คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สมาชิก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 78 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4911/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยุบพรรคการเมืองเนื่องจากไม่มีสมาชิกได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป
การที่พรรคดำรงไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองได้ส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไปแต่ไม่มีสมาชิกของพรรคดำรงไทยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปดังกล่าวนั้นเลยพรรคดำรงไทยจึงต้องเลิกตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา46(4)แห่งพระราชบัญญัติพรรคการเมืองพ.ศ.2524แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2535มาตรา7

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4757/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาบริการสมาชิก ค่าปรับไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ถือเป็นดอกเบี้ย
ข้อกำหนดข้อ5ระบุถึงการชำระเงินในกรณีที่ไม่ได้เป็นไปตามปกติโจทก์อาจจะคิดเงินจากจำเลยทั้งสามจำนวน300บาทที่จะทดแทนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของโจทก์หรือจำนวน500บาทเมื่อเช็คหรือดราฟท์แต่ละฉบับไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ภายในเวลา3เดือนสำหรับข้อกำหนด6ระบุถึงค่าปรับในกรณีที่ผิดนัดชำระหนี้ทั้งนี้โจทก์จะเรียกค่าปรับจากจำเลยทั้งสามได้ต่อเมื่อโจทก์ไม่ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าและค่าบริการครบจำนวนตามที่แสดงไว้ในใบเก็บเงินในวันปิดบัญชีรายเดือนในเดือนถัดไปซึ่งเป็นจำนวนยอดเงินค้างชำระจากงวดก่อนโดยค่าปรับประกอบด้วยค่าทดแทนการออกเงินทุนเพิ่ม1เปอร์เซ็นต์และค่าปรับเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายจากการเรียกเก็บเงิน2.5เปอร์เซนต์เห็นได้ว่ากิจการของโจทก์เป็นการให้บริการแก่สมาชิกไม่มีลักษณะเป็นการให้กู้ยืมเงินค่าปรับตามข้อกำหนดดังกล่าวไม่ใช่ดอกเบี้ยสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาประเภทหนึ่งไม่อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา224และมาตรา654และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของมติที่ประชุมใหญ่สมาคมที่ประธานไม่เป็นสมาชิก และการดำเนินการตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ณ ขณะนั้น
การร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ อ้างว่าไม่ชอบด้วยข้อบังคับของสมาคมนั้น เมื่อปรากฏว่าขณะเกิดเหตุ ป.พ.พ. ลักษณะ 23ว่าด้วยสมาคมยังใช้บังคับอยู่ จึงต้องดำเนินการตาม ป.พ.พ. มาตรา 1291 ที่ใช้อยู่ในขณะเกิดเหตุ
อ. ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมโดยมิได้เป็นสมาชิกสามัญของผู้คัดค้าน ซึ่งขัดต่อข้อบังคับของผู้คัดค้านหมวดที่ 6 ข้อ 30 แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกคนหนึ่งคนใดของผู้คัดค้านหรือพนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมดังกล่าว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1291 มติที่ประชุมใหญ่ที่ อ. เป็นประธานที่ประชุม จึงมีผลใช้บังคับหาเสียไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะ 'ฝ่ายบริหาร' ใน พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์: ผู้จัดการสาขาธนาคารไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกสมาคมพนักงาน
พ.ร.บ.พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2534 มาตรา 4วรรคสาม บัญญัติว่า "พนักงาน หมายความว่า พนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจแต่ไม่หมายความรวมถึงฝ่ายบริหาร" และวรรคสี่ บัญญัติว่า "ฝ่ายบริหาร หมายความว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ระดับหัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป และหมายความรวมถึงผู้อำนวยการ ผู้ว่าการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการด้วย"โจทก์ทั้งสี่เป็นหัวหน้าหน่วยงานโดยเป็นพนักงานในตำแหน่งผู้จัดการสาขาของธนาคาร ก.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสี่เป็นผู้จัดการอันเป็นฝ่ายบริหารตามความหมายของ พ.ร.บ.พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2534 มาตรา 4 วรรคสี่ หาใช่เป็นเพียงพนักงานตามบทกฎหมายดังกล่าวในมาตรา 4 วรรคสาม ไม่ โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าโจทก์ทั้งสี่มีอำนาจเด็ดขาดในการพิจารณาให้คุณให้โทษแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยตนเองหรือไม่ เมื่อโจทก์ทั้งสี่เป็นฝ่ายบริหาร โจทก์ทั้งสี่จึงไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกหรือกรรมการของสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ ตาม พ.ร.บ.พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์พ.ศ.2534 มาตรา 4, 30, 35

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9035/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเดิมห้ามฟ้องไล่เบี้ยซ้ำ หากศาลเดิมวินิจฉัยแล้วว่าจำเลยไม่ได้เป็นสมาชิกและไม่ต้องรับผิดร่วม
โจทก์และจำเลยในคดีนี้กับป.เคยถูกช.ฟ้องเป็นจำเลยให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากรถยนต์แท็กซี่ของจำเลยซึ่งขับโดยป.ชนรถยนต์ของช.เสียหายคดีถึงที่สุดโดยศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ป. และโจทก์ร่วมกันชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแก่ช.ส่วนจำเลยศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้นำรถยนต์แท็กซี่พิพาทเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโจทก์เพื่อประโยชน์ร่วมกันแม้โจทก์กับจำเลยคดีนี้จะเป็นจำเลยด้วยกันก็ตามก็ต้องถือว่าโจทก์และจำเลยเป็นคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลในคดีก่อนด้วยคำพิพากษาในคดีก่อนจึงมีผลผูกพันโจทก์และจำเลยคดีนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145วรรคแรกข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าจำเลยไม่ได้นำรถยนต์แท็กซี่พิพาทเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโจทก์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน แม้ในแบบพิมพ์คำร้องขอลาออกจากการเป็นสมาชิกของโจทก์ซึ่งจำเลยลงชื่อจะมีข้อความว่าหากจำเลยหรือบุคคลที่จำเลยมอบหมายให้ขับรถยนต์แท็กซี่คันพิพาทได้กระทำละเมิดต่อบุคคลอื่นทำให้โจทก์ต้องร่วมรับผิดและทางโจทก์มาทราบผลละเมิดภายหลังที่จำเลยได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกจำเลยขอรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อโจทก์ทั้งสิ้นและขอสละข้อต่อสู้ต่างๆทั้งหมดในการที่โจทก์ฟ้องไล่เบี้ยเรียกค่าเสียหายก็ตามเงื่อนไขตามเอกสารดังกล่าวจะต้องเป็นกรณีละเมิดที่เกิดในระหว่างที่จำเลยเป็นสมาชิกและนำรถยนต์แท็กซี่พิพาทเข้าวิ่งร่วมกับโจทก์ตามสัญญารถร่วมด้วยเมื่อข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาในคดีก่อนซึ่งถึงที่สุดและผูกพันโจทก์และจำเลยว่าจำเลยไม่ได้นำรถยนต์แท็กซี่พิพาทเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโจทก์เพื่อประโยชน์ร่วมกันและจำเลยไม่ต้องรับผิดร่วมกับโจทก์แล้วโจทก์จะมาฟ้องไล่เบี้ยเอาจากจำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงานต้องได้รับมติจากที่ประชุมใหญ่ แม้การฟ้องเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก
โจทก์ฟ้องคดีโดยอาศัยมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานโดยไม่มีมติของที่ประชุมใหญ่ แม้การฟ้องคดีเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการจัดการและดำเนินการเพื่อให้สมาชิกได้รับประโยชน์ตามมาตรา 98 (2) แห่งพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 ก็ตาม แต่การฟ้องคดีนี้ไม่เพียงแต่ศาลพิพากษาโดยการวินิจฉัยชี้ขาดข้อโต้เถียงของคู่ความเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่อันมีอยู่ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเพื่อหาข้อยุติเท่านั้น หากแต่การดำเนินคดีย่อมต้องใช้ความจัดเจนในการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและถูกต้อง นอกจากนี้โจทก์จำเลยยังอาจทำการประนีประนอมยอมความกันให้ผิดแผกไปจากข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ทำไว้ก็ได้ ผลของคำพิพากษาย่อมผูกพันลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกโจทก์กับจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างให้ต้องปฏิบัติตาม อันอาจกระทบกระเทือนถึงส่วนได้เสียของลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกเป็นส่วนรวม ซึ่งตามมาตรา 103 (2) แห่งพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 บัญญัติว่า สหภาพแรงงานจะกระทำการได้ก็แต่โดยมติของที่ประชุมใหญ่ ในกรณีดำเนินกิจการอันอาจกระทบกระเทือนถึงส่วนได้เสียของสมาชิกเป็นส่วนรวม บทบัญญัติดังกล่าวนี้มุ่งหมายให้มีการทบทวนและไตร่ตรองให้รอบคอบโดยผ่านมติที่ประชุมใหญ่เสียก่อนที่จะดำเนินการ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยไม่มีมติของที่ประชุมใหญ่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3843/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนกรรมการบริหารสภาองค์การลูกจ้างฯ การแก้ไขข้อบังคับ และสิทธิสมาชิกที่ชอบด้วยกฎหมาย
อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสี่ในประเด็นที่ว่า จำเลยรับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ตามคำขอของ จ. ฉบับลงวันที่ 16 มีนาคม2535 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นประเด็นตามคำฟ้องของโจทก์ที่ 4 ที่ขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนการรับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับดังกล่าว โดยโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3ไม่ได้ฟ้อง และขอให้บังคับจำเลยในประเด็นนี้ด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสี่ในส่วนที่เป็นอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 1ถึงที่ 3 จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบที่จะรับไว้พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 31 การจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย เป็นเพียงวิธีการทางกฎหมายเพื่อให้ปรากฏหลักฐานทางทะเบียนเท่านั้น และตามข้อบังคับสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ข้อ 19ก็กำหนดไว้เพียงว่า ให้คณะกรรมการบริหารมาจากการเลือกตั้งจากผู้แทนสมาชิกในที่ประชุมใหญ่ ไม่มีข้อกำหนดให้ต้องนำรายชื่อคณะกรรมการบริหารไปจดทะเบียน ดังนั้นแม้จะไม่ได้นำรายชื่อคณะกรรมการบริหารไปจดทะเบียน ก็ถือได้ว่าเป็นคณะกรรมการบริหารที่ชอบด้วยกฎหมาย มีอำนาจพิจารณารับสมาชิกของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย และสมาชิกดังกล่าวมีสิทธิเข้าชื่อขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญทั้งมีสิทธิเข้าร่วมประชุมแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับได้มติที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับจึงเป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ค่าปุ๋ยจากสหกรณ์ที่จำหน่ายให้สมาชิกและหักจากผลผลิตทางการเกษตร
สหกรณ์จำเลยจัดปุ๋ยมาจำหน่ายให้แก่สมาชิกโดยสมาชิกนำปุ๋ยไปใช้โดยยังไม่ต้องชำระราคา แต่เมื่อสมาชิกนั้นทำไร่ได้ผลิตผลเป็นใบยาสูบและนำมาขายให้จำเลย จำเลยจะหักหนี้ค่าปุ๋ยดังกล่าวไว้แม้จะไม่ปรากฏวัตถุประสงค์หรือข้อบังคับของการจัดตั้งสหกรณ์จำเลยก็ตาม แต่ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งสหกรณ์ พ.ศ. 2511 มาตรา 4 บัญญัติให้สหกรณ์เป็นคณะบุคคลซึ่งร่วมกันดำเนินการเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมาตรา 21(9) ก็ให้อำนาจสหกรณ์ที่จะดำเนินธุรกิจและการค้าเพื่อประโยชน์ของสมาชิกได้ เมื่อไม่ปรากฏจากคำคัดค้านหรือข้อนำสืบของผู้คัดค้านว่า จำเลยไม่ติดต่อค้าขายกับบุคคลภายนอกซึ่งมิใช่สมาชิก จึงต้องถือว่าจำเลยจำหน่ายปุ๋ยเป็นปกติธุระแก่บุคคลทั่วไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยเป็นพ่อค้าตามความหมายของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) เดิมหนี้ค่าปุ๋ยดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4062/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนมติสมาคมที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับและการหมดอายุการฟ้องร้อง
ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่แก้ไขข้อบังคับและย้ายที่ตั้งของสมาคม อ้างว่าการลงมติเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับมติที่ประชุมใหญ่จึงเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคำฟ้องขอให้เพิกถอนมติของสมาคมที่ฝ่าฝืนต่อข้อบังคับตาม ป.พ.พ.มาตรา 1291 ซึ่งสมาชิกมีสิทธิจะร้องขอให้เพิกถอน แต่อย่าให้เนิ่นช้าเกินกว่า 1 เดือนนับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4062/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนมติสมาคมที่ฝ่าฝืนข้อบังคับ: สิทธิสมาชิกและการหมดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1291
ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่แก้ไขข้อบังคับและย้ายที่ตั้งของสมาคม อ้างว่าการลงมติเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับมติที่ประชุมใหญ่จึงเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคำฟ้องขอให้เพิกถอนมติของสมาคมที่ฝ่าฝืนต่อข้อบังคับตามป.พ.พ. มาตรา 1291 ซึ่งสมาชิกมีสิทธิจะร้องขอให้เพิกถอน แต่อย่าให้เนิ่นช้าเกินกว่า 1 เดือนนับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น.
of 8