คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อนาถา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 74 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5572-5573/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปลงศพและค่าขาดไร้อุปการะเหมาะสมแก่ฐานานุรูป แม้เป็นผู้ดำเนินคดีอนาถา
แม้โจทก์ทั้งสองได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาก็ไม่ได้หมายความว่าโจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิปลงศพบุตรให้สมแก่ฐานานุรูปโจทก์ทั้งสองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5440/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอดำเนินคดีอนาถาไม่เป็นไปตามขั้นตอน, การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล, และผลของการไม่นำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาล
คำร้องฉบับลงวันที่23ธันวาคม2537ของจำเลยทั้งสองมิใช่เป็นเรื่องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา205วรรคสองเพราะมิได้มีการพิจารณาคดีโดยขาดนัดและการที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่โดยอ้างว่าเสมียนทนายจดวันนัดผิดนั้นหากเป็นจริงก็เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองขาดการเอาใจใส่การพิจารณาคดีของศาลไม่ใช่เหตุที่ยกขึ้นมาอ้างเพื่อขอให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนใหม่ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องจึงชอบแล้ว คำร้องฉบับลงวันที่30ธันวาคม2537ของจำเลยทั้งสองมีข้อความทำนองเดียวกับคำร้องฉบับลงวันที่23ธันวาคม2537โดยมิได้ดำเนินการสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลตามที่บัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคหนึ่งจึงมิใช่คำร้องขอดำเนินคดีอนาถาใหม่ทั้งกรณีของจำเลยทั้งสองเป็นเรื่องขอดำเนินคดีอนาถาในชั้นอุทธรณ์เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยมิได้มีการสืบพยานแม้แต่ปากเดียวกรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่จำเลยทั้งสองจะยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่หาได้ไม่ต้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคห้าที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องจึงชอบแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่23ธันวาคม2537วันนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาว่าหากจำเลยทั้งสองประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายใน7วันเมื่อจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลชั้นต้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2481/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการเพื่ออุทธรณ์หลังศาลยกคำร้องอนาถา: กำหนดเวลาดำเนินการเช่นเดียวกับการชำระค่าธรรมเนียม
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสองในชั้นอุทธรณ์จำเลยทั้งสองย่อมมีสิทธิดำเนินการเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของตนได้คือนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระเสียภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดกรณีหนึ่งหรือยื่นคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่อีกกรณีหนึ่งเมื่อจำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังแม้กฎหมายมาตราดังกล่าวนี้จะไม่ได้กำหนดระยะเวลาให้ยื่นคำร้องไว้แต่เมื่อการใช้สิทธิดำเนินการในกรณีแรกคือนำเงิน ค่าธรรมเนียมมาชำระต้องนำมาชำระภายใน15วันตามคำสั่งศาลชั้นต้นดังนี้การใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังก็ต้องดำเนินการเสียภายใน15วันเช่นเดียวกันเพราะเป็นการใช้สิทธิเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเหมือนกันจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องเมื่อพ้นกำหนด15วันศาลอุทธรณ์ย่อมไม่รับอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2481/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการเพื่ออุทธรณ์หลังศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอนาถา ต้องดำเนินการภายในกำหนดเวลาเดียวกัน
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์จำเลยทั้งสองมีสิทธิดำเนินการเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของตนได้โดยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน15วันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดกรณีหนึ่งหรือยื่นคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่อีกกรณีหนึ่งเมื่อจำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังก็ต้องยื่นคำร้องเสียภายในกำหนด15วันเช่นเดียวกันเพราะเป็นการใช้สิทธิเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเหมือนกันแต่จำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่เมื่อพ้นกำหนด15วันแล้วจึงชอบที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตและไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจำเลยทั้งสองมิได้แก้อุทธรณ์ตั้งประเด็นในปัญหาว่าโจทก์ไม่คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นภายใน8วันจึงหมดสิทธิคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นจำเลยยกปัญหาดังกล่าวขึ้นฎีกาจึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้, ฟ้องซ้อน, การวินิจฉัยนอกฟ้อง, การโอนที่ดินตามสัญญาหย่า, และการต่อสู้คดีของจำเลยในฐานะอนาถา
จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ให้จำเลยรับผิดตามฟ้องโจทก์ทั้งที่ไม่มีข้อตกลงว่าหาก ป. ผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดทั้งหมดนั้นเมื่อจำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การจึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้เมื่อหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้เป็นมูลหนี้ที่ชอบมีผลบังคับได้ตามกฎหมายส่วนมูลหนี้จะเกิดจากการกู้ยืมหรือเกิดจากการขายที่ดินหาใช่ข้อสำคัญไม่ ข้อตกลงที่ ป. จะโอนที่ดินให้แก่โจทก์ตามหนังสือสัญญาหย่ามิใช่เป็นการจะให้ที่ดินแก่โจทก์โดยตรงแต่เป็นการให้ที่เกิดจาก ข้อตกลงตามสัญญา แบ่งทรัพย์สินในการหย่าระหว่าง ป.กับโจทก์ดังนี้ข้อตกลงจะให้ที่ดินดังกล่าวย่อมสมบูรณ์มีผลผูกพันกันได้โดย ไม่ต้อง จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ ป. รับผิดตามหนังสือรับสภาพหนี้ที่ ป. ทำไว้กับโจทก์ส่วนคดีแพ่งของศาลจังหวัดลพบุรีเป็นเรื่องโจทก์ฟ้อง ป. เป็นจำเลยให้ปฏิบัติตามหนังสือสัญญาหย่าที่ ป. ทำไว้กับโจทก์ดังนี้จำเลยในคดีนี้กับจำเลยในคดีดังกล่าวเป็นคนละคนข้อพิพาทก็เป็นคนละประเด็นกันฟ้องโจทก์คดีนี้จึง ไม่เป็น ฟ้องซ้อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5063/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีจากสารบบเนื่องจากจำเลยชำระค่าธรรมเนียมศาลแล้ว ทำให้ประเด็นขอความเป็นอนาถาหมดความจำเป็น
การที่จำเลยขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยได้ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์แล้ว ปัญหาเรื่องอนาถาตามฎีกาของจำเลย จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีที่จะพิจารณาต่อไป ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5063/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเป็นอนาถาและการชำระค่าธรรมเนียมศาล: เมื่อชำระแล้ว ประเด็นเรื่องอนาถาจึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี
การที่จำเลยขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ให้แก่จำเลยแต่เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยได้ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์แล้วปัญหาเรื่องอนาถาตามฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีที่จะพิจารณาต่อไปให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3224/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลอนาถา: ศาลจำกัดเฉพาะทุนทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต หากไม่ชำระส่วนที่เหลือ ถือไม่ติดใจอุทธรณ์
โจทก์ขอดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมให้เฉพาะค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ 100,000 บาทหากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีในทุนทรัพย์ที่มากกว่านี้ก็ให้โจทก์ชำระค่าขึ้นศาลภายใน 10 วัน โจทก์มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่เกินกว่าที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาชำระ แต่ได้มีการขอให้พิจารณาใหม่เพื่อให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาสืบว่า โจทก์เป็นคนยากจนในจำนวนทุนทรัพย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาอีก จำนวน 300,000 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องและให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาชำระตามที่ศาลมีคำสั่งภายใน 15 วัน หากเพิกเฉยถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์ต่อไป เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวโจทก์มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลตามที่ศาลสั่งมาชำระ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามที่ศาลได้ไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้นจึงหมายถึงค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่โจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4486/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนคำร้องอนาถาต้องมีการสืบพยาน หากไม่สืบพยาน คำร้องนั้นเป็นโมฆะ
ชั้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ในศาลชั้นต้นไม่มีการสืบพยานโจทก์เลยแม้แต่ปากเดียว กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติในป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่ โจทก์จะยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการพิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาก่อนคำสั่งรับอุทธรณ์: ศาลต้องพิจารณาคำร้องก่อน
จำเลยยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลต้องมีคำสั่งคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาก่อนมีคำสั่งคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสาม การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยก่อน จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
of 8