คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วัตถุดิบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกคืนภาษีการค้าสำหรับวัตถุดิบในการผลิต ไม่ใช่ผู้ประกอบการค้า - อายุความไม่ขาด
โจทก์นำน้ำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อผลิตเป็นสินค้าน้ำอัดลม ระหว่างต้นปี 2507 ถึงเดือนกรกฎาคม 2509 โจทก์เสียภาษีที่ที่ว่าการอำเภอโดยโจทก์ยื่นแบบภ.ค.4 แสดงยอดราคาน้ำเชื้อที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรแล้วคำนวณออกมาเป็นภาษีการค้าบวกกับภาษีบำรุงเทศบาลต่ออำเภอ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป พร้อมทั้งชำระเงินภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลและตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2509กรมศุลกากรเป็นผู้เก็บภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลแทนกรมสรรพากรจำเลยโดยเมื่อโจทก์นำน้ำเชื้อเข้ามาในราชอาณาจักรก็ต้องยื่นแบบใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าพร้อมกับแนบเอกสารแสดงรายการสินค้าคือใบอินวอยซ์ เมื่อกรมศุลกากรตรวจถูกต้องแล้วก็จะเรียกเก็บภาษีจากโจทก์โดยแยกเป็นอากรขาเข้า ภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล ดังนี้ การกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ทั้งทางอำเภอและทางกรมศุลกากรดังกล่าวแม้จะเรียกเก็บภาษีการค้าแทนกรมสรรพากรจำเลย แต่ก็หาใช่การประเมินภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 87 ไม่ ซึ่งไม่อยู่ในบังคับแห่งมาตรา 30 ที่จะต้องอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เสียก่อนฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1734/2519)
โจทก์ประกอบอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมต้องใช้น้ำเชื้อเป็นวัตถุดิบในการผลิต โจทก์ไม่ได้สั่งน้ำเชื้อเหล่านี้มาเพื่อขายการที่โจทก์นำน้ำเชื้อดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักรผลิตเป็นสินค้าน้ำอัดลมเพื่อขายเช่นนี้จึงไม่ใช่เป็นการขายสินค้าน้ำเชื้อโจทก์ไม่ใช่ผู้ประกอบการค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร มาตรา 77 ไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราภาษีการค้าและรายการที่ประกอบการค้า ตามมาตรา 78 วรรคแรก และไม่ต้องเสียภาษีการค้าในกรณีให้ถือว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าเป็นผู้ประกอบการค้าตามมาตรา 78 วรรคสอง และเมื่อฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าน้ำเชื้อก็จะถือว่าการนำน้ำเชื้อเข้ามาสำหรับผลิตเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลม เป็นการขายสินค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ทวิ(3) ไม่ได้ด้วย โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเงินภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลที่ชำระไปแล้วคืนได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1606/2512 และ 2807/2515)
เงินค่าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลที่กรมสรรพากรจำเลยรับชำระจากโจทก์ เป็นเรื่องที่โจทก์ชำระไปตามหลักเกณฑ์ที่จำเลยวางไว้และจำเลยก็ให้การและโต้แย้งตลอดมาว่า โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าดังกล่าวตามประมวลรัษฎากรซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จำเลยได้ทรัพย์มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้การฟ้องเรียกภาษีคืนในคดีนี้ จึงมิใช่การฟ้องเรียกคืนในฐานลาภมิควรได้อันจะอยู่ในบังคับอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 419 (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรโดยการนำเข้ากระดาษสำเร็จรูปอ้างเป็นวัตถุดิบ และการจ่ายรางวัลเจ้าหน้าที่จับกุม
จำเลยได้รับบัตรส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อประกอบอุตสาหกรรมผลิตกระดาษคราฟท์ ได้รับสิทธิงดเว้นการเสียอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบและวัสดุที่สั่งหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ จำเลยได้นำของซึ่งระบุในใบขนสินค้าขาเข้าว่าเป็นเยื่อกระดาษและไม่ใช่กระดาษคราฟท์ที่ใช้ไม่ได้ หรือเศษกระดาษคราฟท์ที่ใช้ไม่ได้แล้วอันได้รับการงดเว้นอากรขาเข้า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยื่นใบขนสินค้าสำแดงรายการเป็นเท็จ และฐานหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรโดยเจตนาฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล อันเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ดังนั้น การที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนมีมติอนุญาตย้อนหลังให้กระดาษที่จำเลยนำเข้ามานั้นเป็นวัสดุที่อนุญาตให้ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษคราฟท์ได้ เพิ่มเติมจากที่ได้เคยอนุญาตไว้แล้ว ทำให้จำเลยไม่ต้องเสียอากรขาเข้าสำหรับของที่จะต้องเสียภาษีนั้น เป็นมติที่ไม่ชอบ และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนฯ หามีอำนาจตามกฎหมายที่จะกำหนดหรืออนุญาตให้กระดาษสำเร็จรูปนั้นกลายเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตกระดาษคราฟท์ อันจะทำให้ความผิดที่เกิดขึ้นแล้วกลับไม่เป็นความผิดต่อไปได้ไม่ จำเลยจึงมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว
การสั่งจ่ายสินบนหรือรางวัลตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 7 นั้น กระทำได้ 2 กรณี คือเมื่อมีการสั่งริบของกลางประการหนึ่ง หรือเมื่อมีการลงโทษปรับจำเลยอีกประการหนึ่ง และวิธีจ่ายนั้น หากมีการริบของกลางก็ให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายของกลางนั้น หากไม่มีการริบของกลางหรือมีการริบของกลาง แต่ของกลางนั้นไม่อาจขายได้และมีการลงโทษปรับจำเลย ก็ให้จ่ายจากเงินค่าปรับที่จำเลยได้ชำระต่อศาล คดีนี้มีการลงโทษปรับจำเลย จึงสั่งจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมจากเงินค่าปรับที่ชำระต่อศาลได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานยื่นใบขนสินค้าสำแดงรายการเป็นเท็จ จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ความผิดฐานนี้จึงยุติแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาว่าจำเลยมิได้กระทำผิดในความผิดฐานนี้อีก ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเข้าชิ้นส่วนประกอบรถยนต์เพื่อผลิต ไม่ใช่ขาย เป็นอะไหล่ได้รับการยกเว้นภาษีการค้า
โจทก์นำชิ้นส่วนเข้ามาเป็นวัตถุดิบประกอบรถยนต์ มิได้ขายเป็นอะไหล่ ประมวลรัษฎากร มาตรา 78 วรรคสอง ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีการค้า (ฉบับที่ 2) ถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้า ซึ่งกฎหมายในขณะนั้นยกเว้นตามมาตรา 79 ทวิ (1) จำเลยรับชำระภาษีโดยมีมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ว่าโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าตาม ประมวลรัษฎากรจึงมิใช่ลาภมิควรได้ ไม่อยู่ในอายุความตาม มาตรา 419

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ซิเมนต์ผงขายให้บริษัทในเครือเพื่อผลิตต่อ ไม่เป็นสินค้าสำเร็จรูป เสียภาษีตามอัตราวัตถุดิบ
ซิเมนต์ผงที่โจทก์ขายให้แก่บริษัทในเครือของตนเพื่อใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตเป็นสินค้าอย่างอื่นขาย มิได้นำไปจำหน่ายโดยตรง ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปตามความหมายในประมวลรัษฎากร มาตรา 77 จึงต้องเสียภาษีตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภท 1 การขายของชนิด 9 (ก) อัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 85/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2454/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีการค้ากรณีนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้า: การตีความ 'ขาย' ตามประมวลรัษฎากร
โจทก์จดทะเบียนการค้าประเภทการขายของประเภท 1 ชนิด 1(ก)ในฐานะผู้ผลิตสินค้าซิเมนต์ เหล็ก อิฐ ได้สั่งกระดาษม้วน ด้าย และเทปกระดาษเข้ามาเพื่อผลิตเป็นถุงกระดาษบรรจุปูนซิเมนต์ ดังนี้ ไม่ว่าโจทก์จะขายถุงปูนซิเมนต์โดยคำนวณต้นทุนผลิตรวมกันไปกับปูนซิเมนต์หรือไม่ก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์สั่งสินค้าดังกล่าวเข้ามาใช้ผลิตเพื่อขายซึ่งสินค้าที่โจทก์ได้ประกอบการค้าอยู่ สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 1 แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้าที่มิใช่เป็นของใช้ส่วนตัว ซึ่งใช้กันตามปกติและตามสมควร ทั้งมิใช่โจทก์นำมาขายหรือผลิตเพื่อขายแล้ว จึงถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าซึ่งได้ขายสินค้านี้ และให้ถือมูลค่าของสินค้าเป็นรายรับตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ทวิ (1) ต้องเสียภาษีการค้าตามมาตรา 78 อัตราร้อยละ 5 ของรายรับ
โจทก์สั่งลวดเหล็กเข้ามาใช้เป็นวัสดุเพื่อผลิตเป็นสินค้าตะปูหรือสินค้าเหล็กและสั่งโลหะผสมแร่เข้ามาใช้เป็นวัสดุเพื่อผลิตเป็นสินค้าเหล็กของโจทก์เพื่อขายต่อไป ดังนี้เมื่อโจทก์มิได้สั่งลวดเหล็กและโลหะผสมแร่เข้ามาเพื่อขาย โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้ประกอบการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77 ไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามที่ระบุในบัญชีอัตราภาษีการค้าและรายการที่ประกอบการค้า ตามมาตรา 78 วรรคแรก และไม่ต้องเสียภาษีการค้าในกรณีให้ถือว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าเป็นผู้ประกอบการค้าตามมาตรา 78 วรรค 2 และเมื่อฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าลวดเหล็กและโลหะผสมแร่ ก็จะถือว่าการนำสินค้าดังกล่าวเข้ามาสำหรับผลิตสินค้าเท่ากับนำสินค้าไปใช้ เป็นการขายสินค้าตามมาตรา 79 ทวิ (3)ไม่ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รถบรรทุกยกเทไม่ใช่เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ แต่เป็นยานพาหนะขนส่งวัตถุดิบ จึงไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
โจทก์นำรถยนต์บรรทุกยกเทเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นรถบรรทุกวัตถุดิบสำหรับผลิตซิเมนต์จากแหล่งวัตถุดิบมาส่งที่โรงงานของโจทก์โดยสภาพของรถบรรทุกยกเทดังกล่าวมิใช่เป็นชิ้นส่วนประกอบเป็นตัวเครื่องจักร หรือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบกับเครื่องจักรเพื่อให้เครื่องจักรทำงานแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงยานพาหนะที่ใช้ขนวัตถุดิบมาใช้ ในโรงงานของโจทก์เท่านั้น ทั้งยังได้ความว่ารถบรรทุกยกเทดังกล่าวนั้นเป็นรถขนาดใหญ่ มีน้ำหนักบรรทุก 25 ตัน ถ้าใช้รถบรรทุกชนิดอื่นจะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการขนวัตถุดิบของโจทก์สูงขึ้น ซึ่งแสดงว่าโจทก์นำรถบรรทุกนี้มาใช้เพื่อประโยชน์แก่การลดต้นทุนการผลิตซิเมนต์หาได้มีส่วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเครื่องจักรที่ผลิตซิเมนต์นั้นไม่จึงไม่ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี (11)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77: แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ ไม่ถือเป็นสินค้าสำเร็จรูป
การใช้สอยแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ตามสภาพปกตินั้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นของสิ่งอื่น มิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่นด้วยเหตุนี้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ จึงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 77

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77 เพราะเป็นวัตถุดิบต้องนำไปผสมปรุงก่อน
การใช้สอยแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์และเชื้ออากาดี้ตามสภาพปกตินั้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นของสิ่งอื่น มิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่นด้วยเหตุนี้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์และเชื้ออากาดี้ จึงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 77

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปูนซีเมนต์ผงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77 ต้องเสียภาษีตามอัตราวัตถุดิบ
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77 สินค้าสำเร็จรูปหมายถึงสิ่งใดๆก็ตามที่อาจใช้อุปโภค (ใช้สอย) หรือบริโภค (กิน) ได้ทันที โดยไม่ต้องเอาของสิ่งนั้นไปปรุงแต่งเปลี่ยนแปลง หรือผสมกับสิ่งใดอีก เช่น เป็นของกินก็อาจกินได้ทันที หรือถ้าเป็นของใช้ก็อาจใช้ได้ทันที แต่การพิจารณาว่าสิ่งใดอาจใช้ได้ทันทีหรือไม่ จำต้องพิจารณาจากการใช้ในสภาพปกติ เพราะวัตถุไม่สำเร็จรูปก็อาจนำมาใช้ได้ทันที เช่นเดียวกับวัตถุสำเร็จรูป เช่น นำวัตถุไม่สำเร็จรูปไปผสมกับสิ่งอื่นเพื่อผลิตสินค้าอย่างอื่นก็อาจเรียกได้ว่าวัตถุไม่สำเร็จรูปนั้นใช้ได้ทันทีเหมือนกัน. แต่ก็มิใช่เป็นการใช้ในสภาพของวัตถุสำเร็จรูปหากเป็นการใช้ในสภาพของวัตถุไม่สำเร็จรูปหรือวัตถุดิบคือต้องมีการเปลี่ยนแปลง หรือผสมกับสิ่งอื่นเสียก่อน จนวัตถุสิ่งนั้นเปลี่ยนจากสภาพปกติหรือสภาพเดิม จึงถือไม่ได้ว่าสิ่งนั้นเป็นสินค้าสำเร็จรูป
สภาพปกติของปูนซีเมนต์ผง มิใช่สิ่งที่จะนำไปใช้สอยได้ทันทีโดยมิต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด การใช้สอยปูนซีเมนต์ผงตามสภาพปกตินั้น ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าหรือสิ่งของอื่น มิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิมโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่น (คือยังคงรูปเป็นปูนซีเมนต์ผงอยู่)ปูนซีเมนต์ผงจึงมิใช่สินค้าสำเร็จรูป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปูนซิเมนต์ผงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากรมาตรา 77 ต้องเสียภาษีร้อยละ 1.5
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77 สินค้าสำเร็จรูปหมายถึงสิ่งใดๆก็ตามที่อาจใช้อุปโภค (ใช้สอย) หรือบริโภค (กิน) ได้ทันทีโดยไม่ต้องเอาของสิ่งนั้นไปปรุงแต่งเปลี่ยนแปลง หรือผสมกับสิ่งใดอีกเช่น เป็นของกินก็อาจกินได้ทันที หรือถ้าเป็นของใช้ก็อาจใช้ได้ทันที แต่การพิจารณาว่าสิ่งใดอาจใช้ได้ทันทีหรือไม่ จำต้องพิจารณาจากการใช้ในสภาพปกติ เพราะวัตถุไม่สำเร็จรูปก็อาจนำมาใช้ได้ทันที เช่นเดียวกับวัตถุสำเร็จรูปเช่น นำวัตถุไม่สำเร็จรูปไปผสมกับสิ่งอื่นเพื่อผลิตสินค้าอย่างอื่นก็อาจเรียกได้ว่าวัตถุไม่สำเร็จรูปนั้นใช้ได้ทันทีเหมือนกันแต่ก็มิใช่เป็นการใช้ในสภาพของวัตถุสำเร็จรูปหากเป็นการใช้ในสภาพของวัตถุไม่สำเร็จรูปหรือวัตถุดิบคือต้องมีการเปลี่ยนแปลง หรือผสมกับสิ่งอื่นเสียก่อน จนวัตถุสิ่งนั้นเปลี่ยนจากสภาพปกติหรือสภาพเดิม จึงถือไม่ได้ว่าสิ่งนั้นเป็นสินค้าสำเร็จรูป
สภาพปกติของปูนซิเมนต์ผง มิใช่สิ่งที่จะนำไปใช้สอยได้ทันทีโดยมิต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดการใช้สอยปูนซิเมนต์ผงตามสภาพปกตินั้น ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าหรือสิ่งของอื่นมิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิมโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่น(คือยังคงรูปเป็นปูนซิเมนต์ผงอยู่)ปูนซิเมนต์ผงจึงมิใช่สินค้าสำเร็จรูป
of 4