พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากที่เจตนาแท้จริงเป็นการจำนอง ศาลต้องบังคับตามจำนอง
โจทก์ขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทจำเลยต่อสู้ว่าเจตนาแท้นั้นตกลงกันทำจำนองสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางจึงเป็นโมฆะบังคับไม่ได้
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อฝากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรางการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมพ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492
เมื่อพยานหลักฐานฟังว่าได้พูดตกลงขายฝากกันตั้งแต่ต้นตลอดมาจนได้ทำสัญญาขายฝากกัน เมื่อคู่สัญญาตกลงกันเช่นนี้ แม้ภายหลังแทนที่โจทก์จะเข้าครอบครองทรัพย์ที่รับซื้อฝากแต่กลับมอบให้จำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยจำเลยเป็นผู้เสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ขายฝากก็ตาม ก็หากลายเป็นการจำนองหรือนิติกรรมอำพรางการจำนองไปไม่
การขยายเวลาให้ไถ่ถอนคืนต่อไปอีก 3 เดือนนั้นทำขึ้นอีกฉบับหนึ่งต่างหากไม่ทำให้สัญญาขายฝากเดิมเสียไป
สัญญาขายฝากเรือนและห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นไม่ใช่ที่ดินนายอำเภอหรือผู้แทนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาให้ได้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมพ.ศ.2486 แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแท้จริงในสัญญายอมความ: รายการทรัพย์ที่ระบุชัดเจนมีผลเหนือข้อความคลุมเครือ
สัญญายอมความซึ่งข้อความตอนต้นกล่าวว่าให้แบ่งมฤดกตามพินัยกรรม์ แต่ในตอนหลังของข้อเดียวกันนั้นระบุรายการทรัพย์ไว้ชัดแจ้งว่าให้แบ่งทรัพย์อย่างใด ให้ใคร และแบ่งกันอย่างไรซึ่งไม่ตรงกับพินัยกรรม์ ดังนี้ ถือว่าคู่ความมีเจตนาอันแท้จริงที่จะแบ่งทรัพย์มฤดกตามรายการที่ระบุในตอนหลัง
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์,ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์,ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแท้จริงในสัญญายอมความ: รายการทรัพย์ที่ระบุชัดเจนมีผลเหนือข้อความกว้างๆ ในตอนต้น
สัญญายอมความซึ่งข้อความตอนต้นกล่าวว่าให้แบ่งมรดกตามพินัยกรรม แต่ในตอนหลังของข้อเดียวกันนั้นระบุรายการทรัพย์ไว้ชัดแจ้งว่าให้แบ่งทรัพย์อย่างใด ให้ใคร และแบ่งกันอย่างไรซึ่งไม่ตรงกับพินัยกรรม ดังนี้ถือว่าคู่ความมีเจตนาอันแท้จริงที่จะแบ่งทรัพย์มรดกตามรายการที่ระบุในตอนหลัง
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา