พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2365/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับมอบงานก่อสร้างแล้ว ยึดหน่วง/หักค่าเสียหายได้ แต่ไม่มีสิทธิเบี้ยปรับหากไม่สงวนสิทธิ
โจทก์ทวงถามจำเลยให้ส่งมอบงานพ้นกำหนดเวลาที่กำหนดในสัญญาและได้เข้าอยู่ในบ้านพิพาทขณะที่จำเลยขนย้ายออกจากบ้านพิพาทถือได้ว่าโจทก์รับมอบงานจากจำเลยแล้ว โจทก์มิได้กล่าวสงวนสิทธิเรียกเอาค่าปรับฐานผิดสัญญาไว้ จึงไม่มีสิทธิเรียกเบี้ยปรับจากจำเลย เมื่องานก่อสร้างของจำเลยล่าช้าเกินกำหนดเวลาตามสัญญาและมีความชำรุดบกพร่อง โจทก์ชอบที่จะยึดหน่วงสินจ้างไว้จนกว่าจำเลยจะซ่อมแซมเสร็จแต่เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาและเข้าอยู่ในบ้านพิพาทก็ชอบที่จะหักเป็นค่าซ่อมแซมความเสียหายตามควรค่าแห่งการนั้นได้หากมีค่าสินจ้างเหลือต้องคืนให้จำเลยไม่ชอบที่โจทก์จะไม่ชำระค่าสินจ้างเสียเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4664/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง: การชำระค่างานที่ทำเสร็จแล้ว แม้มีข้อตกลงยึดหน่วงได้ แต่ต้องหักลบกับค่าเสียหายจริงเท่านั้น
โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายผิดสัญญาฟ้องเรียกเอาค่าการงานที่โจทก์ได้ทำให้จำเลยไปแล้ว และการงานนั้นตกได้แก่จำเลยโดยไม่อาจทำให้ คืนสภาพเดิมได้ แม้จะมีข้อสัญญาให้การงานที่ทำไปแล้วตกเป็นของ จำเลยโดยโจทก์ไม่อาจเรียกค่าทดแทนได้ แต่สัญญาข้อดังกล่าวกำหนด ไว้เพื่อเอาการงานที่ทำไปเป็นการประกันหรือชดใช้ค่าเสียหายของ จำเลยส่วนหนึ่งอันจะพึงมีในกรณีที่โจทก์ผิดสัญญาและจำเลยได้บอก เลิกสัญญาแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ หรือให้การโดยชัดแจ้งว่าจำเลยได้รับความเสียหายเกินกว่าค่าของ การงานที่โจทก์ทำไป ทั้งยังให้การรับว่าค่าการงานที่โจทก์ทำไปตก ได้แก่จำเลยคิดเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยจึงมีหน้าที่ชำระเงิน ในส่วนที่จำเลยได้รับประโยชน์จากค่าการงานของโจทก์ตามที่จำเลย ให้การรับ มาจะยึดหน่วงสินจ้างไว้ทั้งสิ้นหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5896/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงการส่งมอบสินค้า จนกว่าจะได้รับชำระค่าจ้างในสัญญาต่างตอบแทน
โจทก์ว่าจ้างจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้าผิดแบบ โจทก์ก็ส่งเสื้อไปให้จำเลยทำการแก้ไขโดยขยายระยะเวลาให้จำเลยส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ส่งไปให้แก้ไข จำเลยได้แก้ไขเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ส่งกลับคืนไปให้โจทก์ภายในกำหนด 10 วัน เพราะโจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างตัดเย็บเสื้อให้แก่จำเลยดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะจำเลยมีสิทธิไม่ยอมส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ได้ จนกว่าโจทก์จะชำระสินจ้างหรือขอปฏิบัติการชำระสินจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5896/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงการส่งมอบงานช่างจนกว่าจะได้รับค่าจ้างตามสัญญาต่างตอบแทน
โจทก์ว่าจ้างจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้าผิดแบบ โจทก์ก็ส่งเสื้อไปให้จำเลยทำการแก้ไขโดยขยายระยะเวลาให้จำเลยส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ส่งไปให้แก้ไข จำเลยได้แก้ไขเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ส่งกลับคืนไปให้โจทก์ภายในกำหนด 10 วัน เพราะโจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างตัดเย็บเสื้อให้แก่จำเลยดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะจำเลยมีสิทธิไม่ยอมส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ได้ จนกว่าโจทก์จะชำระสินจ้างหรือขอปฏิบัติการชำระสินจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5063/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบรถเพื่อตีชำระหนี้ ตกลงราคากันไม่ได้ จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถไว้เป็นประกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบรถแทรกเตอร์ จำนวน 1 คันไปจากโจทก์ จำเลยให้การว่าโจทก์นำรถแทรกเตอร์ มามอบให้จำเลยเพื่อตีราคาชำระหนี้ แต่โจทก์จำเลยตกลงราคากันไม่ได้ จำเลยจึงยึดหน่วงรถไว้เป็นหลักประกัน ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์ได้นำรถแทรกเตอร์ ไปมอบให้แก่จำเลยเพียงคันเดียวและครั้งเดียว จำเลยเข้าใจดีแล้วว่ารถแทรกเตอร์ คันที่ได้รับมอบจากโจทก์เป็นรถคันพิพาทและได้ให้การต่อสู้คดีอย่างถูกต้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์นำรถพิพาทไปตีชำระหนี้เงินกู้แก่จำเลย แต่ตกลงราคารถกันไม่ได้ ดังนี้ จำเลยต้องคืนรถพิพาทให้โจทก์ จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถไว้เป็นประกัน เพราะไม่มีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยรถคันพิพาทที่จำเลยครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 241
โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยส่งมอบรถพิพาทคืนให้โจทก์ จำเลยให้การว่าโจทก์นำรถพิพาทมาตีชำระหนี้แก่จำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้ไม่ได้ เพราะการหักกลบลบหนี้กับเรื่องนำทรัพย์มาตีชำระหนี้เป็นคนละเรื่องกัน เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้เรื่องการหักกลบลบหนี้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้
โจทก์นำรถพิพาทไปตีชำระหนี้เงินกู้แก่จำเลย แต่ตกลงราคารถกันไม่ได้ ดังนี้ จำเลยต้องคืนรถพิพาทให้โจทก์ จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถไว้เป็นประกัน เพราะไม่มีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยรถคันพิพาทที่จำเลยครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 241
โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยส่งมอบรถพิพาทคืนให้โจทก์ จำเลยให้การว่าโจทก์นำรถพิพาทมาตีชำระหนี้แก่จำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้ไม่ได้ เพราะการหักกลบลบหนี้กับเรื่องนำทรัพย์มาตีชำระหนี้เป็นคนละเรื่องกัน เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้เรื่องการหักกลบลบหนี้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5063/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบรถเพื่อตีราคาชำระหนี้ ตกลงราคากันไม่ได้ จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถไว้เป็นประกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบรถแทรกเตอร์ จำนวน 1 คันไปจากโจทก์ จำเลยให้การว่าโจทก์นำรถแทรกเตอร์ มามอบให้จำเลยเพื่อตีราคาชำระหนี้ แต่โจทก์จำเลยตกลงราคากันไม่ได้ จำเลยจึงยึดหน่วงรถไว้เป็นหลักประกัน ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์ได้นำรถแทรกเตอร์ ไปมอบให้แก่จำเลยเพียงคันเดียวและครั้งเดียว จำเลยเข้าใจดีแล้วว่ารถแทรกเตอร์ คันที่ได้รับมอบจากโจทก์เป็นรถคันพิพาทและได้ให้การต่อสู้คดีอย่างถูกต้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์นำรถพิพาทไปตีชำระหนี้เงินกู้แก่จำเลย แต่ตกลงราคารถกันไม่ได้ ดังนี้ จำเลยต้องคืนรถพิพาทให้โจทก์ จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถไว้เป็นประกัน เพราะไม่มีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยรถคันพิพาทที่จำเลยครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 241 โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยส่งมอบรถพิพาทคืนให้โจทก์ จำเลยให้การว่าโจทก์นำรถพิพาทมาตีชำระหนี้แก่จำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้ไม่ได้ เพราะการหักกลบลบหนี้กับเรื่องนำทรัพย์มาตีชำระหนี้เป็นคนละเรื่องกัน เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้เรื่องการหักกลบลบหนี้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3187/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงและการบังคับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหลังผู้ขายเสียชีวิต แม้ฟ้องเกิน 1 ปี
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับผู้ตายและได้ชำระเงินให้ผู้ตายครบถ้วนแล้วผู้ตายมอบโฉนดที่ดินพิพาททั้งหมดและหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการโอนที่ดินทั้งหมดให้โจทก์ ทั้งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิยึดหน่วงในที่ดินพิพาทไว้จนกว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ แม้ผู้ตายจะตายเกิน 1 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องคดี ก็ไม่ห้ามโจทก์ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงจะใช้สิทธิบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 189 และ 241 ให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายโอนที่ดินพิพาทให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4519/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงทรัพย์สินจากการซื้อขายผ่อนชำระ: แม้กรรมสิทธิ์โอนแล้ว ผู้ขายยังมีสิทธิยึดหน่วงได้จนกว่าจะชำระหนี้ครบ
โจทก์ซื้อรถคันพิพาทจากจำเลยที่ 1 โดยชำระราคาบางส่วนและได้กรรมสิทธิในรถคันพิพาทแล้ว แต่โจทก์ยินยอมให้จำเลยที่ 1 ยึดรถไปเพราะโจทก์ยังชำระราคารถคันดังกล่าวไม่ครบตามสัญญา และหนี้นั้นถึงกำหนดชำระแล้วจำเลยที่ 1 ซึ่งครอบครองรถคันพิพาทอยู่โดยชอบด้วยกฎหมายย่อมมีสิทธิยึดหน่วงรถคันดังกล่าวไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 และมาตรา 468
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2157/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงผ้า: ผู้รับจ้างย้อมมีสิทธิยึดหน่วงจนกว่าจะได้รับค่าจ้าง แม้ผ้าจะเป็นของผู้อื่น
โจทก์ซื้อผ้าจากบริษัท ส.โดยบริษัทส. ต้องนำผ้าไปว่าจ้างจำเลยย้อมก่อนแล้วจึงส่งมอบแก่โจทก์และบริษัทส. เป็นผู้ชำระค่าจ้างย้อมดังนี้เมื่อไม่มีผู้ใดชำระค่าจ้างย้อมให้จำเลย แม้ว่าผ้าจะเป็นของโจทก์ จำเลยก็ชอบที่จะใช้สิทธิยึดหน่วงผ้าไว้จนกว่าจะได้รับชำระค่าจ้าง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยส่งมอบผ้าแก่โจทก์ โดยที่ยังไม่มีผู้ใดชำระหนี้ค่าย้อมผ้าอันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงเงินสะสม: เงินสะสมกับค่าเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อไม่เกี่ยวข้องกัน จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วง
เงินสะสมที่โจทก์มีสิทธิได้รับจากจำเลยกับค่าเสียหายของจำเลยอันเนื่องจากการที่โจทก์ปล่อยสินเชื่อเกินอำนาจทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งมิใช่ทรัพย์สินของโจทก์ที่จำเลยครองอยู่โดยมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยทรัพย์สินนั้น จำเลยหามีสิทธิยึดหน่วงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 เมื่อหักกลบลบหนี้ไม่ จำเลยต้องจ่ายเงินสะสมแก่โจทก์เมื่อเลิกจ้าง