คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รบกวนการครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 38 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่สมบูรณ์และการปฏิเสธความผิดในคดีบุกรุกและรบกวนการครอบครองทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรและด่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยให้การว่าได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดขอยืมเงิน เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันสมควรอันเป็นคำให้การปฏิเสธและเมื่อจำเลยให้การต่อไปว่า ไม่มีเงินต่อสู้คดีขอรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลแขวงชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ การกล่าวอ้างเป็น 'แผงลอย' ไม่ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์
การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยรบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยจะกระทำการนั้นจริงก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ ฟ้องไม่ชัดแจ้งทรัพย์เป็นอะไร ศาลต้องยกฟ้อง
การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยรบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยจะกระทำการนั้นจริงก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองนาเช่าและการรบกวนการครอบครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
แม้จะได้ความว่าการเช่านาพิพาทไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อกัน แต่การที่เจ้าของนายินยอมให้ใช้นาเพื่อทำนาโดยได้รับค่าเช่านา ก็ถือได้ว่าเป็นการเช่านาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 เมื่อผู้เสียหายเช่านาพิพาทจากจำเลยผู้เสียหายจึงเป็นผู้ครอบครองนาพิพาท การที่จำเลยเข้าไปไถหว่านข้าวในนาพิพาท จึงเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองผู้เสียหาย เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินเช่า การรบกวนการครอบครอง และอำนาจฟ้องขับไล่
โจทก์เป็นผู้เช่าและรับมอบที่พิพาทที่เช่ามาจากผู้ให้เช่าแล้ว การเช่ามีกำหนดคราวละ 1 ปี โจทก์ได้ต่อสัญญาและชำระค่าเช่าทุกปีตลอดมา แม้โจทก์ยังไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาท แต่ได้ให้จำเลยอาศัยปลูกกระต๊อบอยู่ ต่อมาจำเลยรื้อกระต๊อบปลูกเป็นอาคารห้องแถวไม่ถาวรในที่พิพาทโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ ย่อมถือได้ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทแล้ว เมื่อจำเลยปลูกห้องแถวไม้ในที่พิพาทหลังจากโจทก์มีสิทธิครอบครองโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ ก็ย่อมเป็นการรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินเช่าและการรบกวนการครอบครองเมื่อปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์เป็นผู้เช่าและรับมอบที่พิพาทที่เช่ามาจากผู้ให้เช่าแล้ว การเช่ามีกำหนดคราวละ 1 ปี โจทก์ได้ต่อสัญญาและชำระค่าเช่าทุกปีตลอดมา แม้โจทก์ยังไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาท แต่ได้ให้ จำเลยอาศัยปลูกกระต๊อบอยู่ ต่อมาจำเลยรื้อกระต๊อบปลูกเป็น อาคารห้องแถวไม้ถาวรในที่พิพาทโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ ย่อมถือได้ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทแล้ว เมื่อจำเลยปลูก ห้องแถวไม้ในที่พิพาทหลังจากโจทก์มีสิทธิครอบครองโดยมิได้รับ ความยินยอมจากโจทก์ ก็ย่อมเป็นการรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์, ขโมยรถ, และความผิดต่อทรัพย์สิน
จ. ใช้จำเลยที่ 1 ไปเอารถยนต์ที่ซื้อจากโจทก์ร่วม 2 คัน จำเลยทั้งสองพบโจทก์ร่วมและภริยานอกบ้าน จำเลยที่ 1 ฉุดโจทก์ร่วมลงจากรถแล้วจำเลยทั้งสองเดินตามโจทก์ร่วมเข้าไปในบ้านของโจทก์ร่วม โดยพลการจำเลยที่ 1 ได้งัดและเอาฆ้อนทุบกระจกหูช้างรถอีกคันหนึ่งงัดแงะสายยูหรือบานพับที่ใส่กุญแจออกจากบานประตูใหญ่ เปิดประตูบ้านแล้วจำเลยทั้งสองช่วยกันเข็นรถออกไป ดังนี้เป็นการที่จำเลยเข้าไปกระทำการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมโดยปกติสุขตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 และมีความผิดตามมาตรา 365(2) กับมีความผิดตามมาตรา 309 และ 358 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์: สิทธิการครอบครองยังคงอยู่แม้มีคำพิพากษาขับไล่ หากยังไม่มีการบังคับคดี
โจทก์เช่าบ้านของ ส.ภรรยาจำเลยที่ 1 แล้วต่อมาถูก ส.ฟ้องขับไล่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ขับไล่โจทก์ออกจากบ้านนั้น โจทก์ฎีกาและศาลฎีกายังไม่มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับ ขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ไปต่างจังหวัดและใส่กุญแจบ้านพิพาทไว้โดยฝากให้เพื่อนบ้านช่วยดูแลให้จำเลยที่ 1 ได้ให้จำเลยที่ 2 ตัดหูร้อยกุญแจบ้านออก และให้จำเลยที่ 2 เข้าไปอยู่อาศัยในบ้านดังกล่าว ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าหลังจากอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ขับไล่โจทก์แล้ว ศาลชั้นต้นได้มีคำบังคับให้โจทก์ออกจากบ้านพิพาทภายใน 1 เดือน แต่ในวันอ่านคำพิพากษาดังกล่าวโจทก์ไม่ได้มาศาลและไม่ได้ลงลายมือชื่อรับทราบคำบังคับไว้ ทั้งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ไม่ได้นำส่งคำบังคับไปยังโจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่งมาตรา 272 โจทก์จึงยังมีสิทธิอยู่ในบ้านพิพาทและย่อมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานบุกรุกได้
โจทก์ถูกศาลพิพากษาให้ขับไล่ ได้ออกจากบ้านพิพาทและขนย้ายสิ่งของออกไปหมดสิ้นแล้ว แต่เมื่อยังไม่ส่งมอบบ้านพิพาทคืน โดยได้ใส่กุญแจไว้และฝากให้เพื่อนบ้านช่วยดูแลให้ทั้งโจทก์ยังมีสิทธิอยู่ในบ้านพิพาทดังนี้ถือว่าโจทก์ครอบครอง บ้านพิพาทอยู่โดยปกติสุข การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ให้จำเลยที่ 2 ตัดหูร้อยกุญแจบ้านและให้จำเลยที่ 2 เข้าไปอยู่อาศัย จึงเป็นการใช้ให้จำเลยที่ 2 เข้าไปกระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุขตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 362, 84

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินที่ยึดและการรบกวนการครอบครองของผู้รับรักษาทรัพย์ ผู้รับรักษาฯ มีอำนาจฟ้องรบกวนและทำให้เสียทรัพย์
การยึดถือทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 278 นั้นหมายถึงการเข้าควบคุมหรือครอบครองทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีจะระวังรักษาทรัพย์สินนั้นเสียเองหรือจะตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการทรัพย์สินนั้นก็ได้
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดอาคารของลูกหนี้ตามคำพิพากษา แล้วทำสัญญามอบหมายให้โจทก์ร่วมเป็นผู้รักษา โดยโจทก์ร่วมให้สัญญาว่าจะรักษาด้วยความระมัดระวังมิให้เสียหายหรือเสื่อมคุณภาพ และจะไม่เอาออกใช้สอย ถ้าเกิดความเสียหายหรือสูญหายจะชดใช้ราคาให้ แล้วโจทก์ร่วมใส่กุญแจห้องล่ามโซ่ใส่กุญแจอาคาร แม้มิได้เข้าไปอยู่ในตัวอาคารก็เป็นการครอบครองรักษาทรัพย์ตามสัญญาแล้ว เมื่อจำเลยเข้าไปรื้อห้องตกแต่งอาคารใหม่ และเปิดทำการค้าในอาคารนั้น จึงเป็นการเข้าไปกระทำการอันเป็นการ รบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโจทก์ร่วมครอบครองอยู่โดยปกติสุขและทำให้เสียทรัพย์โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยและมีอำนาจฟ้องฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินที่ยึดตามคำพิพากษาและการรบกวนการครอบครอง รวมถึงอำนาจฟ้องในความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์
การยึดถือทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278 นั้นหมายถึงการเข้าควบคุมหรือครอบครองทรัพย์สิน ซึ่ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจะระวังรักษาทรัพย์สินนั้นเสียเองหรือจะตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการทรัพย์สินนั้นก็ได้
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดอาคารของลูกหนี้ตามคำพิพากษา แล้วทำสัญญามอบหมายให้โจทก์ร่วมเป็นผู้รักษา โดยโจทก์ร่วมให้สัญญาว่าจะรักษาด้วยความระมัดระวังมิให้เสียหายหรือเสื่อมคุณภาพ และจะไม่เอาออกใช้สอย ถ้าเกิดความเสียหายหรือสูญหายจะชดใช้ราคาให้ แล้วโจทก์ร่วมใส่กุญแจห้องล่ามโซ่ใส่กุญแจอาคาร แม้มิได้เข้าไปอยู่ในตัวอาคารก็เป็นการครอบครองรักษาทรัพย์ตามสัญญาแล้ว เมื่อจำเลยเข้าไปรื้อห้องตกแต่งอาคารใหม่ และเปิดทำการค้าในอาคารนั้น จึงเป็นการเข้าไปกระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโจทก์ร่วมครอบครองอยู่โดยปกติสุขและทำให้เสียทรัพย์ โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลย และมีอำนาจฟ้องฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์
of 4