คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สมยอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ: โจทก์สมยอมทำหลักฐานเท็จ แต่จำเลยฉวยโอกาสฟ้องเท็จ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้อง
จำเลยเอาข้อความที่โจทก์แจ้งต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิตไปฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน. ซึ่งจำเลยทราบดีว่าหาใช่ความเท็จไม่. แต่ฉวยโอกาสที่โจทก์ทำหลักฐานอันไม่ตรงกันความจริง.ไว้ที่พนักงานสอบสวนอันเนื่องมาจากที่โจทก์จำเลยสมยอมกันเพื่อขอรับเงินรางวัลนำจับฝิ่น มาฟ้องกล่าวหาโจทก์. ข้อตกลงสมยอมเช่นนี้ จะถือว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายอันจะมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จในคดีนี้หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีล้มละลายเมื่อเจ้าหนี้คัดค้านว่าเป็นการสมยอม เจ้าหนี้ต้องพิสูจน์การกู้ยืม
ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เมื่อเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คัดค้านว่าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจากการสมยอม ผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ย่อมมีภาระในการนำสืบแสดงตามข้ออ้างของตนหากผู้ร้องนำสืบแสดงเช่นนั้นไม่ได้ ศาลย่อมไม่อนุญาตให้รับชำระหนี้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379-380/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์โดยสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ แม้ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ก็ยังเพิกถอนได้
การโอนขายทรัพย์โดยสมยอมกันอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้น แม้ศาลจะได้พิพากษาตามยอมให้ลูกหนี้โอนทรัพย์แก่บุคคลอื่นแล้วก็ตาม เจ้าหนี้ก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการโอนโดยไม่สุจริตนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่เกิดจากการสมยอมฉ้อฉลเจ้าหนี้
โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนทำลายสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลที่จำเลยสมยอมกันทำขึ้นเพื่อการฉ้อฉลให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความเนื่องจากฉ้อฉลและการสมยอมกันเพื่อทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนทำลายสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลที่จำเลยสมยอมกันทำขึ้นเพื่อการฉ้อฉลให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินบริคณห์ถูกยึดชำระหนี้ได้ แม้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความภายหลังได้ หากเป็นการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงการยึด
ทรัพย์สินที่จำเลยและผู้ร้องได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยาอันเป็นสินบริคณห์นั้น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยย่อมมีสิทธิยึดทรัพย์ได้ ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเสียก่อน
การที่จำเลยซึ่งเป็นสามีให้การยอมให้โจทก์นำยึดทรัพย์เพื่อใช้หนี้ ต่อมาไม่ถึง 3 เดือน จำเลยกับผู้ร้องซึ่งเป็นภรรยามาทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า ผู้ร้องไม่ใช่ภรรยาของจำเลย ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่เป็นทรัพย์ที่จัดหาและมีขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ร้อง เช่นนี้ ย่อมเป็นการสมยอมกัน จะต้องกันมิให้ทรัพย์พิพาทถูกยึดมาใช้หนี้โจทก์ ฉะนั้น จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าธรรมดา vs. สัญญาต่างตอบแทน และผลกระทบต่อระยะเวลาการเช่า รวมถึงการสมยอมเพื่อขับไล่ผู้เช่า
ในการทำสัญญาเช่าห้อง ผู้เช่าออกเงินให้ผู้ให้เช่า 5,000 บาท ในสัญญาเช่ากล่าวถึงว่าเป็นเงินค่าก่อสร้างค่าแป๊ะเจี๊ยะ เมื่อคดีได้ความว่าในขณะทำสัญญานี้ ผู้ให้เช่ามีห้องพร้อมอยู่แล้วไม่จำต้องก่อสร้างขึ้นแต่อย่างใด ดังนี้ เงินที่ผู้เช่าออกไปนั้นจึงไม่ใช่เงินค่าก่อสร้าง คงเป็นเงินกินเปล่าตามธรรมดา สัญญาเช่าจึงเป็นสัญญาเช่าธรรมดาไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน
สัญญาเช่าที่ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน เมื่อกำหนดระยะเวลาเช่าได้ 10 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียนการเช่านั้น คงบังคับกันได้เพียง 3 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมค่าเช่า: สิทธิของผู้เช่าช่วง
เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ามาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินซึ่งมีเนื้อที่เพียงเท่าที่ตัวตึกตั้งอยู่ จำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์เลย โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่าและการบังคับชำระหนี้: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้ได้โดยไม่ต้องเพิกถอนนิติกรรม
โจทก์นำยึดทรัพย์อ้างว่าเป็นของสามีซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาภรรยาร้องขัดทรัพย์อ้างว่าหย่าขาดจากสามีและแบ่งทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นแล้วโดยทรัพย์นั้นเป็นของภรรยาและบุตรเช่นนี้ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยว่าการหย่าและแบ่งทรัพย์เช่นว่านี้เป็นการยินยอมเพื่อให้ทรัพย์ที่ยึดหลุดพ้นจากการถูกบังคับชำระหนี้ได้โดยมิต้องให้โจทก์ไปฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการหย่าแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน: ศาลพิจารณาการสมยอมกันและการฉ้อฉลเจ้าหนี้
คดีร้องขัดทรัพย์ โจทก์ให้การแก้คำร้องว่าจำเลยกับผู้ร้องโอนทรัพย์กันโดยสมยอม เป็นเจตนาลวงตกเป็นโมฆะตามมาตรา118ศาลจะวินิจฉัยว่า การโอนทำให้โจทก์เสียเปรียบเป็นการฉ้อฉลที่เพิกถอนได้ตามมาตรา237 ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
of 7