พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเกินกรอบที่ศาลชั้นต้นพิจารณา ถือเป็นการไม่ชอบ
การวินิจฉัยข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยจากคำพยานหลักฐานในท้องสำนวน แต่เรื่องนี้ศาลชั้นต้นยังหาได้วินิจฉัยประเด็นเรื่องโจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแก่จำเลยแล้ว และเรื่องจำเลยใช้สถานที่ประกอบการค้า ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยไม่ตรงตามข้อหาในชั้นฟ้องอุทธรณ์ เป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานใหม่เพื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงหลังทำลายหลักฐานคดีอาญา
จำเลยหลบหนีเรือนจำไปโดยไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มากว่า 10 ปีแล้วจึงจับจำเลยได้ปรากฏว่าสำนวนทำลายเสียหมดคงเหลือแต่ฟ้องและคำพิพากษาเท่านั้นไม่อาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยใหม่เพื่อศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยต่อไปก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสนอคดีต่อศาลต้องมีข้อพิพาททางกฎหมาย หากมีคดีมีข้อพิพาทแล้ว ศาลฎีกาสามารถวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 บัญญัติว่าต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่างใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยกคำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนินการพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลดังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยกคำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนินการพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลดังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงและขอบเขตการฎีกา
พระราชบัญญัติสาธารณะสุขพ.ศ.2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้นต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเช่าทรัพย์ แม้ไม่มีหนังสือตัวแทนก็มีหน้าที่คืนประโยชน์ให้ตัวการ ศาลต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงก่อน
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าให้จำเลยเป็นตัวแทนไปรับโอนการเช่าและเช่าตึกมาแล้วกลับไม่ยอมโอนให้โจทก์นั้นเป็นเรื่อง ตัวการเรียร้องเอาผลประโยชน์จากการที่ตัวแทนกระทำ แม้การตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือตัวแทนก็มีหน้าที่ต้องคืนให้โจทก์ศาลจะยกเอาเหตุการตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือมายก ฟ้องโจทก์เสียมิได้
(อ้างฏีกา 640/2489)
คดีที่ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่เนื่องจากศาลชั้นต้นยกบทกฎหมายขึ้นยกฟ้องโจทก์โดยไม่ตรงกับรูปคดีนั้น ศาลฎีกามีอำนาจที่จะยกเว้นมิให้โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
(อ้างฏีกา 640/2489)
คดีที่ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่เนื่องจากศาลชั้นต้นยกบทกฎหมายขึ้นยกฟ้องโจทก์โดยไม่ตรงกับรูปคดีนั้น ศาลฎีกามีอำนาจที่จะยกเว้นมิให้โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเช่าทรัพย์ แม้ไม่มีหนังสือ ตัวแทนต้องคืนประโยชน์ให้ตัวการ ศาลต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงก่อน
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าให้จำเลยเป็นตัวแทนไปรับโอนการเช่าและเช่าตึกมาแล้วกลับไม่ยอมโอนให้โจทก์นั้น เป็นเรื่องตัวการเรียกร้องเอาผลประโยชน์จากการที่ตัวแทนกระทำ แม้การตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือ ตัวแทนก็มีหน้าที่ต้องคืนให้โจทก์ ศาลจะยกเอาเหตุการตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือมายกฟ้องโจทก์เสียมิได้ (อ้างฎีกา 640/2489)
คดีที่ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่เนื่องจากศาลชั้นต้นยกบทกฎหมายขึ้นยกฟ้องโจทก์โดยไม่ตรงกับรูปคดีนั้นศาลฎีกามีอำนาจที่จะยกเว้นมิให้โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
คดีที่ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่เนื่องจากศาลชั้นต้นยกบทกฎหมายขึ้นยกฟ้องโจทก์โดยไม่ตรงกับรูปคดีนั้นศาลฎีกามีอำนาจที่จะยกเว้นมิให้โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและการละเมิดสิทธิ: เหตุอันควรสงสัยและการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
การที่จำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน ให้กับโจทก์และว่าโจทก์เป็นผู้ร้ายลักทรัพย์ ซึ่งศาลได้ตัดสินยกฟ้องในคดีนั้นไปแล้ว จะเป็นผิดฐานละเมิดหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันมาฎีกาต่อไปไม่ได้ตาม ม.219
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันมาฎีกาต่อไปไม่ได้ตาม ม.219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958-959/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงขัดแย้งพยานหลักฐาน ศาลสูงมีอำนาจแก้ไขคำพิพากษา
เมื่อสาลล่างวินิฉัยข้อเท็ดจิงไม่ตรงกับพยานหลักถานไนท้องสำนวน สาลดีกาย่อมธงไว้ซึ่งอำนาดที่จะวินิฉัยเปนหย่างอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ลงโทษจำเลยไม่ได้หากปฏิเสธชั้นศาล และศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีที่โจทก์ฎีกาฝ่ายเดียว
เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธชั้นศาล ศาลจะฟังคำรับสารภาพชั้นสอบสวนตามลำพังมาลงโทษจำเลยไม่ได้ คดีที่โจทก์ฎีกาฝ่ายเดียวศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริง และยกฟ้องโจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องเป็นลำดับ หากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงเองโดยที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัย ถือเป็นการละเมิดสิทธิอุทธรณ์
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องในข้อกฎหมายแต่มิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงมิได้รับการวินิจฉัยมาเป็นลำดับ ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงมาใหม่ตามลำดับ