คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วันเวลาเกิดเหตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดวันเวลาเกิดเหตุและการตีความประกาศกระแสพระบรมราชโองการเรื่องนับเวลาในราชการเพื่อใช้ในการพิจารณาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเมื่อวันที่ 6 เวลากลางคืนติดต่อกับเวลากลางวันตอนเช้ามืด ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิด 05.00 น.เศษของวันที่ 6 ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องผิดวัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์: วันเวลาเกิดเหตุไม่ตรงกับที่ระบุในฟ้อง ทำให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยกะทำผิดระหว่างวันที่ 24-25 พรึสจิกายน พ.ส.2485 ทางพิจารนาได้ความว่า เหตุเกิดระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม สาลก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาเกิดเหตุสำคัญในฟ้องอาญา หากผิดและไม่ขอแก้ฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก็ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในวันแรม 9-10 ค่ำเวลากลางคืน ได้ความว่าจำเลยทำผิดในวันแรม 8 ค่ำจวนค่อนรุ่งลงโทษจำเลยไม่ได้ วันเวลาถือว่าเป็นรายละเอียดอันสำคัญที่ต้องแถลงในฟ้อง หากว่าฟ้องนั้นผิดวันและโจทก์มิได้ขอแก้เสียในเวลาสมควรปล่อยล่วงเลยมาศาลต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของวันเวลาเกิดเหตุในคดีอาญา: ผลต่อการฟ้องและคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันแรม 13 ค่ำในเวลากลางคืน ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในตอนกลางคืนเวลาประมาณตี 5 แห่งวันแรม 12 ค่ำดังนี้ ศาลต้องยกฟ้องตามมาตรา 192 แห่งประมวลวิธีพิจารณาความอาญา คำว่า"กลางคืน" ต้องถือตามกลางคืนใน ม.6 (24) แห่งกฎหมายลักษณอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพลาดในการฟ้องคดีอาญาเรื่องวันเวลาเกิดเหตุ ส่งผลให้จำเลยหลงต่อสู้และศาลต้องยกฟ้อง
มารดาผู้เสียหายเบิกความว่า ประมาณเดือนธันวาคม 2541 ช่วงแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เวลาประมาณ 21 นาฬิกา พยานไม่พบผู้เสียหายทั้ง ๆ ที่วันดังกล่าวผู้เสียหายก็อยู่ช่วยพยานขายขนมบัวลอย จนกระทั่งเวลา 24 นาฬิกา พยานเลิกขายของกลับบ้านแล้ว ผู้เสียหายจึงกลับไปพบพยาน พยานสอบถามผู้เสียหายว่าไปไหนมาผู้เสียหายบอกว่าไปกับเพื่อน แต่พยานไม่เชื่อจึงสอบถามผู้เสียหาย ต่อมาอีกประมาณ 2 ถึง 3 วัน ผู้เสียหายจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่าถูกจำเลย กับพวกข่มขืน เมื่อทราบเรื่องดังกล่าว พยานจึงได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐม เจ้าพนักงานตำรวจให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ศ. วันที่ผู้เสียหายกับมารดาไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนคือวันที่ 7 มกราคม 2542 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่พนักงานสอบสวนส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ศ. ได้ความจากคำเบิกความของนายแพทย์ ว. ผลปรากฎว่ามีการร่วมเพศไม่เกิน 3 วันผ่านมา และผู้เสียหายยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไม่เคยร่วมประเวณีกับใครมาก่อน หลังจากเกิดเหตุแล้วจนถึงวันที่ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายผู้เสียหายไม่ได้ร่วมประเวณีกับใคร เหตุคดีนี้จึงเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2542 ไม่ใช่ในระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2541 ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2541 ตามฟ้องโจทก์ จำเลยนำสืบต่อสู้ว่าในช่วงเกิดเหตุตามฟ้องจำเลยรับราชการเป็นทหารกองประจำการอยู่ที่โรงเรียน ก. จำเลยไม่ได้ลาออกไปข้างนอกโดยมีเรืออากาศเอก น. นายทหารประจำโรงเรียน ก. มาเบิกความสนับสนุนและส่งเอกสารสำเนาบัญชีคุมการจำหน่ายเวลาปฏิบัติราชการของจำเลยเป็นพยานด้วย โจทก์ฟ้องผิดวันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน แม้ว่าข้อแตกต่างนี้จะเป็นเพียงรายละเอียด แต่การที่ฟ้องผิดวันไปเป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ จึงต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม
of 3