คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องสมบูรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องละเมิดฐานขับรถประมาท: ฟ้องสมบูรณ์เมื่อระบุเหตุละเมิดและค่าเสียหายชัดเจน
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์โจทก์ ด้วยความประมาทขาดความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมี และจำเลยขับรถด้วยความเร็วเกินอัตรา พุ่งเข้าชนท้ายรถของโจทก์เสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์ กับระบุความเสียหายว่า ค่าซ่อมรถ 2,000 บาท ค่าพาหนะที่จ่ายระหว่างซ่อมรถ 12 วัน เป็นเงิน 1,200 บาท ค่าเสื่อมราคาของรถ 5,000 บาท ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ความผิดฐานเบียดบังทรัพย์: คำว่า 'โดยทุจริต' ไม่จำเป็นต้องระบุชัด ฟ้องสมบูรณ์ได้หากบรรยายพฤติการณ์แสดงเจตนาแสวงหาประโยชน์มิชอบ
โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ในหน้าที่ เพียงแต่การที่โจทก์มิได้ระบุคำว่า "โดยทุจริต" ไว้ในคำฟ้อง หาทำให้กลายเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ เสมอไปไม่เพราะถ้าโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่า จำเลยได้กระทำผิดมาในฟ้องประกอบด้วยข้อความอื่น ๆ ที่กฎหมายต้องการแล้ว ฟ้องนั้นก็สมบูรณ์
เรื่องนี้โจทก์บรรยายในฟ้องไว้ด้วยว่า จำเลยกระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะประโยคที่กล่าวอ้างในฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจเบียดบังเงินของทางราชการ ฯลฯ ไป ย่อมแสดงให้เห็นชัดถึงลักษณะของการกระทำโดยทุจริตของจำเลยแล้ว เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาล ความเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี ฟ้องสมบูรณ์
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบาลตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาล แม้ไม่ระบุความสำคัญของความเท็จ ฟ้องสมบูรณ์หากเป็นประเด็นสำคัญในคดี
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบานตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการโดย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จแม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากันดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม้แปรรูปโดยไม่ระบุว่าเป็นไม้หวงห้าม ฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73,74 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ดังนี้ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่ต้องระบุว่าเป็นไม้แปรรูปประเภทหวงห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องคดีไม้แปรรูปโดยไม่ระบุว่าเป็นไม้หวงห้าม ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484มาตรา 48, 73,74 และพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ดังนี้ ถือว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่ต้องระบุว่าเป็นไม้แปรรูปประเภทหวงห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานหลอกลวงประชาชนด้วยการอ้างวิทยาคมและขายน้ำมนต์ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยใช้อุบายหลอกลวง โดยเอาความเท็จมากล่าวว่าจำเลยสามารถใช้วิทยาอาคมทำน้ำธรรมดาให้เป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดให้หายได้ โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงให้พวกเจ้าทุกข์ส่งเงินให้แก่จำเลย"
และว่า "จำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าวว่า จำเลยมีความสามารถใช้วิทยาคมได้"
และว่า "จำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าน้ำมนต์ที่จำเลยทำสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดให้หายได้" เหล่านี้ย่อมชัดแจ้งตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่: ฟ้องชัดเจนว่าโจทก์เป็นเจ้าของ จำเลยเข้าครอบครอง จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของสวนยางมาบัดนี้จำเลยเข้าแย่งถือสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยดังนี้ฟ้องของโจทก์เข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทจำเลยเข้าแย่งถือสิทธิครอบครองจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องละเมิด: การระบุค่าเสียหายโดยรวมในฟ้องเพียงพอแล้ว รายละเอียดค่าใช้จ่ายนำสืบได้
ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดนั้น เมื่อได้กล่าวบรรยายในฟ้องว่า ต้องเสียหายอะไรบ้าง และประมาณค่าเสียหายรวมกันมาเป็นเงินจำนวนหนึ่งก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามมาตรา 172 วรรค 2 แล้วไม่จำต้องกล่าวถึงว่าเสียหายเป็นค่าอะไรเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียด ซึ่งจะต้องนำสืบกันในเวลาพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่ได้ระบุในฟ้อง ก็ถือเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ได้
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดกลอนหน้าต่างให้เปิดออกแล้วปีนป่ายเข้าทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ไป ดังนี้ถือได้ว่า เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลัก จำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 295(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294(1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า'เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป' ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นที่อยู่อาศัย (เคหสถาน) ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
of 4