คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลงโทษทางวินัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าเจ้าพนักงาน-บันดาลโทสะ: เหตุผลความไม่พอใจจากการลงโทษทางวินัย ไม่ถือเป็นเหตุบันดาลโทสะที่สมควรลดโทษ
ผู้ตายสั่งลงโทษจำเลยผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเพราะจำเลยละทิ้งหน้าที่จำเลยไม่พอใจพูดต่อว่าและท้าทายผู้ตายให้ตั้งกรรมการสอบสวน ผู้ตายตอบว่าตั้งก็ตั้งแล้วหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา จำเลยไม่พอใจ ชักปืนยิงผู้ตาย ผู้ตายมิได้แสดงกิริยาหรือกระทำการใด ๆ ในลักษณะข่มเหงจำเลย ที่ผู้ตายสั่งลงโทษจำเลยเป็นการกระทำตามหน้าที่โดยชอบ และโทษที่ลงก็เป็นโทษสถานเบาที่สุดแล้ว จำเลยจะอ้างว่ากระทำโดยบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่
เหตุเกิดในเวลาและสถานที่ราชการ มีพยานรู้เป็นในขณะเกิดเหตุแม้จำเลยจะไม่ให้การรับสารภาพ พยานหลักฐานโจทก์ก็มั่นคงพอลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง จำเลยรับสารภาพก็เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน จึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จำเลยกระทำการอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้ง ๆ ที่จำเลยเป็นผู้มีหน้าที่รักษากฎหมาย และเป็นการกระทำต่อผู้บังคับบัญชาด้วยสาเหตุเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงจิตใจเหี้ยมอำมหิตของจำเลยพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุสมควรลดโทษให้จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3775-3776/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้ว่าฯ ในการลงโทษทางวินัยร้ายแรง: การเลิกจ้างลูกจ้างที่ทุจริตหน้าที่โดยไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน
โจทก์ให้การรับสารภาพต่อผู้บังคับบัญชาว่าทุจริตต่อหน้าที่เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงอันเป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งตามข้อบังคับของจำเลยผู้ว่าการมีอำนาจพิจารณาสั่งลงโทษไล่ออกหรือให้ออกได้โดยไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนอำนาจนี้เป็นอำนาจที่สมบูรณ์ของผู้ว่าการจำเลย แม้จำเลยจะตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนโดยไม่มีผู้แทนของสหภาพแรงงานเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วยตามข้อตกลงระหว่างสหภาพแรงงานกับจำเลยก็ไม่มีผลลบล้างอำนาจที่สมบูรณ์สิทธิขาดนั้นเสียได้ การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจนายจ้างในการลงโทษทางวินัย: เลือกโทษเบากว่าที่ระบุในข้อบังคับได้ หากคำนึงถึงความยุติธรรมและเหมาะสม
ตามระเบียบข้อบังคับของนายจ้างข้อ 11 มีโทษถึงขั้นเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย แต่ยังมีระเบียบข้อบังคับข้อ 10 ระบุความผิดประเภทอื่น ๆ และโทษขั้นพักงานไว้และข้อ 7 ระบุให้อำนาจนายจ้างที่จะใช้ดุลพินิจลงโทษลูกจ้างที่กระทำความผิดตามมาตรการการลงโทษมาตรการใดก็ได้ตั้งแต่ตักเตือนด้วยวาจา ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร การพักงานและให้ออกจากงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามความหนักเบาของความผิดและความเหมาะสมควร ดังนี้ เมื่อลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างขาดงานเป็นเวลา 3 วันทำงานโดยไม่มีเหตุสมควรมีโทษขั้นเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยซึ่งเป็นโทษขั้นสูงแต่นายจ้างไม่ประสงค์จะลงโทษดังกล่าวโดยขอลงโทษเพียงขั้นพักงานซึ่งเป็นคุณแก่ลูกจ้าง และเป็นการลงโทษที่ระบุไว้ในข้อบังคับนายจ้างย่อมขอให้ลงโทษดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3670/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีแรงงาน: การลงโทษทางวินัยหลังศาลยกคำร้องเลิกจ้างเนื่องจากเหตุเดียวกัน
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้าน กล่าวหาว่าผู้คัดค้านละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งยกคำร้อง โดยฟังว่าไม่เป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร คดีถึงที่สุด ดังนั้นการที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขออนุญาตลงโทษผู้คัดค้านเป็นคดีนี้อันเนื่องมาจากมูลเหตุเดียวกัน ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิที่จะร้องขออนุญาตเลิกจ้างหรือลงโทษผู้คัดค้านควบคู่ไปทั้งสองกรณีได้ในคดีก่อนอยู่แล้วตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518 มาตรา 52 จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2956/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางวินัยต้องมีเหตุผลอันสมควร การย้ายงานที่ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง และสิทธิในการรับโบนัส/ขึ้นเงินเดือน
ผู้บังคับบัญชาถามโจทก์ว่า วันเสาร์นี้ว่างหรือไม่ จะให้พาชาวต่างประเทศไปชมโรงงาน โจทก์ซึ่งปกติเป็นคนพูดเสียงดังได้ตอบทันทีด้วยเสียงอันดังและต่อหน้าพนักงานอื่นว่าว่าง แต่ไม่ไป เพราะไม่ได้โอ.ที. อยู่บ้านทำบัญชีดีกว่า เพียงเท่านั้นยังถือไม่ได้ว่า กิริยาวาจาของโจทก์เป็นการไม่สุภาพเรียบร้อย
โจทก์ไม่ได้รับการพิจารณาจ่ายโบนัสและขึ้นเงินเดือนเพราะกระทำผิดวินัยฐานมีกิริยาวาจาไม่สุภาพเรียบร้อยเพียงประการเดียว เมื่อฟังไม่ได้ว่าโจทก์กระทำผิดวินัย และมีหลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายโบนัสและขึ้นเงินเดือนข้ออื่น ๆ อีกหลายข้อที่จำเลยยังไม่ได้พิจารณา ศาลจึงชอบที่จะพิพากษาให้จำเลยพิจารณาจ่ายเงินโบนัสและการขึ้นเงินเดือนตามหลักเกณฑ์ของการพิจารณาในเรื่องทั้งสองนั้นใหม่
ตามคำสั่งจ้างโจทก์ หนังสือสัญญาจ้าง และข้อบังคับของจำเลย จำเลยมีอำนาจที่จะพิจารณาบรรจุและแต่งตั้งโจทก์ให้ไปดำรงตำแหน่งในส่วนงานต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสม หาได้จ้างโจทก์ในตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดโดยเฉพาะไม่ เมื่อได้ความว่าตำแหน่งใหม่เท่ากับตำแหน่งเดิม ค่าจ้างเท่าเดิม การย้ายโจทก์จึงมิใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง จำเลยมีสิทธิและอำนาจที่จะย้ายโจทก์ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2956/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางวินัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการพิจารณาโบนัส/ขึ้นเงินเดือนใหม่
ผู้บังคับบัญชาถามโจทก์ว่า วันเสาร์นี้ว่างหรือไม่ จะให้พาชาวต่างประเทศไปชมโรงงาน โจทก์ซึ่งปกติเป็นคนพูดเสียงดังได้ตอบทันทีด้วยเสียงอันดังและต่อหน้าพนักงานอื่นว่าว่าง แต่ไม่ไป เพราะไม่ได้ โอ.ที. อยู่บ้านทำบัญชีดีกว่า เพียงเท่านั้นยังถือไม่ได้ว่า กิริยาวาจาของโจทก์เป็นการไม่สุภาพเรียบร้อย
โจทก์ไม่ได้รับการพิจารณาจ่ายโบนัสและขึ้นเงินเดือนเพราะกระทำผิดวินัยฐานมีกิริยาวาจาไม่สุภาพเรียบร้อยเพียงประการเดียว เมื่อฟังไม่ได้ว่าโจทก์กระทำผิดวินัย และมีหลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายโบนัสและขึ้นเงินเดือนข้ออื่นๆ อีกหลายข้อที่จำเลยยังไม่ได้พิจารณา ศาลจึงชอบที่จะพิพากษาให้จำเลยพิจารณาจ่ายเงินโบนัสและการขึ้นเงินเดือนตามหลักเกณฑ์ของการพิจารณาในเรื่องทั้งสองนั้นใหม่
ตามคำสั่งจ้างโจทก์ หนังสือสัญญาจ้าง และข้อบังคับของจำเลยจำเลยมีอำนาจที่จะพิจารณาบรรจุและแต่งตั้งโจทก์ให้ไปดำรงตำแหน่งในส่วนงานต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม หาได้จ้างโจทก์ในตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดโดยเฉพาะไม่ เมื่อได้ความว่าตำแหน่งใหม่เท่ากับตำแหน่งเดิม ค่าจ้างเท่าเดิม การย้ายโจทก์จึงมิใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง จำเลยมีสิทธิและอำนาจที่จะย้ายโจทก์ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างและการลงโทษทางวินัย คำขู่ให้ลงชื่อรับทราบคำเตือนไม่ถือเป็นการเลิกจ้าง
โจทก์หยุดงานโดยยื่นใบลาย้อนหลังอันเป็นการผิดระเบียบของจำเลย จำเลยจึงออกหนังสือเตือนและให้โจทก์ลงชื่อรับทราบ โจทก์ไม่ยอมลงชื่อ ผู้จัดการฝ่ายโรงงานของจำเลยจึงพูดกับโจทก์ว่า 'ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นผมปลดคุณ' โจทก์พากันกลับไปและไม่มาทำงานอีกพฤติการณ์ดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วินัย, การลงโทษทางวินัย, และการคุ้มครองลูกจ้าง: ข้อเรียกร้องไม่สมบูรณ์ไม่คุ้มครองการเลิกจ้าง
วินัยและโทษทางวินัยเป็นรายการที่นายจ้างต้องให้มีกำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ 68 ส่วนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย แม้ไม่มีระบุไว้ในรายการของข้อ 68 แต่นายจ้างจะกำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานด้วยก็ได้เพราะรายการในข้อ 68 เป็นเพียงรายการที่กำหนดว่าอย่างน้อยต้องมีเท่านั้น และการที่นายจ้างกำหนดวินัยและโทษทางวินัยขึ้นใช้บังคับก็หาเป็นการทำให้นายจ้างลงโทษลูกจ้างโดยปลดออกจากงานแล้วไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยไม่เพราะการที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเมื่อปลดออกจากงานนั้น ต้องพิจารณาว่าเป็นการปลดออกในกรณีใดกรณีหนึ่งตามที่ระบุไว้ในประกาศดังกล่าวข้อ 47(1) ถึง (6) หรือไม่ 'ข้อเรียกร้อง' ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ฯ มาตรา 31 หมายถึงข้อเรียกร้องที่สมบูรณ์ตามบทบัญญัติมาตราอื่น ๆ ด้วย เพราะมิฉะนั้นแล้วก็จะเป็นช่องทางให้ลูกจ้างผู้ไม่สุจริตหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษทางวินัยได้โดย ง่าย ดังนั้น เมื่อได้ความว่าสหภาพแรงงานมีสมาชิกไม่ถึงหนึ่งในห้า ข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานที่ขอให้เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างจึงไม่สมบูรณ์เป็นข้อเรียกร้องตามมาตรา 15 แม้ข้อเรียกร้องนั้นจะผ่านการไกล่เกลี่ยของพนักงานประนอมข้อพิพาทจนอยู่ในระหว่างการพิจารณาชี้ขาดของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ก็ถือไม่ได้ว่ามีข้อเรียกร้องอยู่ในระหว่างการชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน และการที่โจทก์เป็นกรรมการสหภาพแรงงานและเป็นผู้แทนสหภาพแรงงานในการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับข้อเรียกร้องดังกล่าว ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง การที่นายจ้างปลดโจทก์ ออกจากงานระหว่างนั้นจึงไม่เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602-1605/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้ลูกจ้างเคยถูกลงโทษทางวินัยก็ยังได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯมาตรา 49 หามีข้อความแสดงว่าลูกจ้างซึ่งเคยถูกลงโทษทางวินัยมาแล้วจะมิได้รับความคุ้มครองจากบทบัญญัตินี้ไม่ ฉะนั้น แม้ลูกจ้างจะเคยถูกลงโทษทางวินัยมาแล้ว หากถูกเลิกจ้างโดยมีพฤติการณ์แสดงว่าไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจากบทบัญญัตินี้เช่นเดียวกัน
จำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์อ้างว่า เพราะผู้บังคับบัญชาไม่อาจไว้วางใจในการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ต่อไปได้ตามข้อบังคับขององค์การจำเลย ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุ ซึ่งไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 49 จึงมีผลลบล้างเฉพาะคำสั่งเลิกจ้างของจำเลยเท่านั้น ส่วนข้อบังคับขององค์การจำเลยยังคงใช้บังคับได้อยู่ตามเดิม ไม่ถูกกระทบกระเทือนด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางวินัยลูกจ้าง กรณีสั่งการงานเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุมัติ ศาลยกเลิกคำสั่งตัดเงินเดือน
โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองวิชาการและวางแผน และผู้อำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชนของจำเลย มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณาแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานตามโครงการของจำเลย เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้สั่งการให้บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาของจำเลยสำรวจออกแบบเพิ่มเติมนอกเหนือสัญญาแต่กลับได้ความว่า โจทก์ได้สั่งให้บริษัทเสนอราคาทำงานทำความตกลงกับจำเลยก่อนลงมือทำงาน แต่บริษัทได้ทำการสำรวจออกแบบไปก่อนเอง ประกอบกับจำเลยก็มิได้ยอมรับการทำงานเพิ่มของบริษัทและปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเพิ่ม ดังนี้จะถือว่าการปฏิบัติงานของโจทก์เป็นการผิดวินัยตามข้อบังคับของจำเลยมิได้
of 5