คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สถานะทางกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 46 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะบริวารของผู้เช่าช่วงและการบังคับคดีไล่ที่
จำเลยเป็นผู้เช่าห้องพิพาทจากโจทก์ผู้ร้องอ้างว่าเป็นหุ้นส่วนกับจำเลย แต่ไม่มีข้ออ้างประการใดที่อ้างความเป็นหุ้นส่วนนั้นขึ้นยันโจทก์ได้ ผู้ร้องจึงมีฐานะเป็นบริวารจำเลยและอยู่ในฐานะที่จะต้องถูกบังคับให้ออกจากห้องพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการรับมรดกของบุตรที่ไม่ได้เกิดจากภรรยาที่จดทะเบียนสมรส การนำสืบสถานะทางกฎหมาย
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า เด็กทั้งสามเป็นบุตรนายหร่ำสามีโจทก์ผู้วายชนม์ไปแล้ว แต่หากได้บรรยายไว้ชัดแจ้งด้วยว่าเด็กทั้งสามซึ่งเกิดแต่นายหร่ำผู้วายชนม์ เป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับสายตามบัญชีเครือญาติท้ายฟ้อง และในบัญชีเครือญาติก็ทำเครื่องหมายไว้ที่ท้ายชื่อโจทก์ ซึ่งตรงกับเครื่องหมายที่หมายเหตุข้างล่างนั้นว่า "ฯลฯ สมรสภายหลังเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และไม่ได้จดทะเบียนสมรส" ดังนี้ ย่อมแสดงอยู่ในตัวแล้วว่าโจทก์ประสงค์จะนำสืบว่าผู้เยาว์เหล่านั้นเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับสายในบัญชีเครือญาติได้โดยเหตุผลประการใด เช่น นำสืบว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ตามนัยมาตรา 1524,1526 หรือ 1529 (5) หรือเป็นบุตรที่บิดาได้รับรองแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำตามมาตรา 1627 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งมีสิทธิสืบมรดกนายฉิม นางแสงตามลำดับเครือญาติได้ตามมาตรา 1629 (1) และที่โจทก์แถลงต่อศาลชั้นต้นว่าผู้เยาว์ดังกล่าวไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำนั้น ก็แถลงไปตามเหตุที่ว่า นายหร่ำกับนางเปรมโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันดังที่หมายเหตุไว้ในบัญชีเครือญาติแล้วนั่นเอง หาใช่แถลงเพื่อสละสิทธิที่จะนำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ตามความนัยแห่งกฎหมายดังกล่าวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะบุตรบุญธรรมกับการยอมความในคดีอาญา: บุตรบุญธรรมไม่ใช่ผู้สืบสันดาน
คำว่าสืบสันดานตามพจนานุกรมหมายความว่าสืบเชื้อสายมาโดยตรง และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1586, 1587, 1627 แสดงว่า บุตรบุญธรรมย่อมมีฐานะแตกต่างกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรม และผู้รับบุตรบุญธรรมก็มีฐานะต่างกับบุพการีโดยตรงของบุตรบุญธรรมอยู่หลายประการ มาตรา 1586, 1627 เป็นบทบัญญัติพิเศษให้สิทธิบางประการแก่บุตรบุญธรรมในทางแพ่งเกี่ยวกับสัมพันธ์ทางครอบครัวและมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรมเท่านั้น ต้องใช้โดยเคร่งครัด เฉพาะการตีความถ้อยคำในประมวลกฎหมายอาญาก็ต้องตีความโดยเคร่งครัด จึงหาชอบที่จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังกล่าวมาใช้ตีความคำว่า ผู้สืบสันดาน ตามมาตรา 71 วรรค 2 ไม่ บุตรบุญธรรมจึงไม่ใช่ผู้สืบสันดานกระทำต่อบุพการีตามมาตรา 71 จึงยอมความไม่ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะบุตรบุญธรรมกับการยอมความในคดีอาญา: ไม่ถือเป็นผู้สืบสันดาน
คำว่าสืบสันดานตามพจนานุกรมหมายความว่าสืบเชื้อสายมาโดยตรง และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1586, 1587,1627 แสดงว่า บุตรบุญธรรมย่อมมีฐานะแตกต่างกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรม และผู้รับบุตรบุญธรรมก็มีฐานะต่างกับบุพการีโดยตรงของบุตรบุญธรรมอยู่หลายประการ มาตรา 1586,1627 เป็นบทบัญญัติพิเศษให้สิทธิบางประการแก่บุตรบุญธรรมในทางแพ่งเกี่ยวกับสัมพันธ์ทางครอบครัวและมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรมเท่านั้น ต้องใช้โดยเคร่งครัด เฉพาะการตีความถ้อยคำในประมวลกฎหมายอาญาก็ต้องตีความโดยเคร่งครัด จึงหาชอบที่จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังกล่าวมาใช้ตีความคำว่าผู้สืบสันดาน ตามมาตรา 71 วรรคสอง ไม่ บุตรบุญธรรมจึงไม่ใช่ผู้สืบสันดานกระทำต่อบุพการีตามมาตรา 71 จึงยอมความไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการแบ่งทรัพย์สินของเจ้าของร่วม แม้ไม่มีสถานะทางกฎหมายเป็นสามีภริยา และขอบเขตการฎีกาซ้ำ
เมื่อศาลพิพากษาคดีครั้งแรก ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้พิพากษาใหม่ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะเดิมย่อมทำคำพิพากษาใหม่ได้ ไม่มีกฎหมายบังคับให้เปลี่ยนผู้พิพากษา
ศาลฎีกาวินิจฉัยคดีเดียวกันนี้ไว้ครั้งหนึ่งว่า แม้โจทก์จำเลยจะมีฐานะเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม ทรัพย์ที่โจทก์จำเลยหาได้ร่วมกัน โจทก์มีสิทธิฟ้องขอแบ่งส่วนของโจทก์ได้ การที่ศาลจะวินิจฉัยให้โจทก์จำเลยแบ่งทรัพย์สินกันในฐานะเจ้าของร่วมหาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ คำวินิจฉัยของศาลฎีกาในเรื่องนี้ย่อมเป็นอันยุติ และศาลฎีกาได้พิพากษาให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องทรัพย์ที่โจทก์ขอแบ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยไว้แล้วให้พิพากษาใหม่ โจทก์จะฎีกาได้เฉพาะข้อที่ศาลฎีกาให้พิพากษาใหม่เท่านั้น จะรื้อฟื้นข้อที่ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้หรือข้ออื่นที่มิได้พิพากษาให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกไม่ได้เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการยอมความและการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของทางเดินสาธารณะหลังศาลพิพากษา
โจทก์จำเลยทำยอมความกันว่า ให้ถือตรอกทางเดินที่พิพาทเป็นทางสาธารณะ และจำเลยยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปศาลพิพากษาตามยอมและจำเลยปฏิบัติตามยอมแล้วต่อมาโจทก์กลับปลูกสร้างขึ้นบนทางเดินนั้นดังนี้ จำเลยจะมาร้องขอในคดีเดิมให้บังคับโจทก์รื้อไม่ได้เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่ใช่กรณีตามยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้ออ้างเรื่องสถานะทางกฎหมายของเรือน (อสังหาริมทรัพย์/สังหาริมทรัพย์) และขอบเขตการสืบพยานที่ต้องเป็นไปตามประเด็นที่ตั้งไว้
ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า ได้ซื้อเรือนที่โจทก์นำยึดโดยทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานแล้ว ขอให้ถอนการยึด แต่จะขอสืบพยานว่าขัดข้องในการจดทะเบียน เพราะเจ้าของที่ดินไม่ยอม จึงได้จัดการที่จะรื้อถอนไปซึ่งเป็นการซื้อสังหาริมทรัพย์เพียงแต่ทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือก็ใช้ได้เช่นนี้ หาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบพยานผิดไปจากที่ตั้งประเด็นวิวาทไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงสถานะจากบริวารเป็นผู้เช่ารายใหม่หลังเลิกสัญญาเดิม ทำให้สิทธิในการบังคับคดีต่างกัน
แม้เดิมนายเซ่งกั้วจะอยู่ในตึกพิพาทระหว่างอายุสัญญาเช่าที่ห้างหุ้นส่วนจำเลยได้ทำกับโจทก์ โดยนายเซ่งกั้วเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ อันเป็นการอยู่ในฐานะเป็นบริวารของจำเลยมาก่อนก็ตาม แต่เมื่อห้างหุ้นส่วนจำเลยเลิกกิจการตามวัตถุประสงค์แห่งการเช่าและกำหนดเวลาตามสัญญาเช่าที่ผูกพันห้างหุ้นส่วนจำเลยหมดไปแล้ว แม้ถึงว่าห้างหุ้นส่วนจำเลยจะยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนตามกฎหมายก็ดี หากโจทก์ได้ตกลงให้นายเซ่งกั้วเช่าแม้ด้วยวาจา และนายเซ่งกั้วเปิดห้องพิพาทเป็นร้านขายอาหารชื่อพัฒนาหาร และทั้งโจทก์ก็ออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าเป็นรับเงินจากร้านพัฒนาหาร ไม่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำเลยตามวัตถุประสงค์เดิมแต่อย่างใดเลย เช่นนี้ เป็นการตกลงกันใหม่ ระหว่างโจทก์กับนายเซ่งกั้ว เจ้าของกิจการร้านพัฒนาหารแล้ว นายเซ่งกั้วจึงไม่ใช่บริวารของห้างหุ้นส่วนจำเลยเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และสิทธิในทรัพย์มรดก
ฟ้องว่า โจทก์เป็นน้องเจ้ามรดกจำเลยเป็นลูกจ้างเจ้ามรดกทายาทอื่นไม่มี จำเลยลอบเอาโฉนดมรดกไปโอนรับมรดกอ้างว่าเป็นสามีขอเพิกถอนการโอน จำเลยให้การว่าจำเลยเป็นสามีเจ้ามรดกดังนี้โจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยไม่รับ โจทก์ต้องพิสูจน์ที่ดินอยู่ในครอบครองของจำเลยและได้แก้ทะเบียนโอนโฉนดเป็นชื่อจำเลยไปแล้วโจทก์ฟ้องขอเพิกถอนการโอนโจทก์จะสืบว่า โจทก์เป็นทายาทเท่านั้นไม่พอต้องสืบว่าการโอนทำโดยจำเลยไม่มีอำนาจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะผู้เช่าห้องในที่ดินของผู้อื่น แม้เจ้าของที่ดินยินยอม ก็ยังเป็นบริวารของผู้ให้เช่าห้อง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ปลูกห้องแถว เมื่อเลิกสัญญาต้องรื้อไปห้องแถวเป็นของจำเลย ผู้เช่าห้องแถวจำเลยเป็นบริวารอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยอาศัยอำนาจของจำเลย แต่ไม่ใช่ผู้เช่าช่วงที่ดิน แม้โจทก์จะรู้เห็นยินยอมในการเช่าห้องแถว ผู้เช่าห้องแถวก็อ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ ยันโจทก์ไม่ได้
of 5