พบผลลัพธ์ทั้งหมด 42 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแรงงาน: การฟ้องก่อนเกิดข้อพิพาท, วินิจฉัยนอกฟ้อง, และผลกระทบต่อการพิจารณา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2526 โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในวันที่ 10 ตุลาคม 2526 ดังนี้ ขณะฟ้องยังไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายเรื่องจำเลยเลิกจ้างโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกฟ้อง: ศาลต้องพิจารณาเฉพาะประเด็นที่โจทก์กล่าวอ้างเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า พ. บุตรโจทก์ถูกจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้เยาว์ทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ขอให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 3รับผิดต่อโจทก์ในฐานะบิดามารดาผู้ปกครองจำเลยที่ 3 และในฐานะที่เป็นผู้รับจ้างเลี้ยงดู พ. ไม่ระมัดระวังตามหน้าที่และวิชาชีพปล่อยปละละเลยให้ พ. ถูกทำร้าย ดังนี้ ข้อสำคัญอันเป็นมูลให้โจทก์ฟ้องก็คือจำเลยที่ 3 ทำร้าย พ. เท่านั้น หาได้เลยไปถึงกรณี พ. หกล้มเองไม่ ประเด็นที่ว่าพ. หกล้มจนขาหักเป็นเพราะจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในฐานะผู้รับจ้างเลี้ยงดูประมาทเลินเล่อหรือไม่จึงไม่มี การที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า พ. หกล้มเอง มิใช่ถูกจำเลยที่ 3ทำร้าย แต่พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันรับผิดต่อโจทก์เพราะเหตุที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่ใช้ความระมัดระวังดูแลรักษา พ.ตามควรแก่หน้าที่ จึง เป็นการพิพากษาในประเด็นที่เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2574/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกฟ้องนอกคำให้การเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่อยู่ในข้อห้ามอุทธรณ์
ปัญหาว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกคำให้การเป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
ฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์โจทก์ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเรื่องละ 200 บาท ตามตาราง 1 ข้อ (2) ไม่ใช่เสียตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท
ฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์โจทก์ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเรื่องละ 200 บาท ตามตาราง 1 ข้อ (2) ไม่ใช่เสียตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2574/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลวินิจฉัยนอกฟ้องนอกคำให้การเป็นปัญหาข้อกฎหมาย อุทธรณ์ได้
ปัญหาว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกคำให้การ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
ฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์โจทก์ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเรื่องละ 200 บาทตามตาราง 1 ข้อ(2) ไม่ใช่เสียตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท
ฎีกาขอให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์โจทก์ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเรื่องละ 200 บาทตามตาราง 1 ข้อ(2) ไม่ใช่เสียตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นนอกฟ้อง: ศาลต้องพิจารณาตามข้อหาที่โจทก์บรรยายฟ้องเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 พาโจทก์ไปซื้อที่ดินจำเลยที่ 2 แบ่งที่ดินสร้างเป็นห้อง 6 ห้อง ตกลงให้โจทก์เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินการเมื่อสร้างตึกแถวเสร็จจำเลยทั้งสามกลับร่วมกันฉ้อฉลโดยเอาตึกแถวของโจทก์ขายให้แก่จำเลยที่ 3 ฟ้องดังกล่าวมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์และจำเลยที่ 1 เข้าหุ้นส่วนกันซื้อที่ดินและปลูกตึกแถวขาย แต่เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินซึ่งจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 เอาตึกแถวของโจทก์ไปขายแก่จำเลยที่ 3 จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่เป็นหุ้นส่วนการที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนกันเพื่อก่อสร้างตึกขาย หุ้นส่วนยังไม่เลิกกัน ยังไม่ได้คิดบัญชีกันจึงเป็นการวินิจฉัยไม่ตรงประเด็นตามข้อหาในคำฟ้องไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 246
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ในคดีลักทรัพย์/รับของโจร ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพื่อย้อนสำนวน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรไก่ของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ ส่วนข้อหาฐานรับของโจรให้ยกจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ตั้งประเด็นวินิจฉัยว่าจำเลยรับของโจรไถ่ของกลางหรือไม่ แล้วพิพากษากลับให้ยกฟ้อง หาได้วินิจฉัยถึงความผิดฐานลักทรัพย์ตามอุทธรณ์ของจำเลยไม่ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ จำเป็นที่จะต้องย้อนสำนวนเนื่องจากศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา และเพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นไปตามลำดับศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2), 225 ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์: ศาลต้องพิจารณาประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ตามลำดับชั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรไก่ของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ส่วนข้อหาฐานรับของโจรให้ยกจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์ศาลอุทธรณ์ตั้งประเด็นวินิจฉัยว่าจำเลยรับของโจรไก่ของกลางหรือไม่แล้วพิพากษากลับให้ยกฟ้องหาได้วินิจฉัยถึงความผิดฐานลักทรัพย์ตามอุทธรณ์ของจำเลยไม่ดังนี้เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์จำเป็นที่จะต้องย้อนสำนวนเนื่องจากศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาและเพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นไปตามลำดับศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2),225 ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเพิกถอนนิติกรรมยกที่ดินและการวินิจฉัยนอกฟ้องในประเด็นการแบ่งมรดก
เมื่อฟ้องโจทก์เป็นเรื่องขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกที่ดินให้ ส. ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยโดยอ้างว่าเดิม ส. ได้หลอกลวงให้โจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือในแบบพิมพ์เพื่อไปถอนชื่อสามีโจทก์ซึ่งถึงแก่กรรมออกจาก ส.ค.1 และขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในชื่อโจทก์ แล้ว ส. กลับไปกรอกข้อความยกที่ดินโจทก์ให้แก่ ส. เอง ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นมารดาของ ส. และเป็นทายาทโดยธรรมของ ส. จำเลยเป็นคู่สมรสพิพากษาให้แบ่งที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยคนละครึ่งนั้น ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งมรดกของ ส. ในฐานะทายาทโดยธรรม คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมของ ส. จะมีส่วนแบ่งในที่พิพาทคนละเท่าใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกาตัดสินประเด็นการวินิจฉัยนอกฟ้อง และการงดสืบพยานที่ไม่ชอบ รวมถึงหน้าที่การนำสืบของคู่ความ
ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนซึ่งเป็นข้อยกเว้นให้ศาลยกขึ้นวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีไปได้โดยไม่ต้องมีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างนั้น จะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบเมื่อคดีไม่มีประเด็นโต้เถียงกันว่าหนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นหนี้รายเดียวกับในคดีเดิม ย่อมไม่มีข้อเท็จจริงที่จะให้วินิจฉัยว่าเป็นหนี้รายเดียวกันและระยะเวลาบังคับคดีได้สิ้นสุดลงแล้วแม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตาม หากศาลหยิบยกข้อเท็จจริงในคดีอื่นมาวินิจฉัยแล้วมีคำพิพากษาไป ย่อมเป็นการชี้ขาดตัดสินนอกฟ้องนอกประเด็นต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นสั่งวันที่ 14 และนัดฟังคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีวันที่ 18เดือนเดียวกัน คู่ความที่ไม่เห็นด้วยมีโอกาสพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ แต่ไม่โต้แย้งไว้ ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้น
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกยึดหนึ่งในสาม ผู้ร้องจึงมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อไม่มีการสืบพยานข้อเท็จจริงย่อมฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นสั่งวันที่ 14 และนัดฟังคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีวันที่ 18เดือนเดียวกัน คู่ความที่ไม่เห็นด้วยมีโอกาสพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ แต่ไม่โต้แย้งไว้ ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้น
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกยึดหนึ่งในสาม ผู้ร้องจึงมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อไม่มีการสืบพยานข้อเท็จจริงย่อมฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกาตัดสินคดีบังคับคดี: การวินิจฉัยนอกฟ้องต้องมีประเด็นข้อพิพาท & การงดสืบพยานต้องโต้แย้งทันที
ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งเป็นข้อยกเว้นให้ศาลยกขึ้นวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีไปได้โดยไม่ต้องมีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างนั้น จะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบเมื่อคดีไม่มีประเด็นโต้เถียงกันว่าหนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นหนี้รายเดียวกับในคดีเดิม ย่อมไม่มีข้อเท็จจริงที่จะให้วินิจฉัยว่าเป็นหนี้รายเดียวกันและระยะเวลาบังคับคดีได้สิ้นสุดลงแล้วแม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตาม หากศาลหยิบยกข้อเท็จจริงในคดีอื่นมาวินิจฉัยแล้วมีคำพิพากษาไป ย่อมเป็นการชี้ขาดตัดสินนอกฟ้องนอกประเด็น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นสั่งวันที่ 14 และนัดฟังคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีวันที่ 18 เดือนเดียวกัน คู่ความที่ไม่เห็นด้วยมี โอกาสพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ แต่ไม่โต้แย้งไว้ ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้น
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกยึดหนึ่งในสาม ผู้ร้องจึงมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อไม่มีการสืบพยาน ข้อเท็จจริงย่อมฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นสั่งวันที่ 14 และนัดฟังคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีวันที่ 18 เดือนเดียวกัน คู่ความที่ไม่เห็นด้วยมี โอกาสพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ แต่ไม่โต้แย้งไว้ ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้น
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกยึดหนึ่งในสาม ผู้ร้องจึงมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อไม่มีการสืบพยาน ข้อเท็จจริงย่อมฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น