พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องห้ามมิให้รับมรดกโดยอ้างไม่ใช่บุตร ศาลไม่พิพากษาแบ่งมรดกหากโจทก์ไม่ขอ
ปรากฏจากฟ้องและกระบวนพิจารณาว่าโจทก์ประสงค์เพียงขอห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องแก่ทรัพย์มรดกโดยอ้างว่าจำเลยไม่ใช่บุตรของเจ้ามรดกดั่งนี้ ไม่มีประเด็นเรื่องแบ่งมรดก ศาลจึงไม่พิพากษาให้แบ่งกันในชั้นนี้
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้วศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้วศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีเช่าต่ำกว่า 5,000 บาท และค่าเช่ารายเดือนไม่เกิน 2,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง
ในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่ได้รับรองให้ เมื่อคดีมาถึงศาลฎีกาศาลฎีกาเห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224,247,248 ก็ไม่รับวินิจฉัยให้
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่เช่าและเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 5,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และคดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาทก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224,247 การที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าการเช่ามีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการอยู่อาศัย เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่เช่าและเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 5,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และคดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาทก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224,247 การที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าการเช่ามีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการอยู่อาศัย เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมราคาขายมันแข็งสุกร: ห้ามเฉพาะไม่มีหนังติด การขายพร้อมหนังไม่อยู่ในข่ายความผิด
ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร ห้ามแต่การขายมันแข็งไม่มีหนังติดเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ จำเลยได้ขายมันแข็งสุกรโดยมีหนังติดเกินกว่าราคาที่คณะกรรมการฯ ห้ามการขายมันแข็งสุกรไม่มีหนังติดนั้น จำเลยย่อมไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้ามเกี่ยวข้อง - ยกฟ้อง
++ห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้อง
ยกฟ้อง
ยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289-290/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อของที่ได้จากการพนัน: ห้ามทั้งเจ้าของร้านและบุคคลภายนอก
มาตรา 4ที่ห้ามรับซื้อของที่ได้จากการพะนันนั้น,มิได้ห้ามฉะเพาะเจ้าของร้านแต่ห้ามถึงบุคคลภายนอกด้วย. อ้างฎีกาที่ 1081/2481
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับพยานหลักฐานในคดีขายฝาก: ห้ามเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญา
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 491 บัญญัติว่า สัญญาขายฝากคือสัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซื้อโดยมีข้อความตกลงว่าผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์คืนได้ซึ่งตามมาตรา 456 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติไว้ว่า การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ การขายฝากที่ดินจึงเป็นกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง การฟังพยานหลักฐานต้องอยู่ในบังคับของ ป.วิ.พ. มาตรา 94 วรรคหนึ่ง (ข) คือ ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบุคคลในกรณีขอสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น เมื่อตามหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินระบุว่าผู้ขายฝากได้รับเงินจากผู้ซื้อฝากครบถ้วนแล้ว การนำพยานบุคคลมาสืบว่ายังได้รับเงินไม่ครบ ย่อมเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6455/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น vs. ทางภาระจำยอม: คำพิพากษาผูกพัน ห้ามรื้อร้อง
คดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์ขอใช้ทางโดยระบุว่าเป็นทางจำเป็น คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลฟังว่าเป็นทางจำเป็น คำพิพากษาดังกล่าวจึงผูกพันโจทก์และจำเลยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 วรรคหนึ่ง จำเลยจึงไม่อาจกล่าวอ้างในภายหลังว่าเป็นทางภาระจำยอม คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระค่าทดแทนการใช้ทางจำเป็นแก่โจทก์ การที่จำเลยฟ้องแย้งว่าเป็นทางภาระจำยอม โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลย ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่าเป็นทางภาระจำยอม จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148 ทั้งต้องฟังว่าที่ดินของโจทก์เป็นทางจำเป็น โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเงินค่าทดแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1349
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7041/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย โจทก์ละเลยการขอรับรองอุทธรณ์
โจทก์ซึ่งเป็นผู้อุทธรณ์มีหน้าที่ดำเนินการให้มีการรับรองอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 การที่โจทก์เพียงแต่อุทธรณ์ขึ้นไปเฉยๆ โดยมิได้ร้องขอให้มีการรับรองอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ทั้งๆ ที่มีเวลาที่จะดำเนินการถึงแม้โจทก์จะอ้างว่าเหตุที่ไม่ดำเนินการเพราะโจทก์เข้าใจว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายก็เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของโจทก์เอง การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ภาค 7 ต้องส่งสำนวนพร้อมอุทธรณ์ไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งอุทธรณ์ของโจทก์เสียใหม่เพื่อที่โจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอให้รับรองอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2150/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดกเสร็จสิ้นแล้ว ห้ามถอนผู้จัดการมรดก แม้มีเหตุทุจริต
การร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727 วรรคหนึ่ง ผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดต้องร้องขอเสียก่อนที่การปันมรดกเสร็จสิ้นลง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องได้ปันทรัพย์มรดกทั้งหมดแล้วโดยไม่มีทรัพย์มรดกของผู้ตายหลงเหลือให้จัดการอีกต่อไป จึงถือได้ว่าผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกได้จัดการมรดกเสร็จสิ้นแล้ว แม้ผู้คัดค้านจะอ้างเหตุว่าผู้ร้องยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกโดยมีเจตนาทุจริตปกปิดผู้คัดค้านและบุตรซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตาย ทั้งได้โอนทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิ หรือมีเหตุอื่นตามกฎหมายอันอาจเป็นเหตุในการร้องขอถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ก็ตาม ก็ไม่อาจถือได้ว่าการปันมรดกรายดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น การที่ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกภายหลังการปันมรดกเสร็จสิ้นแล้วย่อมต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2561)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2561)