คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าของทรัพย์สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3468/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยักยอก การโต้แย้งดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ร่วมมิได้เข้าเกี่ยวข้องกับการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตร แต่องค์การตลาดเพื่อการเกษตรเป็นผู้ซื้อข้าวเปลือกและชำระราคาเอง โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกที่รับซื้อ โจทก์ร่วมอุทธรณ์โดยอ้างเป็นข้อกฎหมายว่าตามคำฟ้องมิได้เกี่ยวข้องกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรและพยานโจทก์ก็เบิกความว่าจำเลยเอาข้าวเปลือกของโจทก์ร่วมไปขายแล้วยักยอกเอาเงินที่ขายได้ไป ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมได้เข้าร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรรับซื้อข้าวเปลือกหรือไม่ ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเป็นการมุ่งประสงค์ที่จะไม่ให้ศาลชั้นต้นรับฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนเพื่อที่จะให้ศาลฟังว่าโจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกพิพาทอันเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงมิใช่ข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3468/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีเบียดบังยักยอก: การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินและการรับฟังพยานหลักฐาน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมมิได้เข้าเกี่ยวข้องกับการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรแต่องค์การตลาดเพื่อการเกษตรเป็นผู้ซื้อข้าวเปลือกและชำระราคาเองโจทก์ร่วมจึงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกที่รับซื้อโจทก์ร่วมอุทธรณ์โดยอ้างเป็นข้อกฎหมายว่าตามคำฟ้องมิได้เกี่ยวข้องกับองค์การรตลาดเพื่อการเกษตรและพยานโจทก์ก็เบิกความว่าจำเลยเอาข้าวเปลือกของโจทก์ร่วมไปขายแล้วยักยอกเอาเงินที่ขายได้ไปศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมได้เข้าร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรรับซื้อข้าวเปลือกหรือไม่ดังนี้อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเป็นการมุ่งประสงค์ที่จะไม่ให้ศาลชั้นต้นรับฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนเพื่อที่จะให้ศาลฟังว่าโจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกพิพาทอันเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงมิใช่ข้อกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539-2540/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: สิทธิของเจ้าของทรัพย์สิน, อำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ, และความชัดเจนของฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ช. คนขับรถยนต์ของจำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง โดยขับรถเข้าไปในช่องทางเดินรถคันที่โจทก์ที่ 3 ขับเป็นเหตุให้รถชนกัน เป็นการบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จำเลยจะเข้าใจได้แล้วฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ฎีกาในประเด็นที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
หุ้นส่วนผู้จัดการห้างโจทก์มี 3 คน และไม่มีข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการคนใดคนหนึ่งย่อมมีสิทธิกระทำกิจการในนามห้างโจทก์ได้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 เจ้าของทรัพย์สินนอกจากจะมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้แล้ว ยังมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย เมื่อจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539-2540/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การบรรยายฟ้อง, อำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ, สิทธิเจ้าของทรัพย์สิน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าช.คนขับรถยนต์ของจำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยขับรถเข้าไปในช่องทางเดินรถคันที่โจทก์ที่3ขับเป็นเหตุให้รถชนกันเป็นการบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จำเลยจะเข้าใจได้แล้วฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม. ฎีกาในประเด็นที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้. หุ้นส่วนผู้จัดการห้างโจทก์มี3คนและไม่มีข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการหุ้นส่วนผู้จัดการคนใดคนหนึ่งย่อมมีสิทธิกระทำกิจการในนามห้างโจทก์ได้. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336เจ้าของทรัพย์สินนอกจากจะมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้แล้วยังมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วยเมื่อจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินในความผิด พ.ร.บ.ข้าว: เจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจ ย่อมมีสิทธิขอคืนได้
การริบทรัพย์สินในความผิดฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขตกำหนดซึ่งไม่ใช่ไปทางทะเลหรือออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวนั้น ต้องใช้บทบัญญัติเกี่ยวกับการริบทรัพย์สินโดยทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ เพราะมิได้มีข้อความระบุให้ริบทรัพย์สินนั้นได้ในกรณีที่เจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดดังกล่าว
ผู้ร้องซื้อข้าวสารของกลางจำนวน 70 กระสอบจากผู้ขาย แม้ผู้ร้องจะยังไม่ได้ชำระราคาข้าวสารนี้ก็ตาม แต่ทางผู้ขายก็ได้ว่าจ้างให้ ย. เอารถยนต์บรรทุกไปส่งให้แก่ผู้ร้อง และดำเนินการขออนุญาตขนข้าวสารรายนี้ข้ามเขตในนามของผู้ร้อง ดังนี้ ขณะที่ขนข้าวสารดังกล่าวไปส่งให้ผู้ร้อง ข้าวสารนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินในความผิดฐานขนย้ายข้าว ต้องพิจารณาเจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วย จึงต้องใช้บทบัญญัติทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญา
การริบทรัพย์สินในความผิดฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขตกำหนดซึ่งไม่ใช่ไปทางทะเลหรือออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวนั้น ต้องใช้บทบัญญัติเกี่ยวกับการริบทรัพย์สินโดยทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ เพราะมิได้มีข้อความระบุให้ริบทรัพย์สินนั้นได้ในกรณีที่เจ้าของทรัพย์สินมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดดังกล่าว
ผู้ร้องซื้อข้าวสารของกลางจำนวน 70 กระสอบจากผู้ขาย แม้ผู้ร้องจะยังไม่ได้ชำระราคาข้าวสารนี้ก็ตาม แต่ทางผู้ขายก็ได้ว่าจ้างให้ ย. เอารถยนต์บรรทุกไปส่งให้แก่ผู้ร้อง และดำเนินการขออนุญาตขนข้าวสารรายนี้ข้ามเขตในนามของผู้ร้องดังนี้ ขณะที่ขนข้าวสารดังกล่าวไปส่งให้ผู้ร้อง ข้าวสารนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร, สิทธิของเจ้าของทรัพย์สินที่เสียภาษีถูกต้อง, และการติดตามเอาคืนจากผู้ซื้อโดยสุจริต
รถยนต์รายพิพาทผู้นำเข้าเสียอากรนำเข้าถูกต้องแล้ว โจทก์รับประกันภัยไว้ รถคันนี้ถูกคนร้ายลักไป โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วรับโอนไว้จากผู้เอาประกันภัย ซึ่งชำระค่าเช่าซื้อรถครบถ้วนแล้ว เจ้าพนักงานศุลกากรของจำเลยจับรถได้ หาว่านำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีอากรแล้วขายต่อไป จำเลยสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ตรวจสอบว่าเป็นรถที่เสียอากรแล้วหรือไม่ เป็นประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 25 ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2497 คำว่าสิ่งใด ๆ ที่พึงต้องริบ นำมาใช้แก่รถยนต์ที่เสียอากรแล้วไม่เป็นสิ่งที่พึงริบ ไม่ได้ แม้เกิน 30 วัน โจทก์ก็เรียกคืนได้ จำเลยซื้อรถโดยสุจริต แต่มิใช่จากการขายทอดตลาด ไม่มีสิทธิดีกว่าโจทก์
เอกสารภาพถ่ายหนังสือของสำนักงานทะเบียนว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลไม่มีเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้อง แต่มีพยานบุคคลเบิกความว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล
กรมธรรม์ประกันภัยมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่คดีนี้มิใช่กรณีบังคับระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย เป็นเรื่องผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิมาฟ้องคนภายนอก ไม่อยู่ในบังคับต้องมีเอกสารมาแสดงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 คำพยานบุคคลของโจทก์ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
บริษัทเป็นผู้เอาประกันภัยโดยผู้เช่าซื้อรถเป็นผู้แทน แม้ไม่มีหนังสือตั้งตัวแทนตามมาตรา 798 แต่มิใช่เป็นคดีระหว่างบริษัทกับผู้ทำการแทนว่าผู้ทำการแทนเป็นตัวแทนนำรถยนต์ มาเอาประกันภัยกับโจทก์หรือไม่โจทก์ไม่ต้องมีเอกสารตั้งตัวแทนมาแสดง
ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้ว ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแล้วมอบสิทธิในรถยนต์แก่โจทก์ แม้กรรมการของโจทก์คนเดียวลงลายมือชื่อรับมอบรถ กรรมการไม่ครบ 2 คนตามข้อบังคับ และไม่ปิดอากรแสตมป์ในใบรับมอบรถ คำพยานบุคคลก็ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับรถเป็นของโจทก์แล้วและไม่ใช่คดีพิพาทกันตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่ต้องนำสัญญาเช่าซื้อมาแสดง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาเช่า - ผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
การเช่าทรัพย์สินเป็นสัญญาที่ผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินนั้นชั่วระยะเวลาอันมีจำกัด ผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ให้เช่า
โจทก์ให้จำเลยเช่าบ้านในฐานะโจทก์เป็นผู้ให้เช่าโดยตรงจึงไม่ต้องมีหนังสือตั้งโจทก์เป็นตัวแทน เมื่อจำเลยผิดสัญญา โจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยโดยตรงย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2438/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสัญญาประกันภัยเมื่อเจ้าของทรัพย์สินหลักประกันถึงแก่กรรมก่อนผิดสัญญา
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาคดีอาญาไว้กับโจทก์โดยได้รับมอบอำนาจจาก จ. ให้นำที่ดินมาเป็นหลักประกัน จ. ถึงแก่กรรมก่อนที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาประกันสัญญาประกันเฉพาะที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของ จ. ที่มอบให้จำเลยที่ 1 นำมาเป็นหลักทรัพย์ประกันรายนี้ก็ย่อมเป็นอันระงับลงไม่ตกทอดไปยังทายาททายาทผู้รับมรดกของ จ. จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าปรับ ให้ โจทก์ตามสัญญาประกันดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมายเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม: สัญญาประนีประนอมยอมความและสิทธิของเจ้าของทรัพย์สิน
โจทก์ได้เช่าตึกพิพาทจาก ส. แต่เข้าครอบครองตึกชั้นล่างไม่ได้เพราะจำเลยครอบครองอยู่ จึงได้มีการฟ้องคดีกันระหว่างโจทก์จำเลยหลายคดี ในที่สุดได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์ยอมให้จำเลยอาศัยอยู่ในตึกพิพาทชั้นล่าง จนสิ้นเดือนมีนาคม 2519 แต่ยังไม่ครบกำหนด โจทก์ก็มาฟ้องคดีนี้ขอให้ศาลหมายเรียก ส.เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วย เช่นนี้ จำเลยอยู่ในตึกพิพาทโดยอาศัยสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยมิได้รบกวนขัดขวางสิทธิโจทก์และไม่ได้โต้แย้งสิทธิของ ส. เมื่อโจทก์ให้จำเลยอาศัยเอง และหากศาลพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี โจทก์ย่อมไม่อาจฟ้องหรือถูก ส. ฟ้องตนได้เพื่อการใช้สิทธิไล่เบี้ยหรือเพื่อใช้ทดแทน และไม่ใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้บุคคลภายนอกเข้ามาในคดี กรณีจึงไม่ชอบที่จะหมายเรียก ส. เข้ามาในคดีตามมาตรา 549 ประกอบด้วยมาตรา 477 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตามาตรา 57(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลจึงบังคับให้ขับไล่จำเลยตามคำขอของ ส. ไม่ได้
of 6