คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เคลือบคลุม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งที่เคลือบคลุม ขาดรายละเอียดข้อหาและพยานหลักฐาน ศาลฎีกายกคำร้อง
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสมาผู้แทนราษฎรบรรยายว่า ในการตรวจนับคะแนน ถ้าบัตรนั้นเป็นคะแนนของผู้ร้อง กรรมการก็จงใจตัดสินให้เป็นบัตรเสีย แต่ถ้าบัตรนั้นเป็นคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้ง ถึงแม้จะเป็นบัตรเสีย กรรมการจงใจนับให้เป็นบัตรดี ซึ่งบัตรเสียบัตรดีเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บัตร มิได้กล่าวว่าบัตรเสียนั้นมีลักษณะอย่างไร เสียอย่างไร กรรมการนับบัตรเสียเป็นบัตรดีจำนวนเท่าไร นับบัตรดีเป็นบัตรเสียจำนวนเท่าไร และที่ว่าเพิ่มคะแนนเลือกตั้ง ใช้สิทธิลงคะแนนแทนผู้อื่น จงใจนับคะแนนให้ผิดพลาดจากความเป็นจริง ก็ไม่ได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนน และเสมียนคะแนน ผู้ควบคุมหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดเพิ่มคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครคนใด จำนวนใด ใช้สิทธิลงคะแนนแทนผู้อื่นนั้นเป็นใครบ้างและที่ว่าจงใจนับคะแนนให้ผิดจากความจริง ผิดไปเป็นจำนวนเท่าใด จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งให้เงินแก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ละคะแนนให้แก่ตนเอง มิได้กล่าวว่าให้เงินแก่ผู้ใด ในหน่วยเลือกตั้งใดบ้าง และที่ว่าผู้ได้รับเลือกตั้งจัดพาหนะ คือรถยนต์ให้แก่ผู้เลือกตั้งโดยไม่เสียค่าพาหนะนั้น ไม่ทราบว่ายานพาหนะจำนวนมากน้อยเพียงใด ผู้เลือกตั้งที่รับไปลงคะแนนมีจำนวนมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงของการเลือกตั้งหรือไม่ จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องบรรยาว่าผู้ได้รับเลือกตั้งได้ให้คำมั่นสัญญาแก่บรรดาเจ้าของรถยนต์โดยสารร่วมของบริษัทขนส่งจำกัด สาย 15 ซึ่งวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดอ่างทองกับกรุงเทพมหานครว่า จะติดต่อวิ่งเต้นกับทางราชการไม่ให้รถยนต์โดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด สาย 99 ซึ่งวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับกรุงเทพมหานครวิ่งรับคนโดยสารที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกต่อไป เพราะจะทำให้รถยนต์โดยสารสาย 15 ขาดผลประโยชน์ เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถยนต์โดยสารเหล่านั้นลงคะแนนเลือกตั้งให้นั้นตามคำร้องมิได้กล่าวจูงใจใครบ้างที่ว่าเป็นเจ้าของรถยนต์โดยสาร จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่าผู้ได้รับเลือกตั้งต่อเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในเขตอำเภอป่าโมก อำเภอโพธิ์ทอง ที่มีหน่วยเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้ง ตามคำร้องของผู้ร้องไม่ทราบว่าจะให้เงินแก่วัดใด จำนวนเท่าใด และเพียงแต่รับว่าจะให้เงินแก่วัดเหล่านั้น ไม่ทราบว่าวัดไหน หรือคณะกรรมการวัดไหนตกลงจะช่วยเหลือบ้าง หรือมีการช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้ง: การพิสูจน์ความไม่ชอบมาพากลของการนับคะแนนและข้อเท็จจริงที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในจังหวัดเชียงรายซึ่งผู้ร้องมิได้รับเลือกตั้ง. ได้มีการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทั้งด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งและกรรมการเลือกตั้งทุกหน่วย. และบรรยายการกระทำที่มิชอบว่ากรรมการตรวจนับคะแนนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง. โดยนับบัตรที่มีแต่เลขไทยอย่างเดียวของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย. แต่ของผู้สมัครอื่นนับให้เป็นบัตรดี. ย่อมหมายความว่าได้กระทำดังนี้ทุกหน่วย. แม้จะมิได้บรรยายว่าการนับบัตรชนิดเดียวกันนี้ให้เป็นบัตรดีบัตรเสีย มีจำนวนโดยประมาณเท่าใด. ก็เพราะได้กระทำทุกหน่วยตามที่ผู้ร้องอ้าง. ซึ่งยากที่รู้จำนวนโดยประมาณได้จึงไม่เคลือบคลุม.
คำร้องบรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง. ทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด. เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม. เพราะมิได้บรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชีผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริงอย่างไร. และทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาดอย่างไร. ซึ่งอาจผิดพลาดในทางที่ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนมากขึ้นหรือน้อยลง. คำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียว. ย่อมเคลือบคลุม. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14-15/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องแพ่งเกี่ยวกับพินัยกรรมไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้ระบุวันเดือนปีทำพินัยกรรม
คำบรรยายฟ้องที่ว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้โจทก์ จำเลยบุกรุกเพื่อจะเอาทรัพย์พิพาทเป็นของตน แม้จะมิได้บรรยายว่าพินัยกรรมทำวันเดือนปีใด และแม้จะมิได้แนบสำเนาพินัยกรรมมากับฟ้องด้วย ก็ไม่เป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุม เพราะรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งต้องกล่าวในคำฟ้องคดีอาญา ไม่ใช่ข้อสารสำคัญที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องคดีแพ่ง คำบรรยายฟ้องของโจทก์เพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาต่อสู้คดีได้พอสมควรแล้ว พินัยกรรมทำวันเดือนปีใด เป็นรายละเอียดที่อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่เคลือบคลุมและไม่มีประเด็น ศาลไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การเพียงว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ โดยมิได้ให้การว่า ไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาข้อไหน คำไหน อย่างไร เช่นนี้ถือว่า เป็นคำให้การที่ไม่มีประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่เคลือบคลุมและไม่มีประเด็นชัดเจน ศาลไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การเพียงว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ โดยมิได้ให้การว่า ไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหา ข้อไหน คำไหน อย่างไร เช่นนี้ถือว่า เป็นคำให้การที่ไม่มีประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลฎีกาตัดสินว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้มีการบรรยายข้อหาหลายฐาน
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่า จำเลยลักทรัพย์ ในตอนต่อมาบรรยายว่า จำเลยจึงลักทรัพย์หรือรับของโจร ทรัพย์รายเดียวกันดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาที่บรรยายทั้งฐานลักทรัพย์และรับของโจร ศาลฎีกาเห็นว่าไม่เคลือบคลุม หากได้ใจความว่าโจทก์ไม่แน่ใจฐานความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่า จำเลยลักทรัพย์ ในตอนต่อมาบรรยายว่าจับทรัพย์ได้ที่จำเลย จำเลยจึงลักทรัพย์หรือรับของโจร ทรัพย์รายเดียวกันดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องของฟ้อง: การระบุเวลาในฟ้องอาญาที่ไม่เคลือบคลุมเมื่อเชื่อมโยงกับข้อความอื่นในฟ้อง
ฟ้องข้อ ค. ระบุวันเดือนปีที่จำเลยทำผิดแม้ไม่ได้ระบุว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนแต่เมื่อข้อความในฟ้อง ข้อ ค. ต่อเนื่องกับฟ้อง ข้อข. ซึ่งระบุวันเดือนปีตรงกับฟ้อง ข้อค. และระบุเวลากลางวันไว้ด้วย ทำให้เข้าใจได้ดีว่าการกระทำของจำเลยตามฟ้อง ข้อ ค. ได้เกิดขึ้นแล้วในฟ้อง ข้อ ข. อันเป็นวันเวลาเดียวกันนั้นเอง เช่นนี้ ฟ้องข้อ ค. ไม่เคลือบคลุมในข้อที่ไม่ระบุเวลาว่า กลางวันหรือกลางคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเรียกทรัพย์คืน (กระบือ) ไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดจำนวนเพศกระบือ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า กระบือที่อยู่กับจำเลยฝูงหนึ่งมีจำนวน 33 ตัว เป็นกระบือที่โจทก์เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง โดยโจทก์ได้รับมรดกมาจากบิดามารดา ในขณะที่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ และจำเลยซึ่งเป็นผู้ปกครองโจทก์ได้ปกครองกระบือนั้นไว้แทนโจทก์ ครั้นโจทก์ได้สามีแยกไปจากจำเลยแล้ว ขอแบ่งเอากระบือส่วนของโจทก์ จำเลยไม่ยอมให้โจทก์ จึงต้องฟ้องเช่นนี้ เป็นคำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุมแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องบรรยายในฟ้องว่าเป็นกระบือตัวผู้กี่ตัว ตัวเมียกี่ตัว เพราะนั้นเป็นรายละเอียดมากเกินควรและเกินความจำเป็นที่จะต้องบรรยายสำหรับคำฟ้องเช่นนี้ เพียงเท่าที่โจทก์บรรยายมานั้น ก็แสดงถึงสภาพแห่งข้อหาชัดแจ้งมากพออยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดจำนวนเพศกระบือ หากบรรยายสภาพแห่งข้อหาชัดเจนเพียงพอ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า กระบือที่อยู่กับจำเลยฝูงหนึ่งมีจำนวน 33 ตัว เป็นกระบือที่โจทก์เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง โดยโจทก์ได้รับมรดกมาจากบิดามารดาในขณะที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ และจำเลยซึ่งเป็นผู้ปกครองโจทก์ได้ปกครองกระบือนั้นไว้แทนโจทก์ ครั้นโจทก์ได้สามีแยกไปจากจำเลยแล้วขอแบ่งเอากระบือส่วนของโจทก์จำเลยไม่ยอมให้โจทก์ จึงต้องฟ้อง เช่นนี้ เป็นคำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุมแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องบรรยายในฟ้องว่าเป็นกระบือตัวผู้กี่ตัว ตัวเมียกี่ตัว เพราะนั่นเป็นรายละเอียดมากเกินควรและเกินความจำเป็นที่จะต้องบรรยายสำหรับคำฟ้อง เช่นนี้ เพียงเท่าที่โจทก์บรรยายมานั้น ก็แสดงถึงสภาพแห่งข้อหาชัดแจ้งมากพออยู่แล้ว
of 4