คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วินิจฉัยคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยหลบหนีเรือนจำ ทำให้ศาลไม่สามารถวินิจฉัยคดีได้
จำเลยยื่นฎีกา โดยทนายจำเลยลงชื่อแทนในฎีกา แต่จำเลยได้หลบหนีเรือนจำไปก่อนวันยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้ ดังนี้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ เพราะจำเลยไม่มีตัวอยู่ในอำนาจศาล และสั่งจำหน่ายฎีกาของจำเลยเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงทำแผนที่เพื่อวินิจฉัยคดี: ศาลใช้หลักฐานที่คู่ความตกลงร่วมกันได้
คู่ความตกลงกันให้ศาลปูแผนที่หลังโฉนดเปรียบเทียบดูว่าที่พิพาทและกอไผ่ควรจะอยู่ในเขตของฝ่ายใด โดยต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป ถือเอาประเด็นข้อนี้เป็นข้อแพ้ชนะ ดังนี้ เป็นสิ่งที่ศาลสามารถจะพิจารณาความจริงหรือวินิจฉัยคดีไปตามหลักฐานที่คู่ความประสงค์เจาะจงอ้างอิงและตกลงกันไว้ ได้ เพราะไม่ใช่สิ่งพ้นวิสัยของบุคคลธรรมดาจะกระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลตรวจสถานที่เกิดเหตุหลังสืบพยานเสร็จ: ศาลมีอำนาจพิจารณาหลักฐานจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุได้ แม้ขอหลังสืบพยาน
ศาลไปตรวจที่เกิดเหตุตามคำขอของจำเลย แม้จำเลยจะขอเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนแถลงหมดพยานแล้ว ก็ดี ศาลก็มีอำนาจรับฟังการตรวจสถานที่เกิดเหตุมาวินิจฉัยคดี ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลตรวจสถานที่เกิดเหตุ แม้หลังสืบพยานเสร็จสิ้น
ศาลไปตรวจที่เกิดเหตุตามคำขอของจำเลย แม้จำเลยจะขอเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนแถลงหมดพยานแล้ว ก็ดี ศาลก็มีอำนาจรับฟังการตรวจสถานที่เกิดเหตุมาวินิจฉัยคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิมและการงดสืบพยานเมื่อมีข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยคดี
บิดาผู้ตายฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนอง ที่ผู้ตายจำนองเขาไว้โดยอ้างว่าเขารับจำนองไม่สุจริต เมื่อปรากฏว่า บิดาผู้ตายกับภรรยาผู้ตายเคยเป็นความกันเรื่องที่ดินแปลงนี้มาก่อนแล้ว และในคดีก่อนนั้นบิดาผู้ตายกล่าวในฟ้องว่าผู้รับจำนองรายที่กล่าวนี้รับจำนองจากผู้ตายโดยสุจริตดังนี้ ศาลย่อมรับฟังความข้อนี้จากฟ้องฉบับก่อนได้ว่า ผู้รับจำนองรับจำนองโดยสุจริตโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไป และแม้บิดาผู้ตายจะขอสืบว่า ความจริงผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยไม่สุจริต ศาลก็มีอำนาจงดสืบได้เพราะคดีฟังได้ดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลไม่เสียผลต่อการวินิจฉัยคดี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแล้ววินิจฉัยคดีได้
การที่ผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้น ซึ่งจะถือว่าเป็นความผิดของผู้ร้องสอดไม่ถนัด ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงอย่างใดกลับวินิจฉัยคดีให้ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาก็ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องแล้ววินิจฉัยคดีให้ถูกต้องจะอ้างว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาจึงไม่วินิจฉัยให้นั้น ยังไม่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลของผู้ร้องสอด: ศาลอุทธรณ์ชอบเรียกเก็บค่าธรรมเนียมก่อนวินิจฉัยคดีได้
การที่ผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้น ซึ่งจะถือว่าเป็นความผิดของผู้ร้องสอดไม่ถนัด ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงอย่างใด กลับวินิจฉัยคดีให้ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาก็ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องแล้ววินิจฉัยคดีให้จะอ้างว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาจึงไม่วินิจฉัยให้นั้น ยังไม่ถูกต้อง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19และ20/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสุจริตในทางอาญาและแพ่งต่างกัน การวินิจฉัยคดีแพ่งต้องพิจารณาความสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ
ในคดีอาญาศาลพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่พอฟังว่า จำเลยได้รู้เห็นสมคบในการรับโอนที่ดินโดยทุจริต และจำเลยก็นำสืบได้สมว่า ซื้อไว้โดยสุจริตใจแล้วชี้ขาดว่า หลักฐานไม่พอฟังว่า จำเลยเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น ย่อมหมายความแต่เพียงว่า จำเลยมิได้มีเจตนาทุจริตอันเป็นผิดในคดีอาญาเท่านั้นจะฟังว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินนั้นโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้
คำว่าสุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญาต่างกับคำว่าสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่นในเรื่องได้ทรัพย์มาสำหรับตามกฎหมายลักษณะอาญาหมายความเพียงว่า ไม่รู้สึกตนว่าทำการติดต่อกับผู้ร้าย ส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หมายความว่า ไม่รู้หรือไม่ควรจะรู้ถึงความบกพร่องแห่งกรรมสิทธิ์ที่มีมาในอดีต
การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเพียงไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สำนวนสอบสวนประกอบการวินิจฉัยคดี
สำนวนการสอบสวนที่โจทก์ส่งอ้างในระหว่างสืบพยานจำเลยศาลอาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัย เพื่อประกอบคดีได้ ไม่ผิดกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยคดีตามพยานหลักฐาน: ศาลฎีกาชี้ว่าการวินิจฉัยไม่ตรงกับพยานหลักฐานต่างจากการวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้อง
ปัญหากฎหมายข้อที่ว่าศาลล่างวินิจฉัยคดีผิดจากพะยานหลักฐานในสำนวนอันเป็นข้อกฎหมายที่จะฎีกาได้นั้นต้องปรากฎว่าศาลล่างวินิจฉัยตรงกันข้ามกับพะยานหลักฐาน+สำนวน เพียงแต่ศาลวินิจฉัยความถูกต้องคั่งที่ควรจะอ้างเป็นเหตุฎีกาข้อกฎหมายหาได้ไม่
of 4