คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รายละเอียดฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องเป็นรายละเอียดไม่สำคัญ หากจำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลไม่ยกฟ้อง
ในคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาว่าเกิดเหตุวันที่ 8 ธันวาคม 2513 แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าเกิดเหตุวันที่ 7 ธันวาคม 2513 ก็จริง แต่ก็มิใช่เป็นข้อแตกต่างในสารสำคัญ เพราะวันเวลาที่เกิดเหตุเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 เท่านั้น และเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ก็จะยกฟ้องด้วยเหตุนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องล้มละลาย: รายละเอียดการเบิกเกินบัญชีไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้อง หากพิสูจน์หนี้ได้
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว คราวละเท่าใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจร: การเรียกค่าไถ่กระบือที่ถูกลักไป แม้รายละเอียดวันเวลาในฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
ในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจรที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า ข้อ 1 วันที่ 17 เมษายน 2507 มีคนร้ายลักกระบือไป ข้อ 2 วันที่ 19 เมษายน 2507 จำเลยได้รับเงินเป็นค่าไถ่กระบือแล้วนำกระบือมาคืน ทั้งนี้ตามวันเวลาดังกล่าวในข้อ 1 จำเลยเป็นคนร้ายลักเอากระบือไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นตามวันเวลาดังกล่าวใน ข้อ 1 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2507 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยรับเอากระบือรายนี้ไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาโดยการกระทำผิดต่อกฎหมายอันเข้าลักษณะลักทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธและนำสืบต่อสู้ว่าไถ่มาจากบุคคลอื่น เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้นำกระบือของผู้เสียหายไปซ่อนแล้วเรียกค่าไถ่จริง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 (ฐานรับของโจร) เช่นนี้ การที่โจทก์กล่าวในฟ้องข้อ 2 ว่าจำเลยรับเงินค่าไถ่และคืนกระบือให้แก่ผู้เสียหายในวันที่ 19 เมษายน 2507 แต่ทางพิจารณาได้ความเป็นวันที่ 18 เมษายน 2507 นั้น ถือว่าเป็นการบรรยายรายละเอียดมิใช่ข้อสารสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ คดีลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ผิดนัดชำระค่าเช่า การพิจารณาข้อเท็จจริงโดยศาลอุทธรณ์ และการระบุรายละเอียดในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์ระบุให้เห็นว่ามีสัญญาเช่าซึ่งกำหนดอัตราค่าเช่าเป็นรายเดือน จำเลยไม่ได้ชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์เป็นเวลาหลายเดือนฟ้องของโจทก์ เช่นนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าติดๆ กันเกินกว่าสองคราวแล้ว
โจทก์ฟ้องขับไล่และให้จำเลยใช้เงิน 3,348 บาท เป็นคดีมีทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาท ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาฐานจ้างวานเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องไม่เคลือบคลุม พยานเบิกความสำคัญ และความแตกต่างเล็กน้อยในการสืบพยาน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยสมคบกันใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมให้พยานเบิกความเท็จนั้น ไม่เป็นฟ้องที่ขัดกัน ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ในเมื่อเป็นการบรรยายรายละเอียดการกระทำทั้งหลายที่จำเลยได้กระทำรวมกันไป
พยานเบิกความว่า จำหน้าคนร้ายไม่ได้ และศาลได้พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุนี้ข้อความที่พยานเบิกความนั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดี
ในการจ้างวานและยุยงให้พยานเบิกความเท็จต่อศาลนั้นโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยพูดกับพยานว่าเรื่องนี้ไม่ต้องกลัว เพราะได้ให้เจ้าพนักงานอัยการ 5,000 บาทแล้วเมื่อโจทก์นำสืบกลับสืบว่า ได้ให้8,000 บาท เช่นนี้ เป็นเรื่องพยานโจทก์เบิกความไม่ตรงในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การเพิ่มเติมรายละเอียดฟ้องไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้แหทำการประมงจับสัตว์น้ำในหนองนกกก อันเป็นหนองหวงห้ามและสาธารณประโยชน์รักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย (มิได้ระบุในฟ้องว่า หนองนั้นเป็นหนองประเภทที่ทางการประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำตามกฎหมายและไม่มีสำเนาประกาศนั้นติดท้ายฟ้อง) ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมหรือไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
ก่อนสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องข้างต้นว่า หนองดังกล่าว เป็นหนองที่ทางการได้ประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำตามกฎหมายดังปรากฏตามสำเนาประกาศท้ายคำร้อง เช่นนี้ เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อให้ฟ้องเดิมชัดเจนขึ้นเท่านั้น เมื่อฟ้องเดิมของโจทก์เป็นฟ้องอันชอบแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องดังคำร้องที่โจทก์ยื่นเข้ามานี้ ศาลจะให้แก้หรือไม่ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง ความประสงค์ของโจทก์ก็คงจะเพื่อได้ส่งสำเนาประกาศที่หวงห้ามจับสัตว์น้ำประกอบฟ้อง แต่ข้อนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะแม้โจทก์จะไม่ได้ส่งสำเนาประกาศ แต่เมื่อโจทก์ได้ระบุมาในฟ้องเดิมแล้วว่า เป็นที่หวงห้ามรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำ โจทก์ก็ย่อมนำสืบได้ในทางพิจารณาอยู่ในตัวแล้ว คำร้องแก้ฟ้องของโจทก์จึงมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีแต่อย่างใด เมื่อโจทก์ต้องการจะแก้ฟ้องศาลก็ชอบที่จะให้โจทก์แก้ได้ตามความประสงค์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญา กรณีขาดรายละเอียดบาดเจ็บสาหัสตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยได้รับบาดเจ็บสาหัสดังปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องนี้ หาได้บรรยายว่าบาดเจ็บสาหัสอย่างไร และรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องก็ไม่เข้าเกณฑ์ อันตรายสาหัสตามมาตรา 297 ที่ว่ารักษาเกินกว่ายี่สิบวัน ดังนี้ เป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 ข้อ 5.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม้หวงห้าม ต้องบรรยายรายละเอียดประกาศทางกฎหมายในฟ้อง หากไม่บรรยาย ฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องบุกรุกต้องระบุเจตนาชัดเจน หากขาดรายละเอียดฟ้องไม่ชอบ
คำบรรยายฟ้องหาว่าทำผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายลักษณะอาญาม.327 นั้น โจทก์ต้องกล่าวด้วยว่าจำเลยเจตนาจะมิให้ผู้อื่นได้ปกครองทรัพย์หรือเพื่อจะเข้าครอบครองทรัพย์มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ขาดรายละเอียดทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาได้ดีพอ(เทียบเคียงฎีกาที่ 912/2492,1549/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายละเอียดฟ้องต่างจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ไม่ถึงขั้นต้องยกฟ้องอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสโดยจำเลยใช้มือชกถูกแก้มและเตะถูกขากรรไกรซ้ายหัก ดังนี้แม้จะได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยเตะผู้เสียหายขากรรไกรขวาหักต่างกับฟ้องจริงก็ดี ข้อเท็จจริงเป็นแต่เพียงรายละเอียดของฟ้องไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งฟ้อง ไม่ถึงกับต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.192
of 5