พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสื่อปรือรองโขกโบกเป็นเครื่องมือพนันได้ หากใช้ในการเล่นจริง ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องใช้ดุลพินิจ
1. เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย 2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริงแต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อปรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้ 3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป็นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองการริบหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลแต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบก็สั่งไม่ริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบปืนเถื่อน: แม้ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่ได้บัญญัติริบ แต่ศาลมีอำนาจริบได้ตาม ก.ม.อาญา ม.28
ปืนเป็นศาตราวุธร้ายแรงสามารถทำให้ถึงตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย ก.ม.จึงห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเว้นแต่จะได้รับอนุญาตและกำหนดให้ปืนทุกกระบอกต้องมีเครื่องหมายประจำปืน
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามก.ม.อาญา ม.28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม ม.11 เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2477 นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อ ก.ม.อันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม ก.ม.อาญาประการใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามก.ม.อาญา ม.28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม ม.11 เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2477 นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อ ก.ม.อันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม ก.ม.อาญาประการใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบปืนเถื่อน: แม้ พ.ร.บ.อาวุธปืนไม่ได้บัญญัติเรื่องริบโดยตรง ศาลก็มีอำนาจริบได้ตามกฎหมายอาญา
ปืนเป็นศาตราวุธร้ายแรงสามารถทำให้ถึงตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย กฎหมายจึงห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเว้นแต่จะได้รับอนุญาตและกำหนดให้ปืนทุกกระบอกต้องมีเครื่องหมายประจำปืน
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม มาตรา11 เพราะพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2477นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อกฎหมายอันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา ประการใดเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2498)
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม มาตรา11 เพราะพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2477นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อกฎหมายอันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา ประการใดเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบของกลางในคดีชั่งตวงวัด: เจตนารมณ์ของกฎหมายเฉพาะ
ฟ้องคดีอาญานั้น กฎหมายบังคับให้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บัญญัติให้อ้างบทมาตราที่บัญญัติให้ริบของกลางด้วยไม่ฉะนั้นแม้จะไม่ได้อ้างมา ศาลก็มีอำนาจริบได้ในเมื่อโจทก์มีคำขอไว้แล้ว
พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของพระราชบัญญัตินี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใดๆ ตาม พระราชบัญญัตินี้อีกในเมื่อการกระทำนั้นๆ ไม่เป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชยกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งนั้นชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้วยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงาน ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด2466 มาตรา 24 ดำริว่าควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2493)
พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของพระราชบัญญัตินี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใดๆ ตาม พระราชบัญญัตินี้อีกในเมื่อการกระทำนั้นๆ ไม่เป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชยกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งนั้นชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้วยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงาน ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด2466 มาตรา 24 ดำริว่าควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลาง: ใช้กฎหมายในขณะกระทำผิด แม้กฎหมายปัจจุบันจะให้อำนาจริบได้
การริบทรัพย์เป็นโทษทางอาญาอย่างหนึ่งถ้ากฎหมายที่ใช้ในขณะที่จำเลยกระทำผิดให้อยู่ในดุลพินิจของศาล จะริบหรือไม่ริบก็ได้ แต่กฎหมายที่ใช้ในขณะพิจารณาคดีบัญญัติว่าต้องริบ เช่นนี้ต้องใช้กฎหมายในขณะจำเลยกระทำผิด คือศาลจะไม่ริบก็ได้ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สุราต่างประเทศไม่ติดแสตมป์ถือเป็นของผิดกฎหมาย ศาลมีอำนาจริบได้
สุราต่างประเทศที่มิได้ปิดแสตมป์สุราตามกฎหมายนั้นถือว่าเป็นสุราที่เกี่ยวกับการกระทำผิด เป็นสิ่งที่ควรริบได้ตาม ม.20 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับสัตว์น้ำในน่านน้ำสยาม: ความผิดตามกฎหมายและอำนาจริบของกลาง
คนต่างด้าวนำเรือและอวนเข้ามาจับสัตว์น้ำในน่านน้ำสยามเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิจับสัตว์น้ำและ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำซึ่งเป็นบทหนัก การริบทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิ์จับสัตว์น้ำสยามบัญญัติไว้ต่างหากจากกฎหมายอาญา มาตรา 27
ในเรื่องค่าสินบนนำจับถ้าโจทก์ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องในการขอให้ใช้ค่าสินบนศาลไม่ตัดสินให้
อ้างฎีกาที่ 76/2472,770/2480,1168/2480
เกาะซึ่งเป็นอาณาเขตต์สยาม อยู่ห่างฝั่ง 20 ไมล์ไม่มีคนอยู่และกรมการอำเภอไม่เคยไปที่เกาะนั้นเลยก็คงถือว่าเป็นอาณาเขตต์สยาม ใครจะยกการครอบครองขึ้นยันรัฐไม่ได้สนธิสัญญาสยามกับยี่ปุ่น ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.218,220 คดีคนในบังคับยี่ปุ่นเป็นจำเลย ฎีกาภายหลังวันยกเลิกสิทธิถอนคดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 พิพากษาปรับจำเลยอย่างสูง 500 บาท จำเลยฎีกาไม่แต่ฉะเพาะในปัญหาข้อกฎหมาย
ในเรื่องค่าสินบนนำจับถ้าโจทก์ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องในการขอให้ใช้ค่าสินบนศาลไม่ตัดสินให้
อ้างฎีกาที่ 76/2472,770/2480,1168/2480
เกาะซึ่งเป็นอาณาเขตต์สยาม อยู่ห่างฝั่ง 20 ไมล์ไม่มีคนอยู่และกรมการอำเภอไม่เคยไปที่เกาะนั้นเลยก็คงถือว่าเป็นอาณาเขตต์สยาม ใครจะยกการครอบครองขึ้นยันรัฐไม่ได้สนธิสัญญาสยามกับยี่ปุ่น ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.218,220 คดีคนในบังคับยี่ปุ่นเป็นจำเลย ฎีกาภายหลังวันยกเลิกสิทธิถอนคดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 พิพากษาปรับจำเลยอย่างสูง 500 บาท จำเลยฎีกาไม่แต่ฉะเพาะในปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11818/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์สินจากคดีเดิม แม้มีคำสั่งไม่ฟ้องแล้ว แต่หากผู้ต้องหา กระทำความผิดซ้ำ ศาลมีอำนาจริบได้
การยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาหรือจำเลยจะสิ้นสุดลงตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 32 วรรคหนึ่ง อันจะทำให้ต้องคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดนั้น ต้องเป็นกรณีที่เมื่อมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องแล้ว ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องไม่ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดขึ้นอีก เมื่อปรากฏว่าหลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในคดีก่อนแล้ว ผู้คัดค้านที่ 1 มากระทำความผิดเป็นคดีนี้อีก ดังนั้น คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินจึงมีอำนาจตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกยึดมาในคดีก่อนได้ เพราะเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 22 แม้จะมีคำสั่งของพนักงานอัยการในคดีก่อนที่สั่งไม่ฟ้องผู้คัดค้านที่ 1 ก็ไม่ทำให้ต้องคืนทรัพย์สินให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีจำหน่ายยาเสพติด: ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับพยานหลักฐานและอำนาจริบของกลาง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยมิได้ฟ้องฐานเสพเมทแอมเฟตามีน ได้ความจากร้อยตำรวจเอก ส. ว่า ขวดพลาสติกพร้อมหลอดโลหะของกลางเป็นอุปกรณ์สำหรับเสพเมทแอมเฟตามีน ดังนั้น ขวดพลาสติกพร้อมหลอดโลหะของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้องโจทก์ ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งริบได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ริบขวดพลาสติกพร้อมหลอดโลหะของกลางนั้น จึงไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความไม่ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225