พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3405/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆะกรรมจำนองที่ดินมรดก: ทายาทมีสิทธิฟ้องเพิกถอนได้
จำเลยที่ 1 เป็นสามีของนาง บ. ได้ซื้อที่ดินพิพาทในคดีนี้มาในระหว่างที่จำเลยที่ 1 อยู่กินเป็นสามีภริยากับนาง บ. เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีหนังสือสัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 กับนาง บ. ที่ทำไว้เป็นพิเศษก่อนสมรสอันจะให้เห็นว่าที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1 มาแสดงจึงต้องสันนิษฐานว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยที่ 1 กับนาง บ. เมื่อนาง บ. ถึงแก่กรรมที่ดินพิพาทแบ่งส่วนสินสมรสของจำเลยที่ 1 ออกแล้ว ส่วนของนาง บ. ย่อมเป็นกองมรดกตกได้แก่ทายาท โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมและเป็นทายาทผู้รับพินัยกรรมของนาง บ. กำลังฟ้องจำเลยที่ 1 ขอแบ่งทรัพย์มรดกของนาง บ. ซึ่งมีที่ดินพิพาทแปลงนี้รวมอยู่ด้วย จึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินพิพาท เมื่อจำเลยที่ 1 เอาที่ดินพิพาทดังกล่าวไปจำนองไว้กับจำเลยที่ 2 ในขณะที่กำลังพิพาทเป็นความเรื่องมรดกกับโจทก์อยู่โดยการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กับจำเลยที่ 2 อันเป็นโมฆะกรรม เช่นนี้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียก็ย่อมจะกล่าวอ้างขึ้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 133 โดยฟ้องขอให้เพิกถอนโมฆะกรรมนี้เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับบุตรบุญธรรมต้องได้รับความยินยอมจากภริยาตามกฎหมาย แม้จะไม่ได้อยู่กินร่วมกัน และการฟ้องเพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน
บุตรบุญธรรมย่อมเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ที่จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมเท่านั้น ไม่เป็นบุตรบุญธรรมของคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมด้วย แม้ผู้รับบุตรบุญธรรมถึงแก่ความตายการเป็นบุตรบุญธรรมก็ไม่ขาด
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมหลังจากใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัวแล้วแม้สามีภริยาซึ่งแต่งงานกันมาก่อนตามกฎหมายลักษณะผัวเมียก็ไม่มีสิทธิจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรส
การที่บุตรบุญธรรมยื่นขอรับบำเหน็จตกทอดของผู้รับบุตรบุญธรรมซึ่งถึงแก่ความตาย ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรม คู่สมรสนั้นมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมซึ่งไม่สมบูรณ์ได้ แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะมิได้บัญญัติให้ฟ้องเพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมไว้โดยตรง
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมหลังจากใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัวแล้วแม้สามีภริยาซึ่งแต่งงานกันมาก่อนตามกฎหมายลักษณะผัวเมียก็ไม่มีสิทธิจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรส
การที่บุตรบุญธรรมยื่นขอรับบำเหน็จตกทอดของผู้รับบุตรบุญธรรมซึ่งถึงแก่ความตาย ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรม คู่สมรสนั้นมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมซึ่งไม่สมบูรณ์ได้ แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะมิได้บัญญัติให้ฟ้องเพิกถอนการรับบุตรบุญธรรมไว้โดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องเพิกถอนเครื่องหมายการค้า แม้ไม่คัดค้านตามมาตรา 20 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า
มาตรา 20 แห่ง พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474บัญญัติเกี่ยวกับวิธีการที่จะยื่นคัดค้านต่อเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสิทธิฟ้องร้อง ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่คัดค้านต่อเจ้าพนักงานภายใน 3 เดือนตามมาตรา 20 นี้ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยให้เพิกถอนการจดทะเบียนเพราะใช้สิทธิไม่สุจริตแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันสัญญาประนีประนอมยอมความที่ถึงที่สุดแล้ว ไม่อาจฟ้องเพิกถอนได้ แม้อ้างถูกหลอกลวง
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีคำพิพากษาให้เป็นไปตามสัญญาจนคดีถึงที่สุดแล้ว คู่ความจะมาฟ้องใหม่ขอให้ทำลายเสียไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1477/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยและการมีสิทธิฟ้องเพิกถอนคำสั่งตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่ยินยอมให้ผู้อาศัยในประเทศ
คนที่มีสัญชาติไทย แต่ไปอยู่ต่างประเทศเสียตั้งแต่เล็กๆครั้นโตขึ้นจึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ยินยอมให้ผู้นั้นอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถือว่าเป็นคนต่างด้าว ดังนี้ ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมฟ้องเพิกถอนการซื้อขายที่ดินที่ผู้จัดการทำผิดได้ แม้โรงเรียนไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
โจทก์และพวกอิสลามิกชนในจังหวัดหนึ่งได้ร่วมกันบริจาคเงินซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ทำเป็นโรงเรียนสำหรับชาวอิสลามิคชนเข้าเรียน และได้ตั้งผู้จัดการจัดการโรงเรียนสืบต่อกันไป ดังนี้ถือว่าผู้จัดการเหล่านั้นเป็นตัวแทนโจทก์และพวก ฉะนั้นเมื่อผู้จัดการคนหนึ่งทำผิดโดยเอาที่ดินแปลงนี้ไปยกให้แก่บุตร แล้วบุตรโอน+ให้คนภายนอกเสีย เช่นนี้โจทก์แต่ผู้เดียวซึ่งเป็นเจ้าของรวมด้วยย่อมมีอำนาจฟ้องในนามของตนเอง ขอให้เพิกถอนสัญญาขายดังกล่าวเสีย หรือขอให้ใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน เพื่อจะได้จัดซื้อที่ดินจัดตั้งเป็นโรงเรียน+โรงเรียนเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฟ้องเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินต้องมีกรรมสิทธิร่วม หากไม่มีสิทธิฟ้องย่อมไม่มีผล
ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินนั้นด้วยการซื้อขายทำกันไม่สมบูรณ์เพราะตนหรือเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งไม่ ได้เป็นผู้ขาย หากแต่จำเลยคนหนึ่งทำใบมอบฉันทะปลอมขึ้นว่าเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งนั้นมอบฉันทะให้จำเลยขายแก่จำเลยอีก คนหนึ่งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องใบมอบฉันทะที่ให้จำเลยขายนั้น เป็นใบมอบฉันทะที่แท้จริงและผู้มอบฉันทะก็เป็นเจ้าของที่ดินแต่ผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ซึ่งกำหนดลงเป็นราคาเงินมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเพิกถอนการขายฝาก: เจ้าหนี้ทราบการขายฝากก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ฟ้องหลังกำหนดอายุความ
ไนเรื่องขอไห้เพิกถอนการฉ้อกลการขายฝากและการโอน จำเลยต่อสู้ว่าเจ้าหนี้ซาบการขายฝากก่อนครบกำหนดไถ่ถอน โจทมาฟ้องคดีหลังจากครบกำหนดไถ่ถอน ล่วงเลยเวลามาหลายปีดังนี้ ถือว่าจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้แล้ว จำเลยไม่ต้องเจาะจงว่าคดีขาดอายุความ 1 ปีตามมาตรา 240
อายุความซึ่งลูกหนี้ยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้นั้น ย่อมยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ด้วย
อายุความซึ่งลูกหนี้ยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้นั้น ย่อมยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการฟ้องเพิกถอนการซื้อขายฝากและการโอนสิทธิ
ในเรื่องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลการขายฝากและการโอน จำเลยต่อสู้ว่าเจ้าหนี้ทราบการขายฝากก่อนครบกำหนดไถ่ถอน โจทก์มาฟ้องคดีหลังจากครบกำหนดไถ่ถอน ล่วงเลยเวลามาหลายปีดังนี้ ถือว่าจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้แล้ว จำเลยไม่ต้องเจาะจงว่าคดีขาดอายุความ 1 ปีตามมาตรา 240
อายุความซึ่งลูกหนี้ยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้นั้น ย่อมยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ด้วย
อายุความซึ่งลูกหนี้ยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้นั้น ย่อมยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ด้วย