คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าของทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 136 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4036/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดโดยไม่แจ้งเจ้าของทรัพย์ การปิดประกาศไม่ชอบ และการบังคับคดีที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
พนักงานเดินหมายปิดประกาศขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทยังบ้านที่จำเลยแจ้งย้ายออกไปแล้ว ไม่ใช่เป็นการปิด ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานของจำเลยและเจ้าพนักงานบังคับคดีใช้วิธีการประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายนัดโดยวิธีธรรมดา ทั้ง ๆที่การส่งโดยวิธีธรรมดายังทำได้อยู่ ย่อมเป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคแรก ถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทไม่ทราบประกาศขายทอดตลาด การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทไปโดยไม่แจ้งให้ทราบซึ่งคำสั่งศาลและวันขายทอดตลาดแก่จำเลย ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี จึงเป็นการดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อ ป.วิ.พ. มาตรา296 วรรคสอง และมาตรา 306

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การติดตามทรัพย์คืนหลังใช้เป็นหลักประกันหนี้ การฟ้องเรียกคืนทรัพย์ไม่มีอายุความ
โจทก์โอนที่ดินพร้อมตึกแถวพิพาทให้จำเลยเพื่อเป็นหลักประกันการที่โจทก์รับวิทยุจากห้างหุ้นส่วนจำกัดปิยะวิทยุไปจำหน่ายและคู่กรณีไม่มีหนี้ต่อกันแล้ว จำเลยจึงต้องโอนที่ดินและตึกแถวพิพาทคืนโจทก์ เมื่อจำเลยไม่ยอมโอนคืน โจทก์จึงฟ้องจำเลยเช่นนี้เป็นกรณีที่โจทก์ในฐานะเจ้าของทรัพย์ฟ้องเรียกติดตามเอาทรัพย์พิพาทคืนจากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาให้เจ้าของทรัพย์ใช้สิทธิเช่นนี้ เว้นแต่จะถูกจำกัดด้วยอายุความได้สิทธิ เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ถูกจำกัดด้วยอายุความได้สิทธิ ดังนั้นคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของทรัพย์สินไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดของผู้นำไปใช้ จึงมีสิทธิขอคืนทรัพย์
แม้ตามสัญญาเช่าซื้อระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 จะมีข้อความระบุถึงความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เช่าซื้อโดยผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบฝ่ายเดียวก็ตาม ข้อสัญญาดังกล่าวก็เป็นแต่เพียงข้อสัญญาที่กำหนดขึ้นเพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้ากับทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ยังไม่พอที่จะถือว่าผู้ร้องต้องการแต่ราคาค่าเช่าซื้อเป็นสำคัญและใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ผู้ร้องเพิ่งทราบจากเจ้าพนักงานตำรวจว่ารถจักรยานยนต์ของกลางถูกยึดหลังจากผู้เช่าซื้อขาดผ่อนชำระเพียงงวดเดียวก็รีบมาร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางทันที เชื่อได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์หลังการขายทอดตลาด: สิทธิของผู้ร้องที่อ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของทรัพย์
ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องอ้างว่าทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้และขายทอดตลาดเป็นของผู้ร้องทั้งสอง โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดทรัพย์ของผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและดำเนินการขายทอดตลาดโดยผู้ร้องทั้งสองไม่รู้เห็นมาก่อนการบังคับคดีจึงกระทำไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการกล่าวอ้างว่าจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้ ขอให้ยกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงเกี่ยวกับการบังคับคดีครั้งนี้ อันมีความมุ่งหมายเพื่อได้รับผลที่จะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ที่ยึดคืนให้แก่ผู้ร้องทั้งสองไปในที่สุด จึงเป็นกรณีที่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 ที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องร้องขัดทรัพย์ มิใช่เป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีตามมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 27 และการจะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ที่ยึดคืนให้แก่ผู้ร้องทั้งสองได้นั้นตามมาตรา 288 วรรคแรก ก็กำหนดให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลก่อนเอาทรัพย์ออกขายทอดตลาด เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไปก่อนแล้ว ผู้ร้องทั้งสองจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องขัดทรัพย์หลังการขายทอดตลาด: ผู้ร้องต้องยื่นคำร้องก่อนการขายทอดตลาด
ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องอ้างว่า ทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้และขายทอดตลาดเป็นของผู้ร้องทั้งสอง โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดทรัพย์ของผู้ร้องทั้งสอง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและดำเนินการขายทอดตลาดโดยผู้ร้องทั้งสองไม่รู้เห็นมาก่อน การบังคับคดีจึงกระทำไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำร้องเป็นการกล่าวอ้างว่าจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้ ขอให้ยกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงเกี่ยวกับการบังคับคดีครั้งนี้ อันมีความมุ่งหมายเพื่อได้รับผลที่จะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ที่ยึดคืนให้แก่ผู้ร้องทั้งสองไปในที่สุด จึงเป็นกรณีที่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องร้องขัดทรัพย์นั่นเอง มิใช่เป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีตามมาตรา 296 วรรคสองประกอบมาตรา 27 และการจะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ที่ยึดคืนให้แก่ผู้ร้องทั้งสองได้นั้น ตามมาตรา 288 วรรคแรก ก็กำหนดให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลก่อนเอาทรัพย์ออกขายทอดตลาด ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไปก่อนแล้ว ผู้ร้องทั้งสองจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5551/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินก่อนล้มละลาย: จำเลยเป็นเพียงผู้ถือสิทธิแทน มิใช่เจ้าของทรัพย์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจเพิกถอนการโอนได้
จำเลยเป็นเพียงผู้มีชื่อใน น.ส.3 ในฐานะผู้ถือสิทธิในที่พิพาทไว้แทนผู้รับโอน หาใช่เจ้าของที่พิพาทไม่ การที่จำเลยโอนที่พิพาทให้แก่ผู้รับโอน มิใช่การโอนทรัพย์สินของจำเลยให้แก่ผู้รับโอน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่อาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการโอนได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 114.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5453/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของทรัพย์สินเช่าซื้อไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำผิดของผู้เช่าซื้อ หากไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
ที่อยู่ของผู้ร้องอยู่ห่างจากที่อยู่ของจำเลยถึง 8 กิโลเมตรผู้ร้องย่อมไม่ทราบว่าจำเลยจะเอารถจักรยานยนต์ไปกระทำผิดเมื่อไรถือไม่ได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยส่วนการที่หากจำเลยหรือผู้ค้ำประกันยังผ่อนชำระราคาอยู่ตามปกติผู้ร้องจะไม่ร้องขอของกลางคืนจากศาลนั้นเห็นว่า เมื่อจำเลยยังไม่ได้ผิดสัญญาเช่าซื้อ ผู้ร้องย่อมไม่มีเหตุหรือความเดือดร้อนที่จะติดตามทรัพย์สินของตนคืนถือไม่ได้ว่าเป็นเรื่องที่ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2534)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สัตยาบันสัญญาขายฝาก: การติดต่อขอซื้อคืนทรัพย์สิน มิใช่การชำระหนี้หรือให้สัตยาบัน
จำเลยและจำเลยร่วมเป็นสามีภรรยากัน จำเลยได้ขายฝากที่ดินและบ้านอันเป็นสินสมรสไว้แก่โจทก์โดยจำเลยร่วมมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย การที่จำเลยร่วมไปติดต่อขอซื้อทรัพย์ที่เป็นสินสมรสดังกล่าวคืนจากโจทก์ กรณีเป็นเรื่องที่จำเลยร่วมใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของตนคืน ดังนี้หาใช่เป็นการชำระหนี้หรือเรียกทวงให้ชำระหนี้อันจะถือเป็นการให้สัตยาบันแก่การขายฝาก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สัตยาบันสัญญาขายฝาก: การติดต่อขอซื้อคืนทรัพย์สินไม่ถือเป็นการให้สัตยาบัน
จำเลยและจำเลยร่วมเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย จำเลยได้ขายฝากทรัพย์ที่เป็นสินสมรสไว้แก่โจทก์โดยจำเลยร่วมมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยการที่จำเลยร่วมทราบเรื่องการขายฝากแล้วได้ไปติดต่อขอซื้อทรัพย์ที่เป็นสินสมรสดังกล่าวคืนจากโจทก์ เป็นเรื่องที่จำเลยร่วมใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของตนคืน ถือไม่ได้ว่าเป็นการชำระหนี้หรือเรียกทวงให้ชำระหนี้อันจะถือเป็นการให้สัตยาบันแก่การขายฝาก (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2534).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4680/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าของทรัพย์ที่ถูกจำนำและไม่คืน การแย่งกรรมสิทธิ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336
โจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจำนำ แต่ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของเหรียญเงินที่ ว. นำไปจำนำแก่จำเลย แล้วจำเลยไม่ยอมคืนให้เมื่อมีการไถ่จำนำ ซึ่งเท่ากับว่าจำเลยได้แย่งกรรมสิทธิ์ในเหรียญเงินของโจทก์มาเป็นของตน โจทก์ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 จึงมีอำนาจฟ้อง.
of 14