คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สินบน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 103 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3700/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอเงินเพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบปรับ ไม่ถือเป็นความผิดฐานให้สินบน
ข้อความในจดหมายที่จำเลยเขียนถึง บ.พนักงานสอบสวนมีลักษณะขอร้องให้ บ.ช่วยเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปในชั้นสถานีตำรวจโดยไม่ต้องให้คดีถึงศาลเท่านั้นเพื่อทั้งฝ่ายผู้ต้องหาและฝ่ายเจ้าพนักงานตำรวจจะได้ไม่เสียเวลาและเป็นการประหยัดเพราะจำเลยมีความเห็นว่าไม่ว่าจะชั้นศาลหรือชั้นสถานีตำรวจก็ถูกลงโทษปรับเหมือนกัน จึงไม่พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยขอให้หรือรับว่าจะให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่บ.เพื่อจูงใจไม่ให้ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาดังกล่าว อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144,167

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3700/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอค่าปรับเพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีในชั้นศาล ไม่ถือเป็นความผิดฐานให้สินบน
ข้อความในจดหมายที่จำเลยเขียนถึงบ.พนักงานสอบสวนมีลักษณะขอร้องให้บ.ช่วยเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปในชั้นสถานีตำรวจโดยไม่ต้องให้คดีถึงศาลเท่านั้นเพื่อทั้งฝ่ายผู้ต้องหาและฝ่ายเจ้าพนักงานตำรวจจะได้ไม่เสียเวลาและเป็นการประหยัดเพราะจำเลยมีความเห็นว่าไม่ว่าจะชั้นศาลหรือชั้นสถานีตำรวจก็ถูกลงโทษปรับเหมือนกันจึงไม่พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยขอให้หรือรับว่าจะให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่บ.เพื่อจูงใจไม่ให้ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาดังกล่าวอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา144,167.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่แม้ไม่ได้แสดงตัวชัดเจน การให้สินบนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมเป็นความผิด
จ่าสิบตำรวจป.รับราชการเป็นตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย ย่อมเป็นเจ้าพนักงานแม้ขณะเกิดเหตุจะถูกส่งตัวไปช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน มีตำแหน่งหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลปากหมันมีหน้าที่คุ้มครองหมู่บ้านและตำบลป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์และก่อการร้าย ก็เป็นเพียงหน้าที่เฉพาะตามคำสั่งแต่งตั้งของทางราชการ แต่โดยทั่วไปจ่าสิบตำรวจป.ยังมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การที่ จ่าสิบตำรวจป.มายังที่เกิดเหตุเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครอง จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เมื่อจำเลยได้ให้เงินจำนวนหนึ่งแก่จ่าสิบตำรวจป.เพื่อจูงใจมิให้จับกุมจำเลยกับพวกในข้อหามีกัญชาไว้ในความครอบครองการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144. แม้จ่าสิบตำรวจป.ยังมิได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน หรือแสดงความประสงค์ที่จะเข้าทำการตรวจค้นหรือจับกุมจำเลยกับพวก หรือมิได้แต่งเครื่องแบบก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำสารภาพของจำเลยถือเป็นการยอมรับการมีผู้นำจับ แม้โจทก์มิได้สืบพยานก็ฟังได้ว่ามีผู้นำจับ
โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีผู้ประสงค์เงินสินบนนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยทองคำแท่งเป็นของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพและมิได้โต้แย้งเรื่องผู้นำจับเท่ากับยอมรับว่ามีผู้นำจับจริง แม้คำให้การจำเลยจะมีข้อความว่า ส่วนข้อหานอกนั้นขอให้การปฏิเสธ ก็เป็นการ ปฏิเสธข้อหาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด มิใช่ปฏิเสธว่าไม่มีผู้นำจับ ดังนั้นแม้โจทก์ไม่สืบพยาน ก็ฟังได้ว่าคดีนี้มีผู้นำจับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้นำจับได้รับสินบน แม้โจทก์มิได้สืบพยาน ยึดตามคำรับสารภาพจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีผู้ประสงค์เงินสินบนนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยทองคำแท่งเป็นของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพและมิได้โต้แย้งเรื่องผู้นำจับเท่ากับยอมรับว่ามีผู้นำจับจริง แม้คำให้การจำเลยจะมีข้อความว่า ส่วนข้อหานอกนั้นขอให้การปฏิเสธ ก็เป็นการ ปฏิเสธข้อหาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด มิใช่ปฏิเสธว่าไม่มี ผู้นำจับ ดังนั้นแม้โจทก์ไม่สืบพยานก็ฟังได้ว่าคดีนี้มีผู้นำจับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการได้รับสินบนและรางวัลของผู้นำจับและเจ้าพนักงานผู้จับกุมในคดีอาญา
ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดฯผู้นำจับและพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมผู้กระทำผิดมีสิทธิได้รับสินบนและรางวัลโดยพนักงานอัยการเป็นผู้ร้องขอต่อศาลให้จ่ายสินบนหรือรางวัลดังกล่าว การจ่ายสินบนและรางวัลให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายของกลางซึ่งศาลสั่งริบเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ในกรณีที่ศาลมิได้สั่งริบของกลาง หรือของกลางที่ศาลสั่งริบนั้น มิอาจขายได้ให้จ่ายจากเงินค่าปรับที่ได้ชำระต่อศาล ไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติให้จำเลยเป็นผู้จ่ายสินบนและรางวัล
ฟ้องโจทก์บรรยายแยกเป็นข้อ (ก) จำเลยตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ฯ ข้อ (ข) จำเลยนำหรือพาเครื่องวิทยุกระจายเสียงซึ่งผลิตในต่างประเทศโดยมิได้ผ่านด่านศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ ข้อ (ค) จำเลยมีเครื่องวิทยุไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุและโทรคมนาคมฯ และบรรยายในตอนท้ายว่ามีสายลับต้องการสินบนนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเครื่องวิทยุกระจายเสียงจำนวน 1 เครื่องดังกล่าวในข้อ(ก)และ (ข) จำเลยยื่นคำให้การรับสารภาพตามฟ้องข้อ(ก)และ(ค) ส่วนฟ้องข้อ (ข) นั้นรับสารภาพว่าได้รับเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงไว้จริง ศาลได้สอบถามจำเลยแล้วจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยรับสารภาพตามฟ้องดังนี้ ถือว่าจำเลยรับในข้อมีผู้นำจับด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับและจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดฯ ศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับร้อยละ 30 และจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับอีกร้อยละสิบห้า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำขอส่วนนี้ โจทก์ฎีกาขอให้จ่ายสินบนและรางวัลตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาให้จ่ายสินบนนำจับร้อยละสามสิบและรางวัลร้อยละสิบห้าของราคาของกลางเท่าจำนวนที่โจทก์ขอมาในฎีกา โดยจ่ายจากค่าขายของกลาง ของกลางขายไม่ได้ให้จ่ายจากเงินค่าปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม, ให้สินบนเจ้าพนักงาน, และการสนับสนุนความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
จำเลยที่ 1 นำเอกสารปลอมพร้อมด้วยเงิน 5,000 บาทมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำหน้าที่ช่วยเสมียนทะเบียนยานพาหนะ เพื่อให้จัดการจดทะเบียนรถยนต์ให้ จำเลยที่ 2 รับเอกสารปลอมกับเงินนั้นไว้ โดยตกลงรับดำเนินการให้ โดยจำเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอม จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ และจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานรับเงินสำหรับตนเองเพื่อกระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่อยู่แล้ว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อีกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม, ให้สินบนเจ้าพนักงาน, รับสินบน และความสัมพันธ์ของผู้สนับสนุน
จำเลยที่ 1 นำเอกสารปลอมพร้อมด้วยเงิน 5,000 บาท มอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำหน้าที่ช่วยเสมียนทะเบียนยานพาหนะ เพื่อให้จัดการจดทะเบียนรถยนต์ให้จำเลยที่ 2 รับเอกสารปลอมกับเงินนั้นไว้ โดยตกลงรับดำเนินการให้ โดยจำเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอมจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่และจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานรับเงินสำหรับตนเองเพื่อกระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่อยู่แล้วจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สินบนเจ้าพนักงานเพื่อเร่งรัดการอนุมัติก่อสร้างถือเป็นความผิดฐานให้สินบน แม้จะอ้างว่าเป็นการเร่งรัดงาน
จำเลยเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเมืองทองการก่อสร้าง จำกัดได้มอบเงินจำนวน 50,000 บาท แก่นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่พิจารณาอนุญาตให้ทำการก่อสร้างอาคารในเขตเทศบาล เพื่อจูงใจให้นายกเทศมนตรีอนุมัติให้จำเลยปลูกสร้างอาคารโดยเร็ว ทั้งที่เรื่องราวหลักฐานการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารยังไม่เรียบร้อยพอที่จะอนุญาตได้ อันเป็นการมิชอบด้วยหน้าที่ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาให้สินบนเจ้าพนักงาน ทำให้ผู้ให้ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง
การที่ ส.มอบเงินให้จำเลยเพื่อใช้เป็นค่าเดินทางไปติดต่อและนำไปให้เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อให้ช่วยเหลือในคดีที่ ส. ต้องหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น แม้เจ้าพนักงานตำรวจดังกล่าวจะไม่มีตัวตนและจำเลยจะไม่ได้ไปติดต่อกับผู้ใดก็ตาม ก็ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญเพราะเจตนาของ ส.ที่ให้เงินจำเลยเพื่อจำะให้เจ้าพนักงานช่วยเหลือตนที่ต้องคดีอาญาอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของ ส.เป็นการร่วมกับจำเลยในการนำสินบนไปให้เจ้าพนักงานอันอาจถือได้ว่า ส.เป็นผู้ใช้ให้จำเลยไปกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 ส.จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวในความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
of 11