คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยกคำร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 46 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในเหตุฉุกเฉิน: คำสั่งศาลชั้นต้น/อุทธรณ์เป็นที่สุด โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 267 เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอหรือยกเลิกคำสั่งคุ้มครองในเหตุฉุกเฉินแล้วไม่ว่าคำสั่งเช่นนี้จะเป็นคำสั่งของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ก็ตาม คำสั่งเช่นนี้ให้เป็นที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งที่ขาดรายละเอียดชัดเจน ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบรรยายว่า ในการตรวจนับคะแนน ถ้าบัตรนั้นเป็นคะแนนของผู้ร้องกรรมการก็จงใจตัดสินให้เป็นบัตรเสีย แต่ถ้าบัตรนั้นเป็นคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้ง ถึงแม้จะเป็นบัตรเสีย กรรมการก็จงใจนับให้เป็นบัตรดี ซึ่งบัตรเสียบัตรดีเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บัตร มิได้กล่าวว่าบัตรเสียนั้นมีลักษณะอย่างไร เสียอย่างไร กรรมการนับบัตรเสียเป็นบัตรดีจำนวนเท่าไร นับบัตรดีเป็นบัตรเสียจำนวนเท่าไรและที่ว่าเพิ่มคะแนนเลือกตั้ง ใช้สิทธิลงคะแนนแทนผู้อื่นจงใจนับคะแนนให้ผิดพลาดจากความเป็นจริง ก็ไม่ได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนนและเสมียนคะแนน ผู้ควบคุมหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดเพิ่มคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครคนใดจำนวนเท่าใดใช้สิทธิลงคะแนนแทนผู้อื่นนั้นเป็นใครบ้าง และที่ว่าจงใจนับคะแนนให้ผิดจากความจริง ผิดไปเป็นจำนวนเท่าใด จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งให้เงินแก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ตนเอง มิได้กล่าวว่าให้เงินแก่ผู้ใด ในหน่วยเลือกตั้งใดบ้างและที่ว่าผู้ได้รับเลือกตั้งจัดยานพาหนะ คือรถยนต์ให้แก่ผู้เลือกตั้งโดยไม่เสียค่าพาหนะนั้น ไม่ทราบว่ายานพาหนะจำนวนมากน้อยเพียงใด ผู้เลือกตั้งที่รับไปลงคะแนนมีจำนวนมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงผลของการเลือกตั้งหรือไม่จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าผู้ได้รับเลือกตั้งได้ให้คำมั่นสัญญาแก่บรรดาเจ้าของรถยนต์โดยสารร่วมของบริษัทขนส่งจำกัด สาย 15 ซึ่งวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดอ่างทองกับกรุงเทพมหานครว่า จะติดต่อวิ่งเต้นกับทางราชการไม่ให้รถยนต์โดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด สาย 99 ซึ่งวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับกรุงเทพมหานครวิ่งรับคนโดยสารที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกต่อไป เพราะจะทำให้รถยนต์โดยสารสาย 15 ขาด ผลประโยชน์ เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถยนต์โดยสารเหล่านั้นลงคะแนนเลือกตั้งให้นั้นตามคำร้องมิได้กล่าวว่าจูงใจใครบ้างที่ว่าเป็นเจ้าของรถยนต์โดยสารจึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าผู้ได้รับเลือกตั้งติดต่อเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในเขตอำเภอป่าโมกอำเภอโพธิ์ทอง ที่มีหน่วยเลือกตั้งตั้งอยู่หลายสิบวัดรับว่าจะให้เงินแก่วัดเหล่านั้นเพื่อขอให้เจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัดนั้น ๆ จูงใจให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้ง ตามคำร้องของผู้ร้องไม่ทราบว่าจะให้เงินแก่วัดใด จำนวนเท่าใด และเพียงแต่รับว่าจะให้เงินแก่วัดเหล่านั้น ไม่ทราบว่าวัดไหนหรือคณะกรรมการวัดไหนตกลงจะช่วยเหลือบ้างหรือมีการช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องแสดงข้อเท็จจริงชัดเจนและครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิฉะนั้นศาลจะยกคำร้อง
การพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น มาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ฉะนั้น คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
คำร้องบรรยายว่าได้มีการให้และรับว่าจะให้ทรัพย์สินของผลประโยชน์แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหลายท้องที่ เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้ได้รับเลือกตั้ง จัดยานพาหนะให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปกลับยังหน่วยเลือกตั้งโดยไม่เสียค่าโดยสารหรือค่าจ้าง และทำการโฆษณาภายในเขตปริมณฑลเลือกตั้ง โดยมิได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าทรัพย์สินและผลประโยชน์นั้นคืออะไร ได้ให้หรือรับว่าจะให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนประมาณเท่าใด ในหน่วยเลือกตั้งใด การจัดยานพาหนะให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการโฆษณาภายในเขตปริมณฑลเลือกตั้งได้ กระทำที่หน่วยเลือกตั้งใด เป็นเหตุให้ผลการลงคะแนนเปลี่ยนแปลงเพียงใดหรือไม่จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่ามีการใช้บัตรประจำตัวประชาชนและบัตรลงคะแนนปลอมใช้ใบแทนบัตรประจำตัวของผู้อื่น อ่านหมายเลขบัตรผิด นับจำนวนบัตรไม่ครบและไม่ตรงกับหมายเลขบัตร โดยมิได้บรรยายในคำร้องให้ชัดเจนว่าได้กระทำที่หน่วยเลือกตั้งใดเป็นจำนวนประมาณเท่าใด จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งแนะนำและจูงใจผู้ลงคะแนนให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตนสนับสนุน โดยมิได้บรรยายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งใด และแนะนำจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลขอะไรจำนวนประมาณเท่าใด เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า นายอำเภอได้แต่งตั้งผู้ไม่มีตัวตนเป็นกรรมการตรวจคะแนนประจำหน่วย โดยมิได้บรรยายว่าเป็นหน่วยตั้งใด และผู้ที่อ้างว่าไม่มีตัวตนนั้นเป็นเหตุให้กรรมการตรวจคะแนนมีจำนวนไม่ครบห้าคนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสมาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 หรือไม่ จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้งจัดให้บุคคลอื่นลงคะแนนเลือกตั้งแทนผู้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ร่วมมือกันเจ้าหน้าที่เก็บบัตรสำคัญที่ใช้เป็นหลักฐานในการลงคะแนนโดยนำมากรอกในแบบพิพม์ ทั้ง ๆ ที่ผู้มีสิทธิลงคะแนนมิได้ลงคะแนน ลงบัตรดังกล่าวโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งมิได้มาลงคะแนน มิได้ลงรายละเอียดของบัตรสำคัญของผู้ลงคะแนน เป็นการผิดระเบียบและไม่สุจริต คณะกรรมการตรวจคะแนนอ่านและนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง โดยอ่านคะแนนของผู้ร้องให้ผิดความจริง คะแนนที่คณะกรรมการตรวจคะแนนประกาศในหน่วยเลือกตั้งหลายหน่วยไม่ตรงกับจำนวนบัตรในหีบเลือกตั้ง และจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่คณะกรรมการตรวจคะแนนบันทึกไว้ ไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งในหีบบัตรเลือกตั้ง โดยมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้แจ้งชัดว่าการกระทำดังกล่าวได้กระทำที่หน่วยเลือกตั้งใด และการกระทำที่อ้างว่ามิชอบนั้นเป็นเหตุให้คะแนนของผู้สิทธิรับเลือกตั้งผู้ใดผิดพลาดอย่างใด จำนวนประมาณเท่าใด และถึงแก่จะเป็นเหตุให้คะแนนของผู้รองเพิ่มมากน้อยขึ้นเพียงใด จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีอนาถาและการสั่งรับฟ้อง การไม่มาศาลไม่ถือเป็นการทิ้งฟ้อง แต่ให้ยกคำร้องอนาถา
โจทก์ยื่นฟ้องและยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลสั่งรับคำร้องนั้นและนัดไต่สวนคำร้อง ครั้นถึงวันนัดโจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ดังนี้ ศาลจะถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องและสั่งให้จำหน่ายคดีเสียย่อมไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เพราะในชั้นนี้ศาลเพียงแต่สั่งรับคำร้องขอดำเนินคดีอนาถา และสั่งให้ไต่สวนคำร้องเท่านั้น ยังมิได้สั่งรับคำฟ้องไว้เพียงแต่ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีพยานมาให้ไต่สวนให้ได้ความว่าโจทก์เป็นคนอนาถาจริง จึงต้องยกคำร้องเสีย หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในเวลาที่ศาลจะกำหนดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2149/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนไต่สวน: เมื่อข้อพิพาทยังไม่ชัดเจน ศาลมีอำนาจยกคำร้องได้โดยไม่ต้องไต่สวน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 255 วรรคแรก เป็นบทบัญญัติบังคับไว้ว่า ศาลจะสั่งอนุญาตตามคำร้องขอ โดยไม่ไต่สวนฟังข้อเท็จจริงให้ได้ความตามอนุมาตรา (1)(2)ของมาตรา 255 เสียก่อนไม่ได้ ส่วนในกรณีที่ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุสมควรก็ดี ไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองตามคำขอมาใช้ก็ดี ศาลย่อมมีอำนาจสั่งยกคำร้องเสียได้โดยหาจำต้องไต่สวนฟังพยานผู้ร้องขอเสียก่อนไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินพิพาทห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าเป็นที่ของจำเลย ขอให้ห้ามโจทก์เกี่ยวข้องเป็นกรณีที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการครอบครองที่พิพาทคู่ความยังโต้แย้งฟ้องและฟ้องแย้งขอบังคับมิให้อีกฝ่ายหนึ่งเกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างสืบพยานหลักฐานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนี้อยู่ จึงยังไม่มีเหตุสมควร และไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองตามคำขอของโจทก์ ที่ขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยและบริวารขัดขวางการครอบครองของโจทก์อ้างว่าเป็นการกระทำซ้ำในเรื่องที่ถูกฟ้องไว้ก่อนมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 มาใช้ ศาลชอบที่จะสั่งยกคำร้องของโจทก์เสียได้โดยไม่จำต้องไต่สวนพยานของโจทก์ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบเจ้าหนี้ในการขอเฉลี่ยทรัพย์สิน - หากไม่สืบพยาน ศาลยกคำร้องได้
ผู้ร้องขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์อ้างว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกโจทก์คัดค้านว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นเป็นหนี้สมยอมกันและจำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นซึ่งผู้ร้องอาจเอาชำระหนี้ได้ ประเด็นตกหน้าที่ผู้ร้องต้องนำสืบก่อนว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องจะบังคับเอาได้อีกแล้วถ้าผู้ร้องไม่สืบพยาน ศาลยกคำร้องได้ โดยไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444-445/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องสอดเป็นจำเลยร่วม: การขัดแย้งกับคำให้การของจำเลยอื่นทำให้คำร้องสอดถูกยก
ในคดีที่โจทก์จำเลยพิพาทกันแย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินสามแปลงผู้ร้องร้องสอดเข้ามาว่า ที่ดินทั้งสามแปลงนี้เป็นของตนกึ่งหนึ่งขอเข้าเป็นจำเลยร่วมเพื่อสู้กับโจทก์เป็นการรักษาสิทธิของตนเช่นนี้ เป็นการร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (2) ดังนั้นเมื่อข้ออ้างในคำร้องสอดขัดกับคำให้การของจำเลยอื่น ๆ ศาลชอบที่จะสั่งให้ยกคำร้องสอดเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1651-1655/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผลการเลือกตั้ง: ข้อกล่าวหาต้องชัดเจนและมีหลักฐานสนับสนุน มิเช่นนั้นศาลจะยกคำร้อง
คำบรรยายคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนที่เคลือบคลุมและไม่เคลือบคลุม
ตามกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนพ.ศ. 2511 ข้อ 15 ระบุไว้เพียงว่า ให้เอากระดาษปิดทับช่องใส่บัตรเลือกตั้งโดยมีลายมือชื่อคณะกรรมการตรวจคะแนนกำกับไว้บนกระดาษนั้นด้วยมีได้ระบุว่าต้องปิดกระดาษรอบหีบบัตรเลือกตั้งระหว่างฝาหีบกับตัวหีบจดกันดังนั้น แม้จะไม่มีการปิดกระดาษรอบหีบบัตรเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่เหตุที่จะอ้างเป็นข้อคัดค้านการเลือกตั้ง
ผู้ร้องคัดค้านการเลือกตั้งระบุในคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนและมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตจังหวัดซึ่งมีการเลือกตั้งเมื่อมีผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านจะต้องนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1901/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผลการเลือกตั้ง: คำร้องเคลือบคลุมทำให้ศาลยกคำร้อง
คำบรรยายคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนที่เคลือบคลุมและไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์ซ้ำ: ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์ซ้ำได้ แม้โจทก์ไม่ได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเถียง
ศาลสั่งยกคำร้องขัดทรัพย์รายหนึ่งเสร็จไปแล้วผู้ร้องร้องขัดทรัพย์รายนั้นซ้ำอีกไม่ได้ แม้โจทก์ไม่ยกความข้อนี้ขึ้นเถียงศาลอุทธรณ์ก็ยกขึ้นพิพากษาเองได้
of 5