและมีระยะเวลาห่างไกลกัน ยังไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือนและให้ส่งไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน ดังนี้ โจทก์ฎีกาในเรื่องขอให้ลงโทษกักกันได้
of 5