พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ว่าผู้รับเช็คสมคบกันฉ้อฉล จำเลยมีสิทธิสืบพยานเพื่อปฏิเสธความรับผิด
จำเลยให้การว่าออกเช็คให้ผู้อื่นเพื่อไปซื้อของให้จำเลยแล้วผู้นั้นพาเช็คหลบหนีไป ต่อมาโจทก์ได้รับเช็คดังกล่าวจากผู้พาเช็คหลบหนีไปโดยสมคบกันเพื่อมาเรียกร้องเอาเงินจากจำเลย ด้วยเจตนาทุจริตและปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ ถือได้ว่าจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ได้รับเช็ครายพิพาทจากผู้ที่พาเช็คหลบหนีไป โดยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยฉะนั้นจำเลยชอบที่จะนำพยานสืบปฏิเสธความรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์ ไม่ได้สมคบฆ่า ความผิดฐานพยายามฆ่าจึงไม่成立
จำเลยกับพวกสมคบกันไปปล้นผู้โดยสารรถยนต์ประจำทาง มิได้สมคบกันไปฆ่า เมื่อพวกของจำเลยคนหนึ่งไปยิงผู้โดยสารที่ถูกปล้นบาดเจ็บสาหัส โดยจำเลยไม่ได้เป็นผู้ยิง จะปรับเป็นความผิดของจำเลยฐานพยายามฆ่าคนด้วยไม่ได้ จำเลยคงมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์แล้วเกิดการเสียชีวิต การพิสูจน์ความรับผิดทางอาญาต่อการฆ่า
จำเลยสมคบกับพวกทำการปล้นทรัพย์ เมื่อปล้นทรัพย์แล้วระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการจับกุมและปกปิดการกระทำของพวกตน พวกของจำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นคนใดได้ยิงพวกผู้เสียหายถึงตาย เป็นเรื่องสมคบกันมาปล้นทรัพย์แล้วมีการตายเกิดขึ้น เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยิงพวกเจ้าทรัพย์ตายหรือจำเลยได้สมคบกับคนร้ายในการปล้นรายนี้ฆ่าพวกของเจ้าทรัพย์หลังจากทำการปล้นทรัพย์แล้ว และระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์แล้วมีผู้เสียชีวิต โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับการฆ่าโดยตรงจึงจะผิดตาม ม.289(7)
จำเลยสมคบกับพวกทำการปล้นทรัพย์. เมื่อปล้นทรัพย์แล้วระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการจับกุมและปกปิดการกระทำของพวกตน. พวกของจำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นคนใดได้ยิงพวกผู้เสียหายถึงตาย. เป็นเรื่องสมคบกันมาปล้นทรัพย์แล้วมีการตายเกิดขึ้น. เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยิงพวกเจ้าทรัพย์ตายหรือจำเลยได้สมคบกับคนร้ายในการปล้นรายนี้ฆ่าพวกของเจ้าทรัพย์หลังจากทำการปล้นทรัพย์แล้ว และระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไป.ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(7).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสมคบฉุดคร่าข่มขืน ไม่ถึงเจตนาปล้นทรัพย์ แม้พรรคพวกจะกระทำ
จำเลยสมคบร่วมกับพวกไปดักฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา มิได้มุ่งประสงค์ต่อทรัพย์แต่พรรคพวกของจำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไปด้วย อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที จะฟังว่าจำเลยสมคบรู้เห็นกับพวกในการลักทรัพย์ผู้เสียหายนั้นด้วยไม่ได้ จำเลยคงมีผิดฐานฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสมคบข่มขืนกระทำชำเรา ไม่ถือเป็นการสมคบปล้นทรัพย์ แม้จะมีเหตุการณ์ลักทรัพย์เกิดขึ้น
จำเลยสมคบร่วมกับพวกไปดักฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา มิได้มุ่งประสงค์ต่อทรัพย์.แต่พรรคพวกของจำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไปด้วย อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที. จะฟังว่าจำเลยสมคบรู้เห็นกับพวกในการลักทรัพย์ผู้เสียหายนั้นด้วยไม่ได้. จำเลยคงมีผิดฐานฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันปล้นทรัพย์และร่วมกันพยายามฆ่า: ความรับผิดของผู้ร่วมกระทำผิด
จำเลยกับพวกรวม 4 คน ทำการปล้นทรัพย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยกับพวกอีก 4 คนขึ้นไปเอาทรัพย์บนเรือน พวกจำเลยอีกคนหนึ่งถือปืนเฝ้าอยู่ใต้ถุนเพื่อคอยขัดขวางผู้ที่จะมาช่วยผู้เสียหายโดยใช้ปืนนั้นยิง เมื่อคนร้ายนั้นใช้ปืนยิงผู้ที่จะมาช่วยบาดเจ็บสาหัส จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์ร่วมกันพยายามฆ่า: การร่วมกระทำผิดและเจตนา
จำเลยกับพวกรวม 4 คน ทำการปล้นทรัพย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยกับพวกอีก 2 คนขึ้นไปเอาทรัพย์บนเรือน พวกจำเลยอีกคนหนึ่งถือปืนเฝ้าอยู่ใต้ถุนเพื่อคอยขัดขวางผู้ที่จะมาช่วยผู้เสียหายโดยใช้ปืนนั้นยิง เมื่อคนร้ายนั้นใช้ปืนยิงผู้ที่จะมาช่วยบาดเจ็บสาหัส จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเอกสารปลอม จำเป็นต้องแสดงข้อเท็จจริงการสมคบหรือร่วมมือกระทำความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264, 265, 268, 83 ที่โจทก์อ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกันโกงเจ้าหนี้ต้องอาศัยความสัมพันธ์เจ้าหนี้-ลูกหนี้ที่พิสูจน์ได้ หากไม่มีความสัมพันธ์ดังกล่าว การกระทำจึงไม่เป็นความผิด
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินจาก ห. จำเลยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ระหว่างนั้น ห.โอนทรัพย์ให้ ก. โจกท์จึงฟ้อง ห.กับก. เป็นคดีอาญา ว่าสมคบกันโกงเจ้าหนี้ ครั้นเมื่อคดีอาญานี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาปรากฎว่าคดีแพ่งนั้นถึงที่สุดแล้วโดยศาลพิพากษาว่าโจทก์กับห.จำเลยมิได้เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ต่อกัน ดังนี้ ก็ไม่อาจมีการกระทำความผิดตามมาตรา 350 แห่งประมวลกฎหมายอาญาดังที่โจทก์อ้างมาได้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีอาญาด้วย